ครูแทบทรุด  ถูกเด็กนักเรียนชั้น ม. 2 ขโมยเงินไปเจ็ดแสน

เมื่อวันที่ 18 เดือนธันวาคมปีพ.ศ 2566    หญิงวัย 46 ปีซึ่งปัจจุบันมีอาชีพรับราชการครูและสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอห้วยคตจังหวัดอุทัยธานีได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจ สภ. ห้วยคต เพื่อเเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเด็กหญิงวัย 14 ปีซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่โรงเรียนที่เธอสอนอยู่โดยเรียนอยู่ในระดับชั้นม 2 เนื่องจากว่าเด็กหญิงคนดังกล่าวได้เข้าไปขโมยเงินสดของครูสาวรายนี้เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 700,000 บาท 

จากการให้ข้อมูลของครูสาวระบุว่าเธอได้มีการกู้ยืมเงินมาจากเพื่อนบ้านนอกจากนี้ยังมีเงินเก็บที่ขายของได้โดยนำเงินจำนวนดังกล่าวมาเก็บไว้รวมกันซึ่งมีมูลค่าทั้งสิ้น 700,000 บาทซึ่งครูสาวได้เก็บเงินดังกล่าวเอาไว้ในโต๊ะภายในบ้านพักอยู่ชั้นล่าง 

อย่างไรก็ตามเธอได้ยินข่าวจากคนในหมู่บ้านว่าพบว่าเด็กหญิง ม. 2 ที่อาศัยอยู่บ้านที่ติดกับบ้านของเธอมีเงินมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือย

และยังมีเงินซื้อโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ iPhone แจกเพื่อนๆทำให้เธอสงสัยว่าเด็กหญิง ชั้น ม. 2 ที่อายุเพียงแค่ 14 ปีเท่านั้นไปเอาเงินมาจากไหนเนื่องจากครอบครัวของเด็กหญิงก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร 

นอกจากนี้เด็กหญิงชั้นม 2 ก็เคยมีประวัติเข้ามาลักทรัพย์ภายในบ้านของคุณครูคนดังกล่าวมาแล้วครั้งหนึ่งซึ่งครั้งนั้นมาขโมยเงินเป็นจำนวน 2,000 บาทและโชคดีที่คนในครอบครัวเห็นเหตุการณ์จึงได้เงินคืนกลับมาด้วยเหตุการณ์ดังกล่าวนั้นทั้งครอบครัวของคุณครูสาวรายนี้สงสารเห็นว่าเป็นเพียงแค่เยาวชนเท่านั้นจึงไม่ได้ติดใจเอาความเพราะเด็กยังไม่ได้มีการเอาเงินไปใช้จ่ายที่สำคัญเด็กก็ให้การรับสารภาพและขอโทษแล้ว

อย่างไรก็ตามด้วยความสงสัยว่าเด็กหญิงม. 2 เอาเงินมาจากไหนไปเลี้ยงเพื่อนๆครูสาวจึงได้เข้าไปดูทรัพย์สินของตนเองว่ามีทรัพย์สินของตนเองภายในบ้านหายไปหรือไม่และก็ไปพบว่าเงินจำนวน 700,000 บาทที่ซุกซ่อนเอาไว้หายไปดังนั้นจึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ สภ. ห้วยคตเพื่อให้ช่วยตรวจสอบ  

    ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองก็ได้มีการนำตัวเด็กหญิงวัย 14 ปีซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยเข้ามาสอบถามและเด็กหญิงก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้เข้ามาขโมยเงินดังกล่าวไปจริงโดยอาศัยจังหวะที่ครูสาวและคนอื่นๆอยู่หน้าร้านตัวเด็กเองแอบย่องเข้ามาภายในบ้านทั้งด้านหลังร้านและนำเงินไปให้แฟนหนุ่มจำนวน 600,000 บาทส่วนที่เหลือเอาไว้ใช้จ่ายกับตัวเองโดยมีการไปเที่ยวห้างสรรพสินค้าและนำเงินไปซื้อโทรศัพท์ iPhone แจกเพื่อนๆ 

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามโทรศัพท์มือถือ iPhone กลับคืนมาและนำกลับไปขายคืนให้กับเจ้าของร้านได้แล้วโดยได้เงินคืนกลับมาทั้งสิ้นเป็นจำนวน 1.2 แสนบาทส่วนเงินที่เหลืออีกประมาณ 5.8 แสนบาทนั้นตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามหาเงินมาคืนเจ้าของ  ส่วนตัวเด็กวัย 14 ปีซึ่งเป็นคนขโมยเงินไปนั้นยังไม่มีรายงานเพิ่มเติมว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการดำเนินคดีกับเด็กหญิงคนดังกล่าวอย่างไร 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    โปรตีนจากพืช ลดน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี