เดือน: ตุลาคม 2021

คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถามกับชาวโซเชียลมีเพื่อนเอาผ้ามือสองมาให้ ดูถูกกัน หรือแสดงความมีน้ำใจ

คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถามกับชาวโซเชียลมีเพื่อนเอาผ้ามือสองมาให้ ดูถูกกัน หรือแสดงความมีน้ำใจ

   คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถาม   มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอไปตั้งกระทู้ในพันทิปเป็นกระทู้คำถามที่เธอนั้นเกิดความสงสัย ว่าสิ่งที่เธอคิดหรือสามีของเธอคิดนั้นเป็นการคิดมากไปเองหรือไม่โดยระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคุณแม่มือใหม่เพื่อนของเธอจึงมีการส่งเสื้อผ้ามาให้

ซึ่งเป็นเสื้อผ้าของเด็ก  โดยเธอมองว่าการที่เพื่อนของเธอเอาเสื้อผ้ามือสองซึ่งเป็นของลูกที่ไม่ได้ใส่ไม่ได้แล้วมาให้เป็นการดูถูกกันและสามีของเธอก็ไม่พอใจพร้อมทั้งไม่ยอมให้ใส่

            เนื่องจากสามีของเธอบอกว่าเขาจะซื้อเสื้อผ้าให้กับลูกของเขาเองถ้าจะให้จะต้องให้เสื้อผ้ามือหนึ่งเท่านั้นและเธอยังกล่าวอีกด้วยว่าเธอมีความคิดเช่นเดียวกันกับสามีของเธอที่สำคัญเวลาที่เพื่อนของเธอทุกคนคลอดลูกออกมาใหม่เธอก็จะซื้อเสื้อผ้าเด็กให้แต่เป็นเสื้อผ้ามือใหม่ไม่เคยให้เสื้อผ้ามือสองเลย  

       แน่นอนว่าหลังจากกระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกมาก็มีคนเข้าไปตอบแสดงความคิดเห็นกันเป็นอย่างมากซึ่งส่วนใหญ่หรืออาจจะกล่าวได้ว่าทุกคอมเม้นที่เข้าไปให้คำตอบนั้นต่างก็บอกว่าตัวเธอและสามีของเธอนั้นเป็นคนคิดมากเพราะทุกคนที่เคยมีลูกเล็กมาก่อนก็เคยได้รับการส่งต่อเสื้อผ้ามือสองมาให้ใช้ทั้งนั้นเนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่มีลูกแล้ว

จะมองว่าเด็กนั้นช่วงแรกๆจะโตเร็วมากดังนั้นถ้าหากว่าซื้อเสื้อผ้ามือหนึ่งให้ใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็จะต้องทิ้งเพราะจะใส่ไม่ได้แล้วเป็นการสิ้นเปลืองจึงสมควรที่จะมีการประหยัดค่าเสื้อผ้าแล้วนำเงินไปใช้จ่ายให้ลูกด้านอื่นๆแทน. 

       ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นก็รับเสื้อผ้ามือสองมาจากญาติหรือเพื่อนฝูงด้วยกันทั้งนั้นเพราะส่วนใหญ่เสื้อผ้ามือสองที่ส่งมาให้นั้นก็จะเป็นเสื้อผ้าที่มีการคัดมาแล้วว่ายังสามารถใช้งานได้และคุณภาพดีบางคนยังระบุด้วยว่าตนเองยังเคยนำเสื้อผ้ามือสองไปให้เพื่อนคนอื่นอีกด้วยในขณะเดียวกันตัวเธอเองก็รับเสื้อผ้ามือสองจากเพื่อนคนอื่นๆที่มีลูกแล้วใส่เสื้อผ้าไม่ได้เอามาใส่เช่นเดียวกัน  

      มีผู้ตอบคอมเม้นรายหนึ่งมีการระบุว่าการจะดูว่าการให้เสื้อผ้ามือสองเป็นการแสดงความมีน้ำใจหรือการดูถูกกันนั้นก็ดูจากเจตนารมณ์ให้ซึ่งถ้าเกิดว่ามีเจตนาที่ดีคนที่ให้เขาจะมีการเลือกเสื้อผ้าที่ดีสะอาดมาให้นั่นคือเป็นการแสดงความมีน้ำใจ

แต่ถ้าหากว่าผู้ให้นั้นเอาเสื้อผ้าทั้งดีและไม่ดีปะปนมาแล้วบอกให้เรามาเลือกเองนั่นแสดงคือการดูถูกโดยพวกเขาต้องการที่จะทิ้งเสื้อผ้าถึงเอามาให้ดังนั้นผู้รับสามารถวิเคราะห์จากคำพูดและการกระทำได้

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่หญิงสาวได้ออกมาขอบคุณทุกคำตอบที่เข้ามาตอบเธอและเธอเข้าใจสิ่งที่ชาวโซเชียสื่อแล้ว



สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา ถูกเจ้าของร้านไล่ที่ 

อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา ถูกเจ้าของร้านไล่ที่ 

  อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา  เชื่อว่าคนที่เกิดในยุค 80 กับยุค 90 ยังรู้จักกับอดีตนางเอกชื่อดังอย่าง  แหม่ม  อลิษา  กันเป็นอย่างดีเพราะหญิงสาวนั้นมีผลงานมากมายหลายอย่างในวงการบันเทิงโดยเฉพาะการเล่นละครซึ่งได้รับบทเด่นๆเช่นการเป็นนางเอกจนเมื่อมีอายุมากขึ้นก็ยังอยู่ในวงการบันเทิงโดยรับบทเป็นแม่    

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19   คนในวงการบันเทิงต่างได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากรัฐบาลได้มีการประกาศห้ามมีการถ่ายโฆษณาและถ่ายละครทำให้นักแสดงหลายคนนั้นไม่มีรายได้

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นอดีตนางเอกชื่อดังอย่าง   แหม่ม  อลิษา    เช่นเดียวกันดังนั้นเมื่อเธอไม่สามารถหารายได้จากการรับเล่นละครเธอจึงได้มีการหารายได้ด้วยการเปิดร้านขายอาหารตามสั่งซึ่งเป็นร้านเล็กๆร้านหนึ่งเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพของตัวเอง

แบบเล็กๆน้อยๆ   โดย  แหม่ม  อลิษา   ได้มีการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวช่องวันว่าหลังจากที่เปิดร้านขายของก็มีรายได้วันละประมาณ 700- 800 บาท

        ซึ่งก่อนหน้านี้มีการรับรีวิวสินค้าบ้างแต่ภายหลังนั้นไม่ค่อยมีใครจ้างรีวิวเนื่องจากว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มาจากการระบาดของไวรัสโควิช- นอกจากนี้ตัวเองยังมีโรคหลายโรครุมเร้ายกตัวอย่างเช่นโรคอ้วน  อย่างไรก็ตามถึงแม้จะต้องเจอกับอุปสรรคมากมายเธอก็ไม่ท้อถอย

และยังคงสู้ชีวิตหลังจากที่เธอเปิดร้านขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่มมาได้สักพักก็เริ่มมีลูกค้าที่ติดใจในรสมือของเธอมาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องทำให้เธอพอมีเงินที่จะเอาไว้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างไรก็ตามเกิดสภาวะการล็อคดาวล่าสุดที่ในจังหวัดที่เธออาศัยอยู่ทำให้รายได้ของเธอเริ่มลดลงอีกครั้งหนึ่งแต่รายจ่ายของเธอนั้นยังคงมีเท่าเดิม

           อย่างไรก็ตามเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมานี้เองปรากฏว่าเจ้าของที่ดินที่เธอเช่าเปิดร้านขายอาหารตามสั่งนั้นได้มาบอกให้เธอย้ายออกจากร้านโดยมาบอกให้เธอย้ายออกจากร้านมีผลทันทีตอนสิ้นเดือนซึ่งในขณะนี้เหลือเพียงเวลาอีกไม่ถึงอาทิตย์เท่านั้นทำให้เธอรู้สึกชอบเป็นอย่างมาก

เพราะเธอไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้าว่าจะต้องไปเช่าร้านที่ไหนในการเปิดร้านอาหารทำกินทำให้เธอรู้สึกกดดันมากในหน้าที่ที่เจ้าของร้านมาบอกให้เธอย้ายออกนั้นเธอรู้สึกช๊อกมากจนเกือบหมดสติ    เธอรู้สึกค่อนข้างเสียความรู้สึกที่เจ้าของร้านไม่บอกเธอล่วงหน้าให้นานกว่านี้ซึ่งมาบอกใกล้สิ้นเดือนทำให้เธอหาที่อยู่ใหม่ไม่ทัน    

         อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนใกล้ชิดกับอดีตนางเอกดังเข้ามาให้การช่วยเหลือซึ่งเธอนั้นก็ให้สัมภาษณ์ว่าเธอจะมีการเริ่มต้นชีวิตใหม่และหาลูกค้าร้านอาหารของเธอใหม่แต่ถ้าหากว่าในอนาคตไม่สามารถที่จะมีรายได้พอเลี้ยงชีพได้เธออาจจะต้องตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัดของเธอ 

 

สนับสนุนโดย.    sa casino ฟรี300

แนะอีก1เดือนเปิดประเทศการฉีดวัคซีนไม่ครอบคุม

แนะอีก1เดือนเปิดประเทศการฉีดวัคซีนไม่ครอบคุม

การฉีดวัคซีนไม่ครอบคุม ส่วนผลการดำเนินการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ตั้งแต่วันที่1กรกฎคมจนถึง 14 กันยายนมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้ว 32,005 คนตรวจพบเชื้อไป 91คน คิดเป็นร้อยละ 0.28 มียอดจองเข้าพัก 524,221 คืนส่วนในพื้นที่พบผู้ติดเชื้อ 229 คนส่วนใหญ่แล้วมีอาการเล็กน้อย

ซึ่งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมีการรายงานว่ายังคงรับมือกับสถานการณ์ได้และภาพรวมของการฉีดวัคซีนทั่วประเทศจากข้อมูลหมอพร้อมมีผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนสะสมกว่า 42,348,489 เข็มโดยฉีดรอบวันที่ผ่านมากว่าประมาณ 280,000 เข็มรวมเข็มแรกฉีดสะสมกว่า 27,981,885 เข็ม ฉีดเข็มที่สองสะสมกว่า 13,587,248 เข็ม ฉีดเข็มที่สามสะสมกว่า 778,811 เข็มและ ฉีดเข็มที่สี่สะสมกว่า 545 เข็มด้วยกัน

โดยกลุ่มเป้าหมายของการฉีดวัคซีนแบ่งเป็นประชาชนทั่วไปกว่า23.2คนผู้มีอายุ60ปีขึ้นไปกว่า8.4ล้านคนผู้มีโรคประจำตัว5ล้านคนบุคคลากรทางการแพทย์กว่า3.4ล้านคนเจ้าหน้าที่ด่านหน้า2ล้านคนและหญิงตั้งครรภ์8หมื่นคนส่วนวัคซีนที่ฉีดนั้นจะเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากว่า18.4ล้านเข็ม ซิโนแวคกว่า17.9ล้านเข็ม ซิโนฟาร์มกว่า5.6ล้านเข็มไฟเซอร์กว่า1.1ล้านเข็มและจอนสันแอนด์จอนสัน6พันเข็มด้วยกัน

ด้านนายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภาได้กล่าวถึงเรื่องการเดินหน้าเปิดประเทศในวันที่1ตุลาคมหรือการเปิดเมืองเพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในบางจังหวัดก็ย้ำว่าขณะนี้โควิด-19สายพันธุ์เดลต้าไม่น่ากลัวแต่ที่ห่วงกว่านี้ก็คือสายพันธ์ที่เกิดขึ้นได้และมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพวัคซีน

ซึ่งทางคุณหมอเองก็เข้าใจว่าการเปิดประเทศเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจนั้นเป็นสิ่งที่หลายๆคนอยากเดินหน้าเข้าไปสู่เรื่องของการฟื้นฟูประเทศแต่อยากให้นำบทเรียนของ ( ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ) มาประกอบการพิจารณาเพราะถือแม้จะฉีดวัคซีนกันครบแต่ก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อได้และถ้าหากยกเลิกมาตรการกักตัวก็จะยิ่งน่าเป็นห่วงด้วย

