หนุ่มเอาน้ำลายป้ายในลิฟต์ที่ BTS ชี้แจงเหตุผลที่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการพิสูจน์รักแท้
หากยังจำกันได้ถึงผู้ชายเสื้อสีดำกางเกงสีแดงคนหนึ่งที่เข้าไปในลิฟท์ของสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาและเมื่อชายคนดังกล่าวเข้าไปในเว็บก็ล้วงเอาน้ำลายไปต่างๆภายในลิฟท์วันถึงดวงเข้าไปในกางเกงชั้นในของตนเองด้วย
ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมตัวมาได้พร้อมกับส่งไปตรวจสอบหาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและอาการป่วยทางจิตเนื่องจากเริ่มมีข่าวเกิดขึ้นทางพี่สาวของชายคนดังกล่าวยืนยันว่าใน ชายที่อยู่คลิปที่กำลังเป็นที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้เป็นน้องชายของตนเอง
และมีอาการป่วยทางจิตต้องกินยาอยู่ตลอดเวลาซึ่งณวันที่เกิดเหตุคาดว่าน้องชายน่าจะลืมกินยาจึงทำให้ไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งนักข่าวได้ไปทำการขอสัมภาษณ์ชายเสื้อดำคนดังในคลิปดังกล่าวก็ได้รับการปฏิเสธในตอนแรกโดยเขาขอเอกสารยืนยันการตรวจผลไวรัสโคโรน่าและตรวจผลทางจิตประสาทของเขาออกมาก่อนแล้วจะมีการให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลา 8:00 น
นั้นล่าสุดทางนักข่าวได้ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เขาอีกรอบนึงซึ่งเขาตกลงในการจะให้ข้อมูลเบื้องต้นกับนักข่าว โดยเขาขอใช้นามสมมุติว่าชื่อ กิจ ซึ่งคุณกฤษบอกกับนักข่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนโรคจิตหรือมีอาการทางประสาทเป็นอย่างไรแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเนื่องจากว่าตนเองได้รู้จักกับชายคนนึงซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจและมีการพนันการเกิดขึ้นว่าถ้าหากตนเองสามารถทำอะไร
ก็ได้ให้ชายคนดังกล่าวหันมาสนใจได้ชายคนดังกล่าวจะตกลงเป็นแฟนกันกับตนเองทำให้คุณกฤษเดินมาถึงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS แล้วเข้าไปในลิฟท์จึงได้ทำการป้ายน้ำลายลงไปในบริเวณที่ต่างๆซึ่งในตอนนั้นตนเองไม่ได้มองเห็นว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่แต่เมื่อทำไปแล้วจึงรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดจึงได้เดินออกมาแล้วก็ถูกทางเจ้าหน้าที่รปภและเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมา
เพื่อดำเนินคดีซึ่งทางคุณกฤษเองยืนยันว่าตนเองไม่ได้ป่วยโรคจิตอย่างแน่นอนตามที่พี่สาวให้ข่าวและตอนนี้ก็มีการไปตรวจผลว่าตนเองเป็นโรคจิตหรือไม่รวมถึงผลของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าออกมาเบื้องต้นแล้วว่าตนไม่ได้ป่วยมีอาการทางประสาทเป็นอย่างไร
รวมถึงไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใดแต่ขอผลยืนยันอีกครั้งหนึ่งที่เป็นที่แน่นอนแล้วจะมีการนัดนักข่าวเพื่อให้ข้อมูลอีกครั้งหนึ่งโดยตนเองยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์รักแท้ระหว่างตนเองกับชายนักธุรกิจเท่านั้นไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร
ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่าหากผลปรากฏออกมาว่าคุณกฤษไม่ได้ป่วยเป็นโรคโคโรน่าและไม่ได้มีอาการทางประสาทแต่ก่อเหตุการกระทำเช่นนี้ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นและทำให้สถานที่ต่างๆสกปรกซึ่งจะมีผลทั้งติดคุกและปรับเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 10000 บาท
สนับสนุนโดย ufabet บาคาร่า