ลูกสาวออกมาแฉ แม่ตนเอง รับเลี้ยงคนพิการแต่สุดท้ายนำทรมาน 

ลูกสาวออกมาแฉ แม่ตนเอง รับเลี้ยงคนพิการแต่สุดท้ายนำทรมาน 

 

มีสาวคนนึ่ง ได้ออกมาแฉแม่ตนเอง ที่เห็นแก่ได้ เงินค่ารับจ้างดูแลคนพิการ รายได้ 8,000 บาทต่อเดือน

แต่ กลับไม่ดูแลใยดีคนป่วยเลย มีการแชร์เรื่องราวนี้ลงวันที่ 29 มีนาคม 256ได้โพสต์เรื่องราว Video ลงทางโซเชียล tik tok สุดจะทนกับการกระทำของแม่ รับเลี้ยงดูคนพิการอัมพาตครึ่งซีก แต่กลับไม่ใยดี คนป่วยเลย ให้ข้าว บูดกิน หรือข้าวที่มีมด ขึ้นมาก่อ ก็ยังให้คนป่วยกิน พอคนป่วย ผู้พิการกินลงไปแล้วนั้น ก็ท้องเสียก็ถูก แม่ของผู้โพสต์ ตี ทำร้ายร่างกายจนร่างกายบอบช้ำ

เพราะว่าอุจจาระ บ่อยและ ท้องเสียก็โดนตีโดนว่าโดนด่า ตนเองเห็นการกระทำของแม่รู้สึกรับไม่ไหวจึงได้มาแชร์เรื่องนี้ ให้กับทุกคนได้รู้เผื่อมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

มารับตัวคนพิการไปดูแลแบบถูกสุขลักษณะอนามัย ซึ่งคนที่ พิการนั้น เป็นญาติพี่น้องกัน โดยซึ่งเธอนั้นเรียกคนพิการว่าน้าเห็น การกระทำแบบนี้ มาบ่อยครั้งแต่ช่วยเหลืออะไรไม่ได้เพราะผู้เป็นแม่จะไม่ให้ยุ่ง ชาวบ้านก็เห็นกันจนเอือมระอา ไม่รู้จะพูดบอกเตือนยังไง ผู้เป็นแม่ก็ด่าไปหมดเลย ซึ่งผู้ป่วยพิการครึ่งซีก เครียด ถึงขั้น ยอมปิดชีพตัวเองมาแล้ว 2 ครั้ง

เพราะไม่อยาก อยู่บนโลกใบนี้ด้วยความทรมานแบบนี้ ซึ่งบางที น้าผู้พิการครึ่งซีก ยังต้องเดินไปเข้าห้องน้ำเอง ด้วยความลำบาก เพราะพิการครึ่งซีก ทำให้อุจจาระและปัสสาวะเรี่ยราดเต็มภายในบ้าน ก็ถูก แม่ที่ดูแล ทุกปีด่าเหมือนเดิมทุกครั้ง

จนครั้งนี้เธอเห็นว่าเป็นอันไม่สมควร จึงทน ไม่ไหวกับการกระทำจึงต้องการ ลงโซเชียล ให้หน่วยงาน ที่รับผิดชอบหรือดูแลช่วยเหลือ เข้ามาช่วยเหลือน้าผู้พิการไปรักษาดูแลอย่างถูกต้อง หลังจากที่เธอได้โพสต์เรื่องราวลงโซเชียลแล้วนั้น ก็มีหน่วยงาน พม. เข้ามารับน้าคนพิการครึ่งซีกไปรักษาดูแลเรียบร้อย

แต่เธอ กลับถูกไล่ออกจากบ้าน เพราะทำให้แม่ถูกด่า แม่รับไม่ได้ จึงด่าว่าเธอเสียๆหายๆสุดท้าย ก็ต้องไล่ให้เธอออกจากบ้าน เธอก็ยินดีที่จะไปหาบ้านอยู่ใหม่ แลกกับความยุติธรรมของน้าที่จะได้รักษาอย่างถูกต้องโดยที่ไม่ต้องทน กับความเจ็บปวดถูกด่าถูกว่าถูกตีและกินข้าวแบบอาหารครบ 5 หมู่

ไม่ต้องกินอาหารบูดแบบนี้เธอก็ยอมยินดีที่จะออกจากบ้านหลังนี้ เพราะถูกขับไล่เหมือนหมูเหมือนหมา สร้างความเดือดร้อนให้กับที่บ้าน เพียงเพราะเธอพูดความจริงกับสิ่งที่เห็นมาตลอด หญิงสาวคนนี้

ดูแล้วเธอก็เป็นพลเมืองดีคนหนึ่ง ที่คอยช่วยเหลือน้าคนพิการให้ได้อยู่แบบผู้ป่วยแบบถูกต้องสุขลักษณะของผู้ป่วยและมีผู้ที่ดูแลความสะอาดอย่างใกล้ชิดถึงเธอจะลำบากโดยที่ต้องออกมาหาบ้านอยู่นั้นเธอก็ยินดีและเธอก็แฮปปี้กับสิ่งที่เธอทำ

ส่วนเรื่องแม่เธอนั้น ในเมื่อไล่เธอออกจากบ้าน เธอก็ยินดี ที่ผลจะออกมาเป็นแบบนี้ ก็คงต่างคนต่างอยู่กันตามที่ผู้เป็นแม่ต้องการ เพราะผู้เป็นแม่นั้น พูด ใส่เธอว่าตัวปัญหา เธอจึง จึงออกมาอยู่คนเดียวเพื่อความสบายใจดีกว่า

 

สนับสนุนโดย    huaydee

จับได้แล้วไอกิ๊ก  ชายหนุ่มผู้ต้องสงสัยฆ่าหญิงสาว หมกห้องพักที่พัทยา 

จับได้แล้วไอกิ๊ก  ชายหนุ่มผู้ต้องสงสัยฆ่าหญิงสาว หมกห้องพักที่พัทยา 

 

จับได้แล้วไอกิ๊ก  ชายหนุ่มผู้ต้องสงสัยฆ่าหญิงสาว หมกห้องพักที่พัทยา

      จากเหตุการณ์ที่จังหวัดชลบุรีค่ายหญิงสาว PR หมดค่าห้องพัก หนีลอยนวล ที่เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2566 จนล่าสุด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบเบาะแส และหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ที่ผู้ก่อเหตุนั้น ได้เข้าพบ เจอผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย เป็นคนเข้าออก หอ พักเป็นคนล่าสุด โดยในภาพวีดีโอนั้น นายกิ๊ก ได้เข้าไป หา ผู้เสียชีวิต

ในตอนกลางคืน และได้ออกมาจากหอพัก ตามที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ อีกวันของวันรุ่งขึ้นช่วงเวลาสายๆ และหลังจากนั้นก็จะไม่พบเห็นชายคนนี้อีกเลย จึงทำให้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ คิดว่าชายคนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยและลงมือฆ่าหญิงสาวแน่นอน

จึงได้รีบตรวจสอบว่าเป็นบุคคลใดได้ทราบชื่อคือนายกิ๊กกิโล 10 น่าจะเป็นฉายาของชายคนนี้ หลังจากที่ พอมีหลักฐานในการมัดตัวของนายคนนี้จึงได้รีบให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำ กำลังเข้า บุกจับนายกิ๊กกิโล 10 ทันที หลังจากที่จับได้แล้วนั้น ก็มีการสอบถาม ว่า ล่าสุดที่ไปพบผู้ตาย ได้มีการทะเลาะหรือไม่เข้า ใจ กัน

หรือไม่จึงได้ลงมือทำร้ายร่างกายจนถึง การเสียชีวิตนายกิ๊กกิโล 10 ให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ได้มาทวงเงินกับผู้ตายแต่ทางผู้ตายนั้น ไม่มีเงินจ่ายให้ และมีการทะเลาะกันก่อนที่จะลงมือฆ่า เพราะบันดาลโทสะ ที่ผู้เสียชีวิตนั้นไม่ยอมพูดจาเจรจาคืนเงินด้วยดีจึงได้ลงมือทำ ใช้มีดแทงเข้าที่ร่างกายของผู้เสียชีวิต

หวยดี   ตามที่พบเจอในห้องพัก ด้วยอารมณ์โมโหและโกรธไม่ได้เงินคืน หลังจากที่ได้ทำร้ายผู้เสียชีวิต ก็รีบกลับบ้าน ทันที เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้สอบสวนเพิ่มเติมว่าทำไมถึงเข้าออกอพาร์ทเม้นท์ของผู้ตายได้ทางผู้ก่อเหตุให้การว่าได้สนิทกับผู้ตายมาก่อนหน้านี้แล้ว

และมีการ ให้ยืมเงิน ตามคนรู้จักกันเป็นเรื่องปกติ จนล่าสุดเคลียร์กันไม่ลงตัว ทะเลาะและพลาดพลั้งมือฆ่าผู้ตาย และไม่รู้ว่าจะ ทำยังไงจึงรีบ หลบหนีไปก่อนเพื่อจะตั้งหลัก โดยการหลบหนีนั้น นายกิ๊กยังได้ใช้จักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตหลบหนีไปยังจังหวัดปราจีนบุรีซึ่งเป็นบ้านของภรรยาของนายกิ๊ก

หลังจากนั้นก็ได้หลบหนีไปอยู่ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นบ้านพักต่างจังหวัดของนายกิ๊ก ซึ่งเจ้าตัว ของผู้ก่อเหตุ ก็พูดกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ารู้สึกผิดไปแล้ว

และอยากจะขอโทษผู้เสียชีวิตและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ที่ได้พลาดพลั้งมือฆ่าผู้ตายไป เหตุหลักเลยก็คือ บันดาลโทสะ โมโห จึงได้ลงมือทำลงไป แต่ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะมาฆ่าตั้งแต่แรก ที่มันจบด้วยการ เสียชีวิตนั้น เพราะพูดเจรจากันไม่ลงตัว จึงเป็นเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ

จึงรีบ นำตัวฝากขังและ สภ.พัทยา เพื่อที่จะ เตรียมตัวนำไปประกอบแผน ในขั้นตอนของการเก็บหลักฐานเพื่อจะนำไป สู่ชั้นศาลในการฝากขังผู้ต้องหา เบื้องต้นน่าจะถูก กล่าวหา ในข้อฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และขโมยทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตหลบหนี

เลิกกันอีกคู่วงการบันเทิง แกรนด์ – เด่นคุณ  หลังจากคบหาดูใจกันมานาน 

เลิกกันอีกคู่วงการบันเทิง แกรนด์ – เด่นคุณ  หลังจากคบหาดูใจกันมานาน 

          หลังจากที่มีการใบ้จากวงใน ว่ามีคู่ดารา พระเอกดัง และนักร้องสาว เลิกกัน ชาวเน็ตก็ต่างพากันคาดเดาไปหลายๆคู่จนล่าสุด ทางคุณเด่นคุณ ได้ออกมา ให้นักข่าว ได้สัมภาษณ์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และยอมรับว่าได้มีการ พูดคุยและตกลงเลิกกับทาง แกรนด์ เดอะสตาร์จริง เพราะความ คิด และ เข้ากันไม่ได้

ซึ่งก่อนหน้านี้ ทั้งคู่ ได้มีการปรับ ทุกอย่าง กันแล้ว ก็ยังไม่ลงตัว จึงได้ยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้ลง เนื่องจากว่า หากคบกันไปแล้วไม่มีอนาคตร่วมกันจึงคิดว่ามันเสียเวลาเปล่า

และครั้งนี้ก็เป็นคนยอมรับผิดเองที่เป็นคน ที่บอกเลิกกับฝ่ายหญิงก่อน ซึ่งทางด้านตนเองนั้นอยากจะมีครอบครัว และแต่งงานใช้ชีวิตตามปกติ ของคนทั่วไป และเรื่องนี้อาจจะทำให้เป็นการพูดคุยและปรับจูนไม่เข้ากัน จึงทำให้ การตกลงออกมาไม่เป็นผลทำให้เกิดการยุติในครั้งนี้

โดยทางด้านคุณเด่นคุณนั้น ก็ ยอมรับว่าเสียใจ กับการยุติความสัมพันธ์ในครั้งนี้ เพราะทั้งคู่ก็ได้คบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลา 7 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ค่อนข้างนาน คบหากันมาได้นานแล้ว ก็อยากจะใช้ชีวิตคู่ รู้สึกเสียดายกับ สิ่งที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังดีกว่า หากไปต่อแล้วสุดท้ายก็จบ ด้วยการยุติความสัมพันธ์ลงแบบนี้ ความคิดเห็นของทั้งสองไม่ตรงกัน

จึงต้องเลิกกันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตมนุษย์คนเราและก็ใช้ชีวิตตามปกติต่อไป ซึ่งการเลิกราในครั้งนี้ก็เป็นการตกลงยินยอมกันทั้งสองฝ่ายด้วยดีไม่มีมือที่สามแต่อย่างใด เป็นการตกลงพูดคุยกันเข้าใจแล้ว และต่อจากนี้ไป ทางด้านคุณเด่นคุณนั้นก็คงจะ หาเงิน ทำงาน ส่วนเรื่องของอนาคตนั้น

ยังไม่คาดคิดไว้ก่อน หากมีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็จะคอยอัพเดทให้ทราบ ส่วนทางด้านคุณแกรนด์นั้นหลังจากที่คุณเด่นคุณได้ออกมา ชี้แจงสัมภาษณ์ให้กับนักข่าวถึงเหตุผล ที่ทั้งคู่ได้ยุติความสัมพันธ์ลงแล้วนั้นก็ได้ออกมาพูดอีกเช่นกัน ว่าการเลิกราในครั้งนี้เป็นการเลิกราทั้งที่ยังรักและห่วงใยกัน

แต่ ความคิดของทั้งคู่ ไม่ตรงกัน ไม่สามารถที่จะปรับจูนให้เข้ากันได้ และการตกลง ในเรื่องบางอย่าง มันยังเป็นไปไม่ได้ ตรงตามความต้องการของแต่ละฝ่าย ก็ยอมรับว่า การคบหาดูใจกันมาเป็นระยะเวลา 7 ปี ก็มีทั้งความรักความผูกพันกันมากขึ้นแต่หากทั้งคู่ลองปรับจูนเข้าหากันแล้ว

แต่มัน ไม่ลงตัว ก็ต้องแยกย้ายไปใช้ชีวิต ส่วนตัว โดยเป็นการตกลงพูดคุย กันดีแล้ว และที่ผ่านมา ก็มีความสุขดีทั้งเรื่องของการใช้ชีวิต ของทั้งคู่ ทางด้านคุณแกรนด์นั้น ให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตาก็ยอมรับว่าเลิกลากันในครั้งนี้ก็ยังรัก และห่วงใยเหมือนเดิมอยู่เสมอ

แต่ในเมื่อ การใช้ชีวิตมันมีความคิดที่แตกต่างกันไปคนละมุมจึงไม่สามารถที่จะลงตัวกันได้ ก็ต้องแยกย้ายและยุติความสัมพันธ์ ระยะเวลา 7 ปีนี้ลง และก็ยังเป็นพี่น้องในวงการบันเทิง ที่จะแสดงความยินดีซึ่งกันและกัน และให้กำลังใจกัน และต่อไปนี้ ก็จะใช้ชีวิต ต่อไปทำงานหาเงิน เพื่ออนาคตที่ดี

 

สนับสนุนโดย    เว็บหวยดี

ใบเตย และดีเจแมน ศาลค้านให้ประกันตัว ต้องเข้าเรือนจำ 

ใบเตย และดีเจแมน ศาลค้านให้ประกันตัว ต้องเข้าเรือนจำ 

ล่าสุดวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 ได้มีการนัดเจอ ตามหมายศาลอีกครั้ง หลังจากที่ทั้งคู่ ดีเจแมนและใบเตยได้เลื่อนออกมาจากครั้งที่แล้ว และครั้งนี้ ก็ได้มาตาม

ตกลงที่นัดหมายไว้ ในกรณี เกี่ยวกับ คดีแชร์ลูกโซ่ Forex 3D และ ผิดในข้อหา ที่ชักชวนผู้อื่น ให้มาลงทุนและหลอกลวงประชาชน จนในที่สุด ทางศาลก็ได้มีการออกหมาย จับ ดีเจแมนและใบเตยอาร์สยาม ทั้งคู่จึงจะต้อง เข้าสู่เรือนจำ แยกกันอยู่ เนื่องจากว่า ผิดตามข้อกล่าวหาและจำนวนต่อหลักฐานทั้งหมดที่ทางศาลได้รับข้อมูล พร้อมกลุ่มพวกที่มีรายชื่อทั้งหมดอีก 6 คน ทาง 3 คัดค้านการประกันตัว

ไม่มีการให้ประกันตัวแต่อย่างใด และไม่มีข้อเสนอใดๆ ต้องเข้าสู่เรือนจำ ตามข้อกฎหมาย ได้ถูกเจ้าหน้าที่ ราชทัณฑ์ นำตัวไปยังเรือนจำ กรุงเทพฯ และ ทัณฑสถานหญิงกลาง โดยหลังจากที่ทั้งคู่นั้นได้ทราบว่า ถูกศาลคัดค้านการประกันตัว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นเสนอขอคัดค้านประกันตัวในจำนวนเงิน 5 ล้านบาท

แต่ทางศาลไม่อนุมัติให้ ประกันตัวแต่ยังได้จึงทำให้ คุณใบเตย และดีเจแมนสามีภรรยาคู่นี้ สีหน้า เคร่งเครียด อยู่ในสภาวะที่เครียด เป็นห่วงลูกสาวน้องเวทมนต์ ที่ขาดทั้งพ่อและแม่

ในการดูแล ทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะให้ สัมภาษณ์แต่อย่างใดถูกนำตัว ไปยังทัณฑสถาน เรือนจำตาม หมายศาล เช้าของวันที่ 10 พฤษภาคม 2566 นั้น ทางผู้คุม ทัณฑสถานของทั้งดีเจแมนและคุณใบเตย ได้มีการ ออกมาพูดชี้แจงข้อมูลว่าทั้งคู่นั้นไม่มี การได้รับสิทธิ์ ที่จะได้อยู่ พิเศษกว่าผู้ต้องขังคนอื่น

โดยอยู่รวมกับกรณีอื่นทุกอย่างปฏิบัติเหมือนทุกคนที่เข้าไปในเรือนจำคุณใบเตยนั้น เข้าไปวันแรกอยู่ในสภาวะเครียด นอนไม่หลับ ไม่รับประทานอาหาร ได้แต่นั่งซึมเศร้า ไม่พูดไม่จา ทางด้านดีเจแมน ปรับตัวได้ตามสถานการณ์ นอนได้กินข้าวได้ตามปกติไม่มีสภาวะเครียดแต่อย่างใด

โดยเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานที่ทั้งคู่ได้เข้าไปอยู่นั้น ก็ยืนยันว่า ทั้งคู่นั้นไม่ได้มีการ ดูแลเป็นพิเศษแต่อย่างใด ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนปฏิบัติของทางเจ้าหน้าที่ทัณฑสถานทุกหน่วยงาน ที่จะดูแล

ผู้ต้องขังในเรือนจำ เสมอภาคในสิทธิ์ของมนุษย์ที่อยู่ในเรือนจำทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีการแบ่งแยก ส่วนทางด้านคุณพ่อของคุณใบเตยนั้น หลังจากที่ได้มาส่งลูกสาว ขึ้นรถ ไปทัณฑสถานหญิงกลาง ก็ได้แต่ยืนเฝ้ามองลูกสาวบนรถ และน้ำตาคลอ สงสารลูกสาว

แต่ก็ต้องให้เป็นไปตามขั้นตอนของทางเจ้าหน้าที่ อยากจะฝากบอกลูกสาวว่า ไม่ต้องเป็นห่วงน้องเวทมนต์หลานสาว ทางคุณตาจะดูแลเป็นอย่างดี หาก เป็นไปได้ พอจะมีหลักฐาน

ทางด้านทนายก็จะไปยื่นต่อศาลเพื่อประกันตัวออกมาใช้ชีวิตตามปกติโดยอาจจะต้องมีการใส่กำไร EM ในการใช้ชีวิต ในโลกภายนอก และไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ ทุกอย่างก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมายตามขั้นตอนของทาง เจ้าหน้าที่ ต้องยอมรับกับคนที่ออกมา

 

สนับสนุนโดย    Huaylike

ความผิดทางอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด ในประเทศไทย

ความผิดทางอาญาเกี่ยวกับยาเสพติด ในประเทศไทย

            ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและข้อหายาเสพติดในประเทศไทย   ยาเสพติดและสารเสพติดเป็นปัญหาที่น่าวิตกในประเทศไทยมาช้านาน

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ในช่วง 6 เดือนตั้งแต่ปลายปี 2564 ถึงต้นปี 2565 ทางการไทยยึดยาเสพติดได้ 260 ล้านรายการและยึดทรัพย์สินมูลค่าเกือบ 2.4 พันล้านบาทจากผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด   ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอยู่ภายใต้กฎหมายไทยหลายฉบับอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง พ.ร.บ.ยาเสพติด และ พ.ร.บ.วัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท  

การบริโภค การจำหน่าย และการครอบครองสารเสพติดและสารปรุงแต่งยาใด ๆ จะถูกควบคุมและตรวจสอบโดยสำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ     ประเทศไทยได้ชื่อว่ามีนโยบายเข้มงวดในการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับยาเสพติดและการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด  

รัฐบาลพยายามแก้ไขปัญหาการค้ายาเสพติดด้วยบทลงโทษที่รุนแรง เช่น จำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต  อย่างไรก็ตามเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาของประเทศอย่างต่อเนื่อง

จึงมีการปรับปรุงกฎหมาย   ความเคลื่อนไหวของประเทศไทยในการทำให้กัญชาถูกกฎหมายเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจสำหรับพลเมืองโลก และกฎหมายใหม่นี้เน้นไปที่การบำบัดฟื้นฟูผู้กระทำความผิดมากกว่า   

แม้ว่ากฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดและสารเสพติดในราชอาณาจักรจะได้รับการผ่อนปรนในระดับหนึ่ง แต่การครอบครองและการค้ายาเสพติดยังอาจนำมา

ซึ่งบทลงโทษที่รุนแรง ชาวต่างชาติที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดียาเสพติดอาจเผชิญกับปัญหาทางกฎหมายร้ายแรงและถูกส่งตัวข้ามแดนไปยังประเทศบ้านเกิดของตน     การรับทราบแง่มุมที่สำคัญของกฎหมายยาเสพติดและสารเสพติดในประเทศไทยเป็นสิ่งที่มีค่ายิ่ง เพื่อป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงการถูกปรับหรือจำคุกจำนวนมาก   

กฎหมายยาเสพติดในประเทศไทย   ปัญหาหนึ่งในประเทศไทยเมื่อพูดถึงการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดคือจำนวนผู้ต้องขังจำนวนมากที่ถูกคุมขังเนื่องจากข้อหายาเสพติดต่างๆ

ตั้งแต่คดีล่วงละเมิดส่วนตัวไปจนถึงการค้ายาเสพติด   แม้จะใช้โทษรุนแรง แต่ความพยายามในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดก็ไม่เกิดผล  ทางการไทยจึงตัดสินใจปฏิรูปกฎหมายยาเสพติดและแสวงหาแนวทางที่แตกต่างออกไป   กฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่มีเป้าหมายที่จะให้โอกาสครั้งที่สอง โดยเฉพาะกับผู้กระทำผิดรายย่อย

โดยเน้นที่การรักษามากกว่าวิธีการลงโทษ  ในทางกลับกัน การลงโทษที่รุนแรงยังคงมีอยู่เพื่อขจัดอาชญากรรมยาเสพติดที่ก่อตัวเป็นองค์กร    เช่น ผู้ต้องโทษคดียาเสพติดร้ายแรง เช่น นำเข้า ส่งออก ผลิต จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ในปริมาณมาก อาจต้องรับโทษจำคุกถึง 15 ปี

และเสียค่าปรับ 1.5 ล้านบาท บาท. แม้ว่าบทลงโทษอาจดูรุนแรงน้อยกว่าเมื่อเทียบกับกฎหมายฉบับก่อน แต่โทษจำคุกตลอดชีวิตหรือโทษประหารชีวิตยังคงเป็นคำตัดสินที่เป็นไปได้

สำหรับบุคคลที่ควบคุมเครือข่ายยาเสพติด   สำหรับผู้ที่ครอบครองยาเสพติดโดยผิดกฎหมายไว้ใช้เอง การฟื้นฟูมีความสำคัญมากกว่าการดำเนินคดี บุคคลเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนให้เข้ารับการบำบัดและเข้ารับการฟื้นฟูสมรรถภาพ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่ครอบครองและเงื่อนไขอื่นๆ อย่างไรก็ตาม การใช้ยาส่วนตัวยังคงเป็นความผิดทางอาญา   

 

สนับสนุนโดย    หวยดี.com

ยิ่งกว่าบุญหล่นทับ  เมื่อเจอของที่ลืมไว้นานกว่า 7 ปี 

ยิ่งกว่าบุญหล่นทับ  เมื่อเจอของที่ลืมไว้นานกว่า 7 ปี 

เว็บไซต์ Sao  Star เปิดเผยเรื่องอะไรของชายชาวจีนคนหนึ่ง ซึ่งเป็นการเปิดเผยเรื่องราวที่สามารถบอกได้เลยว่าชายชาวจีนรายนี้ช่างโชคดีมากๆ 

ซึ่งเรื่องราวที่นำมาเปิดเผยและระบุว่าชายคนดังกล่าวได้ทำความสะอาดเก็บกวาดบ้านตามปกติ แต่ที่พิเศษก็คือเขามีการจัดตู้เสื้อผ้าใหม่และ  ระหว่างที่มีการจัดตู้เสื้อผ้าอยู่นั้นปรากฏว่าเขาก็ได้เจอซองแดงซุกซ่อนอยู่ในตู้เสื้อผ้าซึ่งมีมากถึง 100 ซองด้วยกัน

และเมื่อมีการแกะซองแดงดูก็พบว่าภายในซองนั้นมีธนบัตรอยู่ซองละ 100 หยวนและเมื่อแกะทุกซองมานับรวมกันก็พบว่าเงินมีรวมกันแล้วสูงถึง 10,000 หยวน ซึ่งถ้าหากคิดเป็นเงินไทยก็สามารถประมาณได้ราวๆ 50,000 บาทเลยทีเดียว 

สำหรับชายซึ่งเป็นผู้โชคดีชาวจีนรายนี้เขาอยู่อาศัยในเมืองถู่เถียน  โดยอยู่ในมณฑลเจียงซู  โดยเขาระบุว่าเขาจำไม่ได้แล้วว่าเขาได้มีการแทรกซองแดงเอาไว้

ซึ่งเมื่อนึกย้อนดูไปแล้วซองแดงนี้น่าจะอยู่กับเขามานานกว่า 7 ปีแล้วและด้วยความบังเอิญในครั้งนี้ก็ทำให้เขาโชคดีได้มีเงินใช้อีก 10,000 หยวน  ซึ่งซองแดงดังกล่าวนั้นเป็นซองแดงตั้งแต่สมัยที่ตัวเขาและภรรยาแต่งงานกันและซองนี้ก็ได้มีการเตรียมเอาไว้เพื่อใช้ในงานแต่งงาน โดยมีการเตรียมเอาไว้มอบให้ครอบครัวของฝ่ายเจ้าสาวและเพื่อนๆของฝ่ายเจ้าสาวนั่นเอง  

อย่างไรก็ตามสาเหตุที่ซองแดงนั้นยังอยู่นั่นก็เพราะว่าในงานแต่งงานเจ้าบ่าวยุ่งมากจนลืมไปว่าเขาได้มีการเตรียมซองเอาไว้แจกบรรดาเพื่อนๆและครอบครัวของเจ้าสาวจึงไม่ได้นำซองนั้นไปแจกจ่ายให้กับใครเลยและได้มีการเก็บซองไว้ในตู้เสื้อผ้าซึ่งอยู่ทางด้านล่างสุดของตู้ทำให้พวกเขาไม่เคยพบซองแดงเหล่านี้มาเป็นเวลานานกว่า 7 ปีเพราะเสื้อผ้าและสิ่งของอื่นๆวางทับถมกันอยู่

สำหรับใครก็ตามที่กำลังคิดจะเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่และอาจจะต้องมีการนำสิ่งของไปทิ้งแนะนำว่าก่อนจะทิ้งสิ่งของใดๆก็ตามควรจะต้องมีการเปิดดูให้ดีเสียก่อนว่าเราได้มีการเผลอซุกซ่อนเงินอยู่ข้างในหรือไม่ เนื่องจากเรามักจะได้ยินอยู่บ่อยครั้งว่าผู้คนนั้นนำเงินไปซ่อนแอบไว้ตามซอกหรือต่างๆหรือแม้แต่ตามกล่องตามตู้ต่างๆแล้วลืมว่าตนเองและซ่อนเงินเอาไว้กว่าจะไม่รู้ตัวอีกที

 กว่าจะรู้ตัวอีกทีเงินก็ถูกพวกปลวกกัดกินจนย่อยไปหมดแล้วหรือบางคนก็นำเตียงนอนไปทิ้งและลืมไปว่าเคยวางทองและวางเงินไว้ในตู้หัวเตียงก็มี ซึ่งข่าวคราวเหล่านี้เรามักจะพบเห็นกันเป็นประจำ   

 

สนับสนุนโดย      หวยดี

ชายคบสาวใหญ่บอกเลิกทันทีหลังจูบแรก เพราะทนกลิ่นคนแก่ไม่ไหว 

ชายคบสาวใหญ่บอกเลิกทันทีหลังจูบแรก เพราะทนกลิ่นคนแก่ไม่ไหว 

สำหรับความรักนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย และเรามักจะพบเห็นคู่รักต่างวัยอยู่เสมอโดยในยุคก่อนๆนั้นเรามักจะเห็นคู่รักต่างวัยที่ฝ่ายชายนั้นจะอายุมากกว่าฝ่ายหญิงแต่ในยุคสมัยปัจจุบันนั้นอายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้นเพราะเราจะเห็นได้ว่าบางคู่ฝ่ายหญิงอายุมากกว่าฝ่ายชาย 5 ปีหรือ 10 ปีหรือบางคน  15 ปีก็มี 

ดังนั้นจึงอาจกล่าวได้ว่าในยุคสมัยสังคมปัจจุบันนั้นการที่จะมีคู่รักต่างวัยนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรและสังคมไทยหรือแม้แต่สังคมของชาติตะวันตกก็สามารถยอมรับเกี่ยวกับความรักต่างวัยกันได้

เพราะความรักต่างวัยนั้นถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลและเป็นความชื่นชอบส่วนตัวของแต่ละคน  ที่ไม่ได้ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร 

อย่างไรก็ตามล่าสุดเว็บไซต์ชื่อดังของไชน่าทาวน์ได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของชายชาวไต้หวันรายหนึ่งซึ่งเขานำเรื่องราวของตนเองมาเปิดเผยลงในโลกออนไลน์

โดยเรื่องราวที่ถูกนำมาเปิดเผยนั้นกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมาก

สำหรับเรื่องราวที่ชาวชายไต้หวันรายนี้ได้มีการนำมาโพสต์นั้นระบุว่าตัวเขาเองนั้นมีความรักต่างวัยโดยตัวเขานั้นอายุน้อยกว่าฝ่ายหญิงถึง 10 ปีซึ่งตัวเขาเองนั้นอายุเพียงแค่ 30 ปีเท่านั้นขณะที่แฟนสาวของเขานั้นอายุ 40 ปี แต่ปัญหาเกิดขึ้นภายหลังจากที่ตัวเขาและแฟนสาวตัดสินใจที่จะมีจูบแรกด้วยกันซึ่งฝ่ายชายนั้นได้จูบฝ่ายหญิงแล้วรู้สึกไม่ประทับใจ

โดยเจ้าของโพสต์ระบุว่าเมื่อตัวเขานั้นเข้าใกล้ฝ่ายหญิงและได้ทำการจูบแฟนสาวปรากฏว่าเขารู้สึกถึงกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ซึ่งกลิ่นที่เขาได้มานั้นเป็นกลิ่นเหมือนกับคนแก่ ทำให้เขารู้สึกอยากจะอ้วกจนในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลิกคบกับแฟนสาวเพราะเขาไม่สามารถทนกลิ่นคนแก่จากตัวแฟนสาวของเขาได้ 

อย่างไรก็ตามภายหลังจากเรื่องราวของชายชาวไต้หวันรายนี้ถูกโพสต์ไปในโลกออนไลน์ก็เกิดกระแสดุเดือดจากทางชาวโซเชียลโดยเฉพาะสาวๆโดยมองว่าคนอายุเพียงแค่ 40 ปีเท่านั้นจะมีกลิ่นคนแก่ได้อย่างไรและฝ่ายชายรู้ได้อย่างไรว่ากลิ่นที่ได้กลิ่นนั้นเป็นกลิ่นของหญิงชราหรือกลิ่นคนแก่  ซึ่งถ้าหากฝ่ายชายรักฝ่ายหญิงจริงแต่ไม่ชื่นชอบกลิ่นตัวของฝ่ายหญิงฝ่ายชายก็ควรที่จะบอกฝ่ายหญิงตามตรงเพื่อที่ฝ่ายหญิงนั้นจะได้ไปปรับปรุงและแก้ไขกลิ่นตัวของตนเอง 

สำหรับปัญหากลิ่นตัวนั้นมีมากมายหลายสาเหตุโดยคนที่อายุ 40 ปีจะยังไม่มีกลิ่นตัวของคนชราแต่อาจจะเป็นปัญหาเกี่ยวกับทางด้านสุขภาพเช่นอาจจะมีแบคทีเรียหรือมีเหงื่อออกมากจนเกินไปหรือต่อมไขมันและต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ  ซึ่งปัญหาดังกล่าวนั้นสามารถแก้ไขได้ด้วยการดูแลเรื่องของสุขภาพและอาหารที่กิน

 

สนับสนุนโดย   เว็บหวยดี

ผัว ห้ามเมียไม่ให้ไปบ้านเพื่อน แต่เมียไม่ฟัง ตามไปจ่อยิงเสียชีวิตที่บ้านเพื่อน

ผัว ห้ามเมียไม่ให้ไปบ้านเพื่อน แต่เมียไม่ฟัง ตามไปจ่อยิงเสียชีวิตที่บ้านเพื่อน

ทุกวันนี้มีข่าวยิงกันแทบจะทุกวัน การใช้อาวุธปืน แบบผิดกฎหมาย โทษน่าจะหนัก ล่าสุดมีเหตุชายวัย 22 ปีหึงโหดแฟนสาว ตามไปฆ่าถึงบ้านเพื่อน ซึ่งกำลังนั่งกินสังสรรค์กับเพื่อนอยู่ เวลาประมาณ 22:00 น ของวันที่ 5 เมษายน 2562 ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์

ได้รับแจ้งเหตุ มีเหตุ ยิงกันตาย จึงรีบ มา ณ จุดเกิดเหตุ ที่หมู่บ้านตะโกรี ตำบลสำโรง อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์

ซึ่งเพื่อนผู้ตาย เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองได้ไปรับเพื่อน คนที่เสียชีวิต มานั่งดื่ม สังสรรค์กันปกติแต่จะอยู่คนละหมู่บ้าน ช่วงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม ได้ขับจักรยานยนต์ ไปรับเพื่อน ที่บ้าน มาที่บ้านของตนเอง แต่พอไปถึงบ้านของผู้ตายนั้น เพื่อไปรับผู้ตายมากินสังสรรค์ที่บ้าน แต่ได้ยินเสียงทั้งคู่ เหมือนทะเลาะกัน

เพราะว่า ฝ่ายชาย ไม่พอใจ ที่ฝ่ายหญิงจะออกมาดื่มน้ำกระท่อม ที่บ้านของเพื่อนเพราะอาการหึงหวง ไม่อยากให้ แฟนออกมาจากบ้าน แต่เพื่อน กลับไม่ฟัง และก็นั่งสอนจักรยานยนต์ ของเธอออกมาจากบ้าน ทางเพื่อนสาวก็ ไม่คิดว่าเหตุการณ์ทะเลาะในคืนนั้น

จะเป็นต้นเหตุให้ทั้งคู่ลงมือฆ่ากันจนเพื่อนเสียชีวิตเดินทางมาถึงที่บ้านของตนเองนั้นประมาณเกือบ 21:00 น และได้นั่งดื่มสังสรรค์กัน ต้มน้ำกระท่อมไป ประมาณ 1 หม้อ ดื่มกันไปประมาณ 3 แก้ว

และ สักประมาณ เวลา 22:00 น ของวันนั้น ผู้ก่อเหตุ ก็ได้ ขี่จักรยานยนต์เข้ามาที่บ้านของตนเอง โดยเดินตรงเข้าไปที่ผู้ตาย มีการพูดคุยกันอยู่ สักพัก แล้วฝ่ายชายก็ใช้ปืนออกมายิงเพื่อน ยิงเข้าใต้ราวนม โดยตัวเธอเอง ก็ สงสารเพื่อนรีบหยิบโทรศัพท์ โทรแจ้ง หน่วยกู้ภัยให้มาช่วยรักษาอาการเบื้องต้น

เพื่อนก็ร้องโอดโอย ให้ช่วยเหลือ หลังจากเจ้าหน้าที่ กู้ภัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงก็นำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน

แต่สุดท้ายเพื่อนสาวก็เสียชีวิตลงเพราะทนพิษบาดแผลไม่ไหว ย้อนเล่าไปถึงเหตุการณ์ที่บ้านฝ่ายชาย หลังจากที่ ได้ยินผู้ตาย เสร็จแล้วนั้นก็ขับจักรยานยนต์หลบหนีไป พร้อมอาวุธปืน ที่ทำการยิงผู้ตายเสียชีวิต ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าฝ่ายชายจะหนีไปทางหมู่บ้าน ของตนเอง

ซึ่งหมู่บ้านของเพื่อนสาวที่ผู้ตายมานั่งดื่มจะมีระยะห่างกันหลายกิโลเมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงกระจายกำลังออกค้นหาผู้ก่อเหตุเพื่อนำมาสืบสวนดำเนินคดี แต่คนหาไม่เจอ แม้กระทั่งจักรยานยนต์ที่ผู้ก่อเหตุ ใช้ขับขี่ จนได้ไปติดต่อ ที่สาวของผู้ก่อเหตุ ที่บ้าน ของผู้ก่อเหตุ พี่สาวแจ้งว่า ยังไม่เห็นตัวของน้องชายและไม่ทราบว่าน้องชายไปก่อเหตุยิงน้องสะใภ้จนเสียชีวิต

เพราะทั้งคู่แต่งงานอยู่กินกันมา 4 ปีแล้วมีลูกด้วยกัน 1 คน ส่วนเรื่องการทะเลาะนั้นทะเลาะกันเป็นประจำอยู่แล้ว เพราะฝ่ายชายเป็นคนค่อนข้างหึงหวงแทนมาก ไม่ค่อยอยากจะให้ออกไปที่ไหน อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้ทำให้ทั้งคู่มีการทะเลาะกันบ่อยครั้งจนถึงขั้นลงมือ ยิงผู้เสียชีวิต

ในครั้งนี้ จนสายของอีกวันหนึ่งวันที่ 6 เมษายน 2566 ทางพี่สาวของผู้ก่อเหตุได้ติดต่อมาที่สถานีตำรวจ จะนับตัวน้องชายผู้ก่อเหตุมามอบตัว หลังจากที่ผู้ก่อเหตุ มาที่บ้านและเหมาะกับตนเองว่าจะทำการมอบตัว พร้อมอาวุธปืนสั้นไทยประดิษฐ์มาด้วย จากนี้ก็จะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสืบสวน ผู้ก่อเหตุ

ซึ่ง ณ ตอนที่ผู้ก่อเหตุมารายงานตัว อยู่ในอาการตึงเครียดเงียบไม่พูดไม่จา ซึ่งเบื้องต้น ก็จะโดนข้อหา ค่าผู้อื่นโดยเจตนาโทษหนักสุดน่าจะ จำคุกตลอดชีวิต

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บตรง

ดราม่า ลีน่าจัง กระชากวิกผมแพรรี่ ชาวเน็ตต่างออกความคิดเห็นว่าไม่สมควร

ดราม่า ลีน่าจัง กระชากวิกผมแพรรี่ ชาวเน็ตต่างออกความคิดเห็นว่าไม่สมควร

 มีวีดีโอ หลุด ในรายการของคุณมดดำ ที่มีการเชิญธงหรือหน้าต่าง และคุณแพรี่ ไพรวัลย์ อดีตนักบวช ที่เคย ให้คำสั่งสอน ต่อเด็กและเยาวชนที่รู้จักกันมากมาย จากคลิปที่หลุดออกมานั้น ต่างก็มีความคิดเห็น ไปในทาง ที่ จะ comment ด่าไปทางนี้นะจ๊ะ

ในการแสดง หรือครั้งนี้จากการเป็นการสร้างของ Content ของทางคุณมดดำหรือไม่นั้นชาวเน็ตก็ต่างพากันคอมเมนต์มากมาย แต่  gclub เว็บตรง    ทางคุณแพรรี่ ไพรวัลย์ ก็ให้รายละเอียด จากการไลฟ์สดหลังจากที่โดนกระชากผมแล้วนั้นคุณมดดำได้เชิญให้ไปออกรายการของช่อง YouTube ส่วนตัวของทางคุณมดดำเอง

และการถ่ายทำในครั้งนี้ ได้ไปถ่ายทำที่บ้านของคุณมดดำเอง มาสร้างภายหลังว่ามีคุณลีน่าจังไปด้วย แต่ก็ไม่คิด อะไรมากมายเพราะเป็นการทำงาน ถึงแม้จะเคยถูกคุณลีน่าจังคุณลี่มาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่เรื่องมันก็จบไปแล้ว ถือว่าแล้วต่อกันมันเป็นเรื่องของอดีต

แต่ไม่คิดว่า การเจอกันครั้งนี้ทางคุณลีน่าจังจะมีพฤติกรรมที่ต่างๆ มากระชากผมที่ทางคุณแพรี่นั้นรักเหมือนผมผู้หญิงคนทั่วไป

ไม่มีใครที่จะชอบให้ตัวเอง โดน ด้อยในสายตาคนอื่นหรือ ถูกกูลี่เกี่ยวกับ เรือนร่างหน้าตา ครั้งนี้ บอกได้เลยว่า คนแครี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก กับการกระทำของคนลีน่าจัง เป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมไม่ให้เกียรติซึ่งกันและกัน จากในคลิปวีดีโอ

ที่ได้มีการกระชากผมแล้วนั้นยังมีการเยาะเย้ยสะใจแต่ ณ ตอนนั้นทางคุณแพรี่เองต้องคอยควบคุมอารมณ์สติของตัวเอง ไม่ให้เกิดปัญหา แรงขึ้น จึงนิ่ง แต่ณตอนนั้นรู้สึกโกรธคุณลีน่าจังเป็นอย่างมาก ครั้งนี้ถือว่าหนักหนาสาหัส เป็นการกระทำที่ย่ำแย่ ต่ำทราม และมีสิทธิ์ อะไรในการมาแตะต้อง วิกและกระชากผม

ที่เป็นวิกผมของคุณแพรี่ได้ ซึ่งขณะนั้นที่ทางคุณลีน่าจังได้กระชากวิกผมนั้นเป็นช่วงของการถ่ายทำอยู่จึงได้เดินไปสงบสติที่ห้องน้ำ ไม่โวยวายเพราะให้เกียรติทางคุณมดดำ คชาภาที่ได้รับเชิญให้เธอไปเป็นเกียรติ จึงมีความเกรงใจเจ้าของบ้านและเจ้าของช่อง YouTube ที่มีการเชิญตนเองไปทำงานด้วย