พร้อมเตือนอีกด้วยว่าการเปิดประเทศที่ไทยเรากำลังทำถือว่าเปิดเร็วกว่าประเทศอื่นๆอันนี้มองในหลักการวิชาการเพราะว่าการเปิดประเทศในต่างประเทศหมายความว่าประเทศนั้นๆจะต้องฉีดวัคซีนเกินร้อยละ70แต่สำหรับประเทศไทยขณะนี้การฉีดวัคซีนเข็มที่1ฉีดไปแค่ร้อยละ38

ในขณะที่การฉีดเข็มที่2มีเพียงร้อยละ18เท่านั้น ซึ่งคุณหมอบอกด้วยว่าหากต้องการความมั่นใจว่าจะเปิดกันจริงเพื่อรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล้วมีความปลอดภัยมากขึ้นอย่างน้อยแล้วต้องฉีดวัคซีนเข็มที่1ได้ร้อยละ60และเข้มที่2ต้องได้ร้อยละ40-50

แต่จะให้เร่งฉีดกันตอนนี้มันคงเป็นไปไม่ได้ความจริงถ้าหากต้องการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติก็ควรจะรออีกหนึ่งเดือนเป็นอย่างน้อยเพราะมันเป็นความเสี่ยงมากที่สุด

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ทดลองเล่นสล็อต gclub

รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ 2 หน้าติด จากบริษัทเอกชนว่าทำงานห่วย

รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ 2 หน้าติด จากบริษัทเอกชนว่าทำงานห่วย

         รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อ   ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดของไวรัสโควิคไม่ได้มีการจัดการยากเฉพาะภายในประเทศไทยเท่านั้นแต่ในหลายประเทศรัฐบาลแต่ละประเทศก็กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหานี้อยู่ซึ่งส่วนใหญ่นั้นพอจะสามารถควบคุมได้ ไวรัสโควิด-19

ก็กลับมาระบาดใหม่อีกรอบหนึ่ง อย่างประเทศไทยก็มีการระบาดมาแล้วถึง 3 รอบด้วยกัน แน่นอนว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้นั้น

ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนและบรรดาเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย  เพราะเมื่อโควิด-19 ยังมีการระบาดมันจะส่งผลต่อธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆนั่นเอง 

      อย่างประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีการระบาดหลายรอบมากมาก และการระบาดของไวรัสโควิดในรอบล่าสุดนี้ สร้างความเสียหายให้กับประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นส่งผลทำให้ประชาชนของญี่ปุ่นเกิดความไม่พอใจกับวิธีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุด

        อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ประชาชนคนญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่พอใจกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเพราะบริษัทเอกชนใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่พอใจอย่างมากเช่นเดียวกันซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าเมื่อวันที่ 21 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2554

  จะได้มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นได้ลงทุนนำเงินที่มีอยู่ไปทำการซื้อโฆษณาจากสื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่งโดยมีการซื้อหน้าหนังสือพิมพ์สองหน้าติดต่อกัน

         และในหนังสือพิมพ์นั้นก็มีการเขียนวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ของประเทศญี่ปุ่นว่ามีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดไวรัสโควิตได้แย่และห่วยมากนอกจากจะมีการออกสื่อทางหนังสือพิมพ์แล้วข้อความนี้ยังมีการเผยแพร่กันไปในโลกออนไลน์ทำให้ข้อความที่บริษัทเอกชนต่อว่าการทำงานของรัฐบาลนั้นมีการพูดถึงกันอย่างเป็นวงกว้างเลยทีเดียว 

         สำหรับข้อความที่มีการลงโฆษณาเอาไว้นั้นจะเป็นรูปภาพประกอบกับข้อความโดยลักษณะของข้อความที่เขียนออกมานั้นเป็นข้อความที่ประชาชนนั้นอดทนกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้มาปีกว่าแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมได้ซึ่งเขามองว่ารัฐบาลกำลังหลอกลวงประชาชนและยังถามหาความรับผิดชอบว่าที่ผ่านมาปีกว่านั้นรัฐบาลทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง

           เพราะในตอนนี้พวกเขาไม่มียาหรือไม่มีวัคซีนที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เลยหรือว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กับเชื้อไวรัส covid ด้วยการใช้หอกไม้ไผ่ต่อสู้กับเชื้อไวรัสเหล่านี้ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่สื่อโฆษณานี้ออกไปก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  สมัคร Gclub

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa