เหตุเกิดที่จังหวัดราชบุรี อำเภอโพธาราม โดยที่ในเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่เป็นงานบวชโดยที่ตากับยายไปงานบวชซึ่งเป็นที่เกิดเหตุนั่นเอง ตากับยายได้เล่าให้ฟังว่าตนกับตาและหลานนั้นมางานบวชที่นี่และตนก็ได้เข้าไปในงานจากนั้นหลานก็อยู่ในงานกับตน
จากนั้นหลานสาวของตนเป็นเด็กออทิสติกได้ของไปเข้าห้องน้ำตนก็เลยปล่อยให้หลานไปแต่ว่าหลานไปเข้าห้องน้ำโดยที่ใช้เวลาเป็นเวลาที่นานตนกับตาก็เลยไปเดินตามหลานแต่ว่าปรากฏเห็นหลานสาวเดินออกมาจากทางด้านเล้าไก้บริเวณข้างบ้านงานบวช
โดยที่มีสภาพผมที่ยุ้ง จากนั้นตนกับตาก็ถามหลานสาวว่าไปไหนมาหลานก็เลยบอกว่าตนถูกญาติในบ้านงานที่เป็นน้าเขยนั้นถูกการละเมิดทางเพศ
และผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นได้ทำการหลบหนีไปแล้วหลังจากนั้นหลานสาวก็ยังได้บอกกับตนอีกว่าได้ถูกนายคนนี้ทำการละเมิดทางเพศแบบนี้มาแล้วหลายครั้งโดยที่ทุกครั้งนั้นโดนจะถูกข่มขู่ว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเพราะว่าไม่อย่างนั้นจะมาฆ่าให้ตายเลยถ้าหลานเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น
จากนั้นยายกับตาก็ได้เดินเข้าไปแจ้งความที่ราชบุรีเพื่อที่จะไปแจ้งความและหลังจากนั้นผู้ที่ถูกกล่าวหาก็ได้เข้าไปให้คำปากคำ จากนั้นผู้ที่ถูกกล่าวหาก็ให้การโดยการปฏิเสธ ทุกข้อกล่าวหานั่นเอง และก็บอกว่าตนไม่ได้ทำการสิ่งนั้น
จากนั้นกองปราบปรามได้บอกบอกยายและเตือนภัยเกี่ยวกับการเลี้ยงบุตรหลานว่าอย่างทิ้งหลานไว้อยู่คนเดียวเพราะว่าอาจจะเป็นการที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกัน ทางที่ดีที่สุดคือการที่เรานั้นต้องคอยดูแลหลานของเราให้อยู่ในสายตา เพราะว่าไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้นั่นเอง
แต่ไม่ว่าอย่างไรนั้นเราเป็นอ่านข่าวเราก็อยากที่จะไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้เพราะว่าทุกครั้งที่เราอ่านข่าวเจอเหตุการณ์อย่างนี้เรารู้สึกว่าบ้านเมืองเราไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้นี่ขนาดว่าที่บ้านนั้นมีงานยังกล้าที่จะคิดทำการข่มขืนอีกเพราะว่าเด็กยังเป็นเด็กอีก
อีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีความบกพร่องเกี่ยวกับทางด้านสมองอีกด้วย ที่เรานั้นมักจะเห็นได้ทุกครั้งที่เราเปิดข่าวเจอ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนเราจะต้องเจอข่าวเกี่ยวกับเรื่องข่มขืน ดังนั้นเราอยากที่จะให้บ้านเมืองของเราไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเราก็อยากที่จะให้กฎหมายในบ้านเรามีความรัดกุมมากกว่านี้เพราะว่าจะได้ไม่เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นและก็ต้องกฎหมายให้แกร่งเพื่อที่จะได้ไม่มีคนทำตาม
สนับสนุนโดย จีคลับ ผ่านมือถือ