และอยากจะบอก กับคุณลีน่าจังว่า ควรให้เกียรติคนอื่น ไม่ใช่จะคอยสร้างแต่ Content ที่เอะอะด่าว่าบูลลี่คนอื่นหรือแม้กระทั่งบุคคลที่เขาเป็น LGBTQ เป็นเพศทางเลือกที่แต่ละคนไม่ไม่มีความต้องการเหมือนกันแต่บุคคลนี้รู้สึกจะมีการบูลลี่หรือด่าทอคนอื่นอยู่เสมอ เหมือนแม่ได้รับการอบรมสั่งสอน

หรือศึกษา เกี่ยวกับ การใช้ถ้อยคำกิริยาที่แสดงออกมาว่าเหมาะสมหรือไม่เหมาะสม จะสร้างแต่ Content แบบนี้แต่ทำให้คนอื่นเป็นตัวตลก มันดูน่าสมเพชและไม่ให้เกียรติบุคคลอื่นและสถานที่ที่ถ่ายทำอยู่ ครั้งนี้รู้สึกไม่พอใจอย่างมากและจะขอไม่ร่วมงานกับบุคคลคนนี้อีกต่อไป

น้องทีน พ่อค้าวัยรุ่นขายกระเพาตะหลิวตัด  เสียชีวิต 

น้องทีน พ่อค้าวัยรุ่นขายกระเพาตะหลิวตัด  เสียชีวิต 

เป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับน้องทีมเป็นเด็กกำพร้าที่อยู่กับย่า มาตั้งแต่เด็ก ถูกพ่อ และแม่ทิ้งไปตั้งแต่เด็กไม่ค่อยสนใจ น้องทีนเลย

หลังจากที่ย่าน้องเสียชีวิตไปทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าน้องอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีญาติพี่น้อง อาศัยนอนข้างทาง จนน้องมาเจอพี่ต่อพี่ต่อเจอให้น้องไปอยู่ด้วยที่บ้านของพี่ต่อน้องก็อยู่กับพี่ต่อมาเรื่อยๆและได้ลงทุนขายกะเพรา เป็นร้านเล็กๆอยู่ข้างทางจากนั้นก็มีคนรู้จักน้องมาเรื่อยๆจนมีคนดังจากช่องต่างๆไปเยี่ยมดูน้อง

และคอยช่วยเหลือน้องทำให้น้องมีชื่อป้ายร้านเป็นของตนเองและผู้คนรู้จักมากขึ้นน้องก็ขายดีขึ้นมาเรื่อยๆด้วยฝีมือการผัดกระเพราของน้องเป็นรสชาติที่เผ็ดจัดจ้านและอร่อย เป็นกระเพราหมูกรอบที่เป็นเมนูที่เด็ดสำหรับ ร้านน้องทีนเลยจนน้องมีชื่อเสียงที่คนรู้จักในนาม กระเพราอ้วนตรึม น้องก็ขายดีมาเรื่อยๆจนหมดหนี้สิน

และกำลังไปเปิดร้านที่มีที่นั่งให้สำหรับลูกค้าที่มารับประทานกระเพราของน้อง ทุกอย่างเหมือนกำลังไปได้ดี แต่แล้วน้องล้มป่วยด้วยแผลพุพองที่เท้าทำให้น้องได้นอนโรงพยาบาล ร้านก็ปิดหลายวันทุกคนก็คิดว่าน้องป่วยแล้วจะกลับมาขายได้ตามปกติ แต่ไม่เลยน้องทีนได้เสียชีวิตลง

จากการติดเชื้อในกระแสเลือด ตอนนี้น้องได้ไปสบายแล้วแต่ทุกคนหลังจากทราบข่าวก็ต่างพากันช็อค

สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น น้องกำลังไปได้ดียังมีคนที่ยังไม่ได้ไปทานฝีมือของน้องแต่ก็ขอให้น้องหลับให้สบาย และเกิดใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ทางด้านพี่ต่อ ที่น้องเพลงอาศัยอยู่ด้วยก็ร้องไห้เสียใจกับเรื่องราวทั้งหมดที่ไม่สามารถจะช่วยเหลือหรือยื้ออาการของน้องได้เลยรู้สึกผิดไม่มีหนทางที่ช่วยเหลือน้องทีนเลย 

แต่ก็จะพยายามส่งน้องให้ขึ้นสวรรค์โดยที่ไม่ต้องทุกข์ทรมาน พี่ต่อก็ให้สัมภาษณ์ต่ออีกว่าอาจจะประสานต่อร้านกระเพราอ้วนตรึมของน้องไว้เป็นความทรงจำให้กับทุกคนที่คิดถึงน้องมาหาน้องที่ร้านได้ ทางพี่ต่อจะทำการเป็นคนทำอาหารขายต่อจากน้องเอง

และหลังจากนั้นทำข้อของน้องก็ปรากฏตัวขึ้นและก็บอกว่าไม่ได้ทิ้งลูกแต่แค่ไม่อยากให้มาลำบากเหมือนพ่ออยากจะให้ลูกคือน้องทีมอโหสิกรรมให้กับพ่อคนนี้ด้วย ซึ่งก็เป็นเสียงจากชาวเน็ตที่วิพากษ์วิจารณ์สำหรับพ่อน้อง ทุกคนอยากจะให้พี่ต่อเป็นพ่อของน้องด้วยซ้ำไป

เพราะยังมีการช่วยเหลือน้องตั้งแต่แรกและไม่เคยหวังผลประโยชน์อะไรจากน้องทีนเลยทั้งๆที่ไม่ได้เป็นญาติพี่น้องเลย แต่ผู้เป็นพ่อทิ้งน้องไปตั้งแต่เด็กๆพอน้องเสียชีวิตกลับโผล่มาแล้วบอกว่าไม่ได้ทิ้งน้องทิ้ง ก็เป็นเรื่องที่น่าเศร้าสำหรับน้องทีน ที่ได้จากไปบนโลกใบนี้แล้วก็ขอแสดงความเสียใจกับทางพี่ต่อขอให้สู้ต่อไปเพื่อน้องทีน ทางพี่ต่อก็จะนำร่างของน้องไปทำตามพิธีศาสนาต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    gclub สมัครผ่านเว็บ

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa