ผู้เขียน: admin

อ้างว่าปาร์ตี้ส้มตำที่แท้เป็นบ่อนเฉย?

อ้างว่าปาร์ตี้ส้มตำที่แท้เป็นบ่อนเฉย?

โดยในจุดนี้ได้เป็นจุดคัตเตอร์ที่สมุทรปราการถ้าใครได้ติดตามข่าวในช่วง2-3วันที่ผ่านมาจะได้ยินบ่อยมากที่หมู่บ้านเฟื่องฟ้าในปาร์ตี้ส้มตำในหมู่บ้านเฟื่องฟ้าก็อย่างที่ทราบกันดีว่าเริ่มต้นได้มีการร้องเรียนของครองครัวหนึ่งแล้ว ปาร์ตี้ส้มตำที่แท้เป็นบ่อน กลายเป้ฯว่าไปๆมาๆคนในชุมชนนี้หมู่บ้านนี้ติดกันทั้งหมดคนรอบตัวอีก26คน

ซึ่งถือว่าเป็นคัตเตอร์ใหญ่มากแล้วจุดเริ่มต้นอย่างที่ได้เรียนไปในตอนแรกเข้าใจว่าคือปาร์ตี้ส้มตำจริงๆคือได้มีการรวมตัวกันเพื่อรับประทานอาหารส้มตำกันแล้วเกิดการแพร่กระจายเชื้อติดกันไปหมดเลยกลายเป็นว่าในวันนี้ทีมสื่อข่าวหลังจากที่ได้เข้าไปตรวจสอบมาหลายวันเหมือนกันและวันนี้ก็ได้ข้อมูลมาอีกหนึ่งอย่างที่จริงแล้วมันอาจจะไม่ได้เป็นปาร์ตี้ส้มตำก็ได้

เพราะฉะนั้นแล้วมันได้มีอย่างอื่นที่ไม่ควรทำแต่พอทำแล้วก็ติดโรคกันล่าสุดทีมข่าวสำหนักหนึ่งได้รับร้องเรียนจากชาวบ้านภายในชุมชนว่าบ้านหลังนี้ที่เขาบอกว่าเริ่มต้นคัตเตอร์นี้เลยปาร์ตี้ส้มแท้จริงแล้วมันไม่ได้มาจากปาร์ตี้ส้มตำแต่มันเป็นการสุมหัวเล่นการพนันพอได้ข้อมูลแบบนนี้ถือกับอึ้งเลย

ถ้าเล่นการพนันจริงๆก็จะเข้าข่ายผิดกฎหมายไปด้วยมันใช้เวลานานกว่าที่รับประทานอาหารอีกนะเอาเป็นว่าท่านที่ได้ให้ข้อมูลเรามาคือชาวบ้านในพื้นที่คือคุณเปาโดยคุณเปาอยู่ในหมูบ้านเฟื่องฟ้าเช่นกันเธอได้บอกว่าไม่มีบ้านสีชมพูไม่มีปาร์ตี้ส้มตำที่จริงแล้วมันเป็นบ่อน

ปาร์ตี้ส้มตำที่แท้เป็นบ่อน เพราะฉะนั้นแล้วจุดเริ่มต้นมันได้มาจากผู้นำ อสม. สามีได้ไปเกี่ยวข้องกับบ้านสีชมพูดด้วยแล้วก็เกิดความกลัวพอกลัวว่าจะติดเชื้อและเป็นเรื่องออกมาความจริงมันจะเปิดเผยว่าเล่นบ่อนแบบนี้แล้วมี อสม. มาเกี่ยวข้องอีกเดี๋ยวจะเป้นการเข้าตัวเอา

เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองเลยปกปิดข้อมูลสร้างเรื่องขึ้นมาว่าเป็นปาร์ตี้ส้มตำที่จริงแล้วไม่เกี่ยวมันเป็นการเล่นบ่อนแล้วส่วนใหญ่คนที่เล่นการพนันก็คือแม่บ้านสามีไปทำงานแล้วคนจากพื้นที่อื่นก็เข้ามาเล่นด้วยยืนยันว่ามีการเล่นการพนันจริงๆ

ส่วนเจ้าของบ้านคาดว่าจริงๆแล้วเป็นแค่ผู้เล่นแต่ให้ใช้บ้านเป็นสถานที่ส่วนเจ้ามือนั้นเป็นใครยังไม่ทราบผลที่แน่ชัดและยังทำให้เหล่าชาวบ้านเขาเดืดอร้อนคือคนที่เล่นก็กระจายกลับบ้านตัวเองก็ทำให้ติดกันหมดเลยตอนนี้จากนั้นผู้สื่อข่าวก็ถามกลับไปอีกว่าถ้ามันไม่ใช้เรื่องจริงมันเสียหายนะเขาอาจจะตำส้มตำกันจริงๆแล้วติดก็ได้โดยคุณเปาบอกว่าเขาได้รู้จักกับคนหนึ่งเป็นคนที่อยู่ร่วมวงเข้าไปในวงพนันอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  ufabet ฝากถอน ไม่มีขั้นต่ำ ออโต้

พนักงานรวมตัวกันประท้วง เพราะนายจ้างไม่ยอมสั่งปิดโรงงาน

พนักงานรวมตัวกันประท้วง เพราะนายจ้างไม่ยอมสั่งปิดโรงงาน

        พนักงานรวมตัวกันประท้วง เมื่อวันที่ 27 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ. 2564 ที่จังหวัดนนทบุรีตรงบริเวณอำเภอปากเกร็ด  ได้มีพนักงานของโรงงานทอผ้าแห่งหนึ่ง มีพนักงานราว 60 คนพากันเดินขึ้นรถตู้ซึ่งมาจอดรอรับอยู่ที่บริเวณหน้าโรงงานโดยคนงานทั้งหมดนั้น

เป็นแรงงานต่างด้าวทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ที่เห็นเหตุการณ์คิดว่าบรรดาแรงงานต่างด้าวที่มาทำงานที่โรงงานนี้กำลังจะหลบหนีดังนั้นจึงได้มีการโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ. ปากเกร็ดให้เดินทางมาตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทันที 

           อย่างไรก็ตามเมื่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงหน้าโรงงานทอผ้าดังกล่าวและได้มีการพูดคุยกับชาวต่างด้าวที่เป็นแรงงานรวมถึงเจ้าของโรงงานจึงทำให้ทราบว่าแรงงานต่างด้าวทั้งหมดนั้นไม่ได้มีการหลบหนีออกนอกพื้นที่แต่แรงงานต่างด้าวกลุ่มนี้นั้นเป็นผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิช-

พนักงานรวมตัวกันประท้วง และกำลังที่จะพาไปรักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสนามประจำจังหวัด  โดยในรถตู้ที่มาจอดรอรับนั้นก็มีเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลที่สวมชุด ppe  อยู่ด้วยซึ่งในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงนั้นยังอยู่ระหว่างการที่ตรวจสอบประวัติและเช็คชื่อแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั้ง 60 คนนั้นเอง 

           อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืนทำให้ชาวบ้านพากันรู้สึกตกใจและเป็นกังวลใจซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่มารับตัวกรมแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อไวรัส covid ก็ให้ข้อมูลว่าไม่ต้องการให้ประชาชนในพื้นที่พากันตื่นตกใจจึงได้มีการมารับคนงานที่ป่วยไปรักษาในช่วงเวลากลางคืนเพราะว่าค่อนข้างสะดวกก่อนในช่วงเวลากลางวันนั้นเอง

        นอกจากนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างได้เข้าไปในโรงงานและมีการนำพนักงานทั้งหมดซึ่งมีกว่าพันคนมาทำการคัดกรองตรวจหาเชื้อไวรัสโควิช- ซึ่งบางกลุ่มนั้นผลการตรวจคัดกรองออกเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่บางกลุ่มนั้นยังต้องรอผลการตรวจคัดกรองโดยระหว่างนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่สาธารณสุขแนะนำว่าจะต้องมีการปิดโรงงานเพื่อทำการทำความสะอาดโรงงานนอกจากนี้ยังต้องให้พนักงานทุกคนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงกับตนเองเป็นระยะเวลา 14 วันแล้วค่อยตรวจคัดกรองใหม่ 

         อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิช- แต่ทางเจ้าของโรงงานซึ่งเป็นชาวต่างชาติก็ไม่ได้มีการอนุญาตให้พนักงานนั้นกับตนเองยังคงให้พนักงานมาปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมทำให้พนักงานหลายคนเกิดความไม่พอใจและรวมตัวกันประท้วงทันทีโดยต้องการที่จะได้รับสวัสดิการความช่วยเหลือจากทางโรงงานเหมือนเดิมแต่อยากให้ทางโรงงานนั้นปิดชั่วคราวทำความสะอาดโรงงานและคัดกรองพนักงานที่ไม่ติดเชื้อไวรัสจริงๆมาทำงานเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อไวรัสได้ในอนาคต 

 

สนับสนุนโดย.    ทางเข้า sbobet ใหม่ล่าสุด

ครูสาวสุดช้ำ สามีที่เป็นครูแอบแซ่บ กับลูกศิษย์ วัย 18 ปี 

ครูสาวสุดช้ำ สามีที่เป็นครูแอบแซ่บ กับลูกศิษย์ วัย 18 ปี 

            ครูสาวสุดช้ำ  เมื่อวันที่ 7 เดือนกรกฎาคมปีพ.ศ. 2564 ได้มีการเปิดเผยออกมา จากสำนักข่าวช่อง 3 เกี่ยวกับเรื่องครูสาวคนนึงซึ่งสอนอยู่ในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ เธอได้เดินทางไปที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดเชียงใหม่พร้อมกับทนายความสาวของเธอเพื่อทำการยื่นหนังสือร้องเรียนให้ทำการตรวจสอบวินัยครูผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอเอง

       โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ครูสาวคนดังกล่าวชื่อว่าครูโอปอได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเธอ  ครูสาวสุดช้ำ  และสามีประกอบอาชีพครูเช่นเดียวกันโดยเธอและสามีนั้นสอนเด็กนักเรียนอยู่กันคนละโรงเรียนซึ่งเธอและสามีแต่งงานและจดทะเบียนสมรสพร้อมทั้งปัจจุบันก็มีลูกด้วยกันแล้ว 1 คนซึ่งลูกของเธอนั้นเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบ

        อย่างไรก็ตามครูโอปอระบุว่าเธอสังเกตพฤติกรรมของสามีเธอว่ามีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปนับตั้งแต่ประมาณต้นเดือนมีนาคมปีพ.ศ 2554 ที่ผ่านมาโดยสามีของเธอนั้นไม่ค่อยสนใจครอบครัวเธอมีความรู้สึกว่าสามีของเธอนั้นนอกใจเธอจึงได้มีการแอบค้นโทรศัพท์มือถือของสามีและพบข้อความที่สามีของเธอนั้นวีดีโอคอลหาเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเด็กชั้นมัธยมอายุประมาณ 18 ปี

         นอกจากวีดีโอคอลแล้วก็ยังมีการโทรคุยกันและมีการถ่ายรูปภาพคู่กันซึ่งภาพดังกล่าวนั้นเป็นภาพทำนองเชิงชู้สาวจะเห็นได้ว่าสามีของเธอและเด็กหญิงวัย 18 ปีนั้นถ่ายรูปด้วยกันในลักษณะของการหอมแก้มกันนอกจากนี้ยังมีข้อความที่มีการใช้คุยกันโดยลูกศิษย์วัย 18 ปีมักจะส่งข้อความมาให้สามีของเธอตัดสินใจเลิกกับเธอเพื่อไปย้ายไปอยู่ด้วยกัน

      อย่างไรก็ตามเธอเคยคุยเรื่องนี้กับสามีของเธอเกี่ยวกับพฤติกรรมการนอกใจแต่สามีของเธอนั้นไม่ยอมรับเธอจึงทำเรื่องขอฟ้องหย่าสามีพร้อมทั้งให้สามีนั้นจ่ายค่าเลี้ยงดูแต่ปรากฏว่าสามีของเธอนั้นไม่ยอมจ่ายค่าเลี้ยงดูและไม่ยอมหย่าหลังจากที่มีการพูดคุยกันหลายครั้งเธอก็ตัดสินใจที่จะไปคุยกับผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 18 ปีแต่ทางผู้ปกครองของเด็กนั้นกลับไม่เชื่อและจะฟ้องหมิ่นประมาท

          ซึ่งท้ายที่สุดแล้วเธอจึงจำเป็นที่จะต้องรวบรวมหลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อไปส่งให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อให้ทำการตรวจสอบพฤติกรรมของสามีของเธอและพฤติกรรมของเด็กหญิงวัย 18 ปีเนื่องจากเธอยืนยันว่าเธอไม่สามารถทนพฤติกรรมแบบนี้ของการนอกใจได้และเธอต้องการหย่าขาดกับสามีพร้อมต้องการค่าเลี้ยงดูบุตรจากสามีอีกด้วย

          อย่างไรก็ตามในขณะนี้สำนักงานเขตได้มีการรับเอกสารไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วและอยู่ระหว่างการส่งเรื่องตรวจสอบพฤติกรรมของครูหนุ่มที่ได้รับการร้องเรียนถ้าหากมีความผิดจริงก็จะมีการดำเนินตามกฎหมาย 

 

สนับสนุนโดย.    sexybaccarat

โจ๋ เจอสยองของจริง หลังไปทดสอบความกล้าที่บ้านร้าง 

โจ๋ เจอสยองของจริง หลังไปทดสอบความกล้าที่บ้านร้าง 

        โจ๋ เจอสยองของจริง เมื่อวันที่ 5 เดือนมกราคมปีพศ 2564    มีการรายงานข่าวออกมาจากสำนักข่าวของต่างประเทศซึ่งเป็นสำนักข่าวของประเทศอเมริกาได้มีการพูดถึงแก๊งวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งซึ่งพวกเขานั้นอยากจะไปในสถานที่ที่มีความท้าทายโดยเขาพากันเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านร้าง

      โดยบ้านหลังดังกล่าวนั้นอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริการัฐเซาท์แคโรไลนา  โดยอยู่ในออเรนจ์เบิร์กเคาท์ตี   ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาคาดหวังนั้นก็คือความสนุกสนานอยากจะไปผจญภัยเจอเรื่องราวสยองขวัญเหมือนกับที่พวกเขานั้นได้อ่านในหนังสือ

       อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาคาดหวังกับการผจญภัยในครั้งนี้พวกเขากลับได้พบกับเรื่องราวที่เป็นเรื่องราวที่น่ากลัวของจริง โจ๋ เจอสยองของจริง โดยวัยรุ่นกลุ่มนี้นั้นได้เล่าเหตุการณ์ว่าพวกเขาเดินทางไปที่บ้านร้างแห่งหนึ่งช่วงเวลาประมาณ  17:40 น. 

           โดยเดินทางไปเมื่อวันที่ 3 เดือนมกราคมปีพศ 2564   เมื่อเดินทางไปถึงบ้านร้างพวกเขาก็พากันสำรวจภายในตัวบ้านซึ่งเป็นบ้านที่มีความเก่าแก่มากและพวกเขาเช็คมาเรียบร้อยแล้วว่าบ้านหลังนี้นั้นมีการพูดถึงกันอย่างกว้างขวางว่ามีสิ่งเร้นลับซ่อนอยู่

           ดังนั้นพวกเขาจึงอยากที่จะทดลองดูว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะมีจริงหรือไม่และพวกเขาจะเจอกับวิญญาณหรือไม่อย่างไรก็ตามในขณะที่พวกเขาเข้าไปในบ้านร้างหลังดังกล่าวและพากันสำรวจปรากฏว่ามีวัยรุ่นคนหนึ่งได้ทำการเปิดประตูตู้เย็นซึ่งอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้กลิ่นชวนอ้วกเหม็นคุ้งระเหยออกมาและที่สำคัญพวกเขาเห็นศพอยู่ในตู้เย็นซึ่งกำลังมีหนอนขึ้นอยู่ชอนไชเต็มไปหมด

          หลังจากนั้นบรรดาวัยรุ่นทั้งหมดก็พากันวิ่งออกมาจากบ้านหลังดังกล่าวและโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องถิ่นทันทีให้มาตรวจสอบซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าบ้านหลังดังกล่าวนั้นมีการก่อเหตุฆาตกรรมขึ้นและได้มีการเอาศพไปซ่อนไว้ในตู้เย็นซึ่งผู้เสียชีวิตนั้นน่าจะเสียชีวิตมานานหลายเดือนแล้ว  

          อย่างไรก็ตามวัยรุ่นกลุ่มนี้ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่ามันเป็นประสบการณ์ที่พวกเขานั้นคงจะไม่ลืมเลือนไปตลอดชีวิตของพวกเขาเลยเพราะพวกเขาหวังแค่จะไปพิสูจน์เรื่องราวของวิญญาณแต่กลับไปเจอกับซากศพของจริงและเก่งของซากศพนั้นก็ยังติดจมูกของเขาอยู่เลย  

         อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าสมดังกล่าวนั้นเป็นใครมาจากไหนและหาฆาตกรที่นำศพมาซ่อนไว้ในตู้เย็นซึ่งอยู่ในบ้านหลังนี้ให้ได้  ส่วนทางด้านกลุ่มนี้นั้นก็คงจะเข็ดหลาบเกี่ยวกับเรื่องของการล่าท้าผีกันไปอีกนานเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย.  Gclub ฝากขั้นต่ำ50

สาวแฉ  กลโกงร้านค้า จากการซื้อของโดยใช้การเก็บเงินปลายทาง

สาวแฉ  กลโกงร้านค้า จากการซื้อของโดยใช้การเก็บเงินปลายทาง

          เมื่อวันที่ 21 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ. 2564  ได้มีสาวคนหนึ่งเธอได้มีการอัดคลิปแฉเกี่ยวกับเรื่องกลโกงของร้านค้าที่เธอได้มีการสั่งซื้อสินค้าผ่านทางแอพพลิเคชั่น ช้อปปี้มา

  โดยระบุว่าเธอได้มีการเข้าไปสั่งซื้ออาหารสุนัขผ่านทาง Application shopee โดยเธอนั้นสั่งซื้อมาจำนวนหนึ่งพัน 420 บาทโดยวิธีสั่งซื้อมา 2 ถุงใหญ่ซึ่งร้านค้าที่เธอสั่งซื้อนั้นมีบริการเรียกเก็บเงินปลายทางได้ 

        อย่างไรก็ตามก่อนที่เธอจะสั่งซื้อสินค้านั้นเธอพบว่าร้านค้านี้มีการตั้งชื่อร้านแปลกแปลกและนอกจากนี้ยังเพิ่มเป็นร้านเปิดใหม่ไม่มีการรีวิวจากผู้ซื้อมาก่อนซึ่งเธอไม่ได้ติดใจอะไรและตัดสินใจที่จะมีการสั่งซื้อสินค้าไปโดยเลือกระบบการชำระเงินแบบปลายทางนอกจากนี้ทางร้านค้ายังได้มีการประสานงานติดต่อมายังเธอว่าสินค้าที่ทางร้านจัดส่งให้นั้นจะได้รับประมาณ 7-10 วัน

       อย่างไรก็ตามเพียงแค่ผ่านไป 5 วันเท่านั้นปรากฏว่ามีสินค้าจะส่งมาให้ที่บ้านเมื่อเธอมีการจ่ายเงินและมีการเซ็นรับสินค้าเป็นที่เรียบร้อยเมื่อแกะกล่องดูก็พบว่าเป็นอาหารสุนัขเป็นอาหารยี่ห้ออะไรที่เธอไม่รู้จักมาก่อนและไม่ใช่ยี่ห้อที่เธอมีการสั่งซื้อกับทางร้านไปด้วยเช่นเดียวกัน

         เมื่อเธอพยายามติดต่อร้านค้าปรากฏว่าข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าของเธอผ่านทางระบบช้อปปี้นั้นถูกยกเลิก Order ไปและเมื่อเธอติดต่อไปยัง Call Center ของ shopee พนักงานก็ทำได้เพียงแค่รับเรื่องที่จะร้องเรียนร้านค้าให้เท่านั้นแต่ไม่สามารถติดตามยอดเงิน 1420 บาทของเธอกลับคืนมาได้เนื่องจากว่าเป็นการส่งสินค้าโดยที่ไม่ผ่านระบบของ เพราะทางร้านค้ายกเลิกการสั่งสินค้าของลูกค้าไปเรียบร้อยแล้วและมีการจัดส่งให้ผ่านทางขนส่งต่างหากที่ไม่ใช่ของ shopee โดยตรง

          ในขณะที่ลูกค้าติดต่อไปยังบริษัทขนส่งทางบริษัทขนส่งก็ปฏิเสธการรับผิดชอบเพราะทางบริษัทขนส่งเองก็ยืนยันว่าบริษัทรับหน้าที่เพียงแค่ส่งสินค้าให้แต่ด้านในสินค้าจะเป็นอะไรสินค้าจะตรงตามปกหรือไม่นั้นบริษัทขนส่งไม่สามารถรับผิดชอบให้ได้ดังนั้นสิ่งที่เธอทำได้ก็คือต้องติดต่อร้านค้า การคืนเงินให้กับเธอซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากมากเพราะร้านค้านั้นไม่รับการติดต่อจากเธอและเพราะการติดต่อจากเธอ

         ดังนั้นเธอจึงนำเรื่องนี้มาแชร์ใน Facebook เพื่อให้คนที่ชื่นชอบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์นั้นได้ทราบถึงกลโกงของแม่ค้าออนไลน์ในปัจจุบันนี้ว่าถ้าหากว่ามีการจ่ายเงินโดยเรียกเก็บเงินแบบปลายทางร้านค้าสามารถยกเลิก Order และแอบจะส่งให้ลูกค้าได้เองเพราะฉะนั้นความรับผิดชอบ Application ที่เราเข้าไปสั่งซื้อก็จะไม่สามารถทำอะไรร้านค้าร้านนั้นได้นั่นเอง และที่สำคัญจะไม่มีหลักฐานว่ามีการสั่งซื้อสินค้าแบรนด์อะไรเพราะร้านค้าก็ส่งสินค้ามาให้เพียงแต่ว่าไม่ใช่แบบที่เราต้องการ 

 

ขอบคุณผู้สนับสนุนเรื่องราวโดย.    ทางเข้า gclub มือถือ

ช็อคหนักมาก เดือนที่แล้วจ่ายแค่ 32 บาทแต่เดือนนี้ ยอดกลับพุ่งเป็นแปดพันกว่าบาท 

ช็อคหนักมาก เดือนที่แล้วจ่ายแค่ 32 บาทแต่เดือนนี้ ยอดกลับพุ่งเป็นแปดพันกว่าบาท 

        เมื่อวันที่ 7 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ. 2564   ได้ มีชายคนหนึ่งออกมาร้องเรียนผ่านทางผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวไทยโดยระบุว่าเขาได้รับบิลใบแจ้งค่าบริการที่เรียกเก็บค่าน้ำประปาโดยในบิลนั้นมีการส่งเลขเก็บเขาเป็นยอดจำนวนสูงถึง 8,000 กว่าบาทเกือบ 9,000 บาทเลยทีเดียว

        แน่นอนว่ายอดนี้ทำให้เขารู้สึกช็อกและตกตะลึงหนักมากเลยทีเดียวเนื่องจากว่าเขามีการใช้งานน้ำที่น้อยมากๆที่สำคัญเมื่อเดือนที่แล้วเขาเสียค่าน้ำประปาเพียงแค่ 32 บาทเท่านั้นแต่ในเดือนต่อมาเขากลับถูกเรียกเก็บบิลค่าน้ำประปาสูงถึง 800 กว่าบาท

ซึ่งทำให้เขาไม่สามารถยอมรับได้นอกจากนี้เขาได้เดินทางไปติดต่อที่การประปาเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่ทางเจ้าหน้าที่พนักงานการประปานั้นกับไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้นและยังยืนยันด้วยว่าตัวเขาเองจะต้องเป็นผู้ชำระค่าน้ำประปาทั้งหมดทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

       สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดปราจีนบุรีโดยสถานที่ที่พบปัญหานั้นเป็นบ้านของนายสุริยาซึ่งบ้านหลังดังกล่าวนั้นเป็นอาคารพาณิชย์มีทั้งหมดด้วยกันจำนวน 2 ชั้นโดยบ้านนี้อยู่ในหมู่บ้านปลาทองซึ่งหมู่บ้านแห่งนี้นั้นจะอยู่ตรงบริเวณตำบลกบินทร์อยู่แถวถนนสายสุวรรณศรซึ่งนายสุริยายืนยันว่าบิลใบแจ้งค่าบริการที่เรียกเก็บค่าน้ำประปาของเขานั้นผิดปกติอย่างแน่นอน

        เขาต้องการให้ทางประปานั้นส่งเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบแต่เมื่อติดต่อไปแล้วเจ้าหน้าที่กลับเพิกเฉยพร้อมทั้งยังบอกเขาอีกด้วยว่าให้เขาไปทำการสำรวจจุดอื่นๆว่ามีน้ำประปารั่วหรือไม่ด้วยตนเองถ้าหากทำไม่ได้ก็ให้จ้างช่างมาลองขุดดูอย่างไรก็ตามเมื่อเขากลับมาถึงบ้านที่พักนั้นเขาก็ทำการสำรวจทุกซอกทุกมุมแต่ก็ไม่พบรอยรั่วของน้ำประปานอกจากนี้ที่บ้านของเขานั้นยังมีการเปิดก๊อกใช้น้ำแค่จุดเดียวเท่านั้นดังนั้นเขาจึงยืนยันได้ว่าไม่ได้เป็นการใช้งานเยอะจากบ้านของเขาอย่างแน่นอน

        อย่างไรก็ตามเมื่อเข้าไปดูที่มิเตอร์ ของประปานั้นปรากฏว่ามิเตอร์ทำงานหมุนอยู่ตลอดเวลาและหมุนเร็วมากดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าน่าจะเป็นที่มิเตอร์มีปัญหาเพราะมิเตอร์เก่ามากแล้วและไม่มีมาตรฐานมอกรองรับซึ่งเขายืนยันว่าเขาไม่สามารถยอมรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้เพราะตัวเขาเองนั้นทำงานและมีเงินเดือนเพียงแค่เดือนละ 9000 บาทเท่านั้น

        ถ้าหากเขาต้องมาจ่ายค่าน้ำประปาเกือบ 9,000 บาทในเดือนนี้เขาก็ไม่มีเงินใช้อย่างแน่นอนที่สำคัญปัญหาเรื่องท่อประปาแตกใต้ดินนั้นทางด้านการประปาควรจะเข้ามาดูแลและตรวจสอบไม่ใช่เป็นหน้าที่ของประชาชนและตัวเขาเองนั้นก็ได้จ่ายเงินค่าประกันมิเตอร์ให้กับการประปาทุกเดือนดังนั้นถ้าหากตรวจสอบแล้วเป็นปัญหาที่มิเตอร์การประปาก็ควรที่จะเป็นผู้รับผิดชอบไม่ใช่ประชาชน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย    ติดต่อ ufabet

หนุ่มเล่นเกมแพ้  หงุดหงิดควงไม้ฟาดหัวอริที่นั่งกินเหล้า เพราะมองหน้า 

หนุ่มเล่นเกมแพ้  หงุดหงิดควงไม้ฟาดหัวอริที่นั่งกินเหล้า เพราะมองหน้า 

             เมื่อวันที่ 22 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   ที่จังหวัดสมุทรปราการหมู่บ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1  ได้มีเหตุการณ์ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายขณะที่นั่งกินเหล้ากับเพื่อนสาวอยู่ตรงบริเวณข้างตึก 3 ในหมู่บ้านดังกล่าวและคนร้ายที่มาทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นคนในหมู่บ้านเอื้ออาทรเช่นเดียวกัน

แต่ว่าอยู่กันคนละตึก  หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุแล้วจึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 37 ปีได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากว่าถูกไม้ตีจนหัวแตก  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานหลังจากนั้นก็มีการนำชายวัย 37 ปีส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการเย็บศีรษะอีกครั้งหนึ่ง

        จากการให้ข้อมูลของหญิงสาวที่นั่งกินเหล้าอยู่กับชายที่ถูกทำร้ายทราบว่าคนที่ทำร้ายร่างกายเพื่อนชายของเธอนั้นเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่คนละตึกซึ่งเธอสังเกตว่าเพื่อนชายของเธอ น่าจะไม่ถูกกันกับชายคนดังกล่าวมาก่อนอยู่แล้วเพราะเคยเจอเห็นมีปากเสียงกันมาโดยตลอดโดยเธอเล่าว่าระหว่างที่กำลังนั่งกินเหล้าอยู่นั้นอยู่ๆชายที่ก่อเหตุก็เดินมาหาเพื่อนชายของเธอ

   หลังจากนั้นก็สอบถามว่ามองหน้าทำไมซึ่งเพื่อนชายของเธอไม่ได้พูดอะไรโดยชายคนที่ก่อเหตุก็เดินกลับไปทันทีหลังจากนั้นไม่นานก็ไปถือไม้มาแล้วตีไปที่ศีรษะของเพื่อนชายของเธอทันทีซึ่งตัวเธอเองนั้นได้พยายามห้ามปรามแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ก่อเหตุได้อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้ก่อเหตุได้ตีศีรษะเพื่อนชายของเธอจนแตกแล้วเขาก็เดินขึ้นตึกไปทันที

         หลังจากที่ชายที่ถูกทำร้ายได้มีการรักษาอาการบาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับชายที่ก่อเหตุซึ่งทั้งแม่ของใช้ที่ก่อเหตุแจ้งว่าลูกชายของเธอนั้นเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสมองเพราะก่อนหน้านี้เคยประสบอุบัติเหตุแต่โดยปกติแล้วลูกชายของเธอมักจะไม่ค่อยออกนอกห้องและเป็นคนสุภาพนิสัยดีไม่ก้าวร้าวแต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกชายของเธอเล่นเกมแล้วแพ้เขาจะมีอาการอารมณ์ฉุนเฉียวและหงุดหงิดง่าย

            ซึ่งเธอคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ลูกชายของเธออาจจะเล่นเกมแล้วแพ้เมื่อเดินผ่านคู่อริแล้วเห็นจึงทำให้รู้สึกโมโหขึ้นมาจึงได้มีการนำไม้ไปฟาดหัวชายคนดังกล่าวนั้นเอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุเรียบร้อยแล้วและได้มีการส่งตัวเพื่อไปทำการตรวจสอบอาการทางประสาทอีกครั้งหนึ่ง   

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครยังไง

ลูกเขยโหด แค้นเมียไม่ยอมคืนดี สุดเหี้ยมใช้ปืนยิงแม่ยาย 8 นัดเสียชีวิต

ลูกเขยโหด แค้นเมียไม่ยอมคืนดี สุดเหี้ยมใช้ปืนยิงแม่ยาย 8 นัดเสียชีวิต

          เมื่อวันที่ 22 เดือนพฤษภาคมปีพ.ศ. 2564  ช่วงเวลา 8:30 น.  ที่จังหวัดอำนาจเจริญเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีชาวบ้านถูกยิงจนเสียชีวิตตรงบริเวณถนนทางเข้าหมู่บ้าน  โดยหมู่บ้านดังกล่าวนั้นมีชื่อว่าหมู่บ้านหนองน้ำขุ่นซึ่งอยู่ในตำบลโนนงาม  เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงพบว่าจุดเกิดเหตุมีรถมอเตอร์ไซค์ล้มอยู่และมีร่องรอยกระสุนปืนตกอยู่พร้อมกับเลือกเป็นจำนวนมากแต่ผู้เสียชีวิตถูกนำร่างส่งโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

       จากการสอบถามข้อมูลชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และยังมีภาพจากกล้องวงจรปิดเนื่องจากว่าจุดเกิดเหตุนั้นห่างจากบ้านของผู้เสียชีวิตเพียงแค่ 150 เมตรเท่านั้นซึ่งมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเอาไว้ทำให้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดโดยผู้ก่อเหตุนั้นเป็นอดีตลูกเขยของผู้เสียชีวิตเองซึ่งมีชาวบ้านให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าในช่วงเช้านั้นผู้ก่อเหตุได้ขับรถแท็กซี่มาแถวบริเวณหน้าบ้าน

      หลังจากนั้นก็ลงจากรถเพื่อเข้าไปในบ้านและถามหาอดีตภรรยาโดยไปเจอกับลูกเลี้ยงวัย 12 ปี  ซึ่งขณะนั้นอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุไม่ได้อยู่ที่บ้าน  เด็กสาววัย 12 ปี จึงบอกว่าไม่รู้ไปไหน โดยหลังจากนั้นผู้ก่อเหตุก็ได้ขึ้นรถแท็กซี่แล้วขับออกไปแต่เพียงไม่นานก็ขับรถวนกลับมาใหม่และครั้งนี้ได้มีการไปจับตัวเด็กหญิงวัย 12 ปีมาพร้อมทั้งใช้ปืนขู่กรรโชกซึ่งมีการนำปืนยิงไปที่ศีรษะของเด็กด้วยแต่ปรากฏว่าปืนด้านยิงไม่ออกทั้ง 2 นัด

      ระหว่างนั้นมีชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้เคียงมาเห็นเหตุการณ์จึงได้เข้าไปช่วยเหลือทำให้ผู้ก่อเหตุนั้นรีบขึ้นรถแท็กซี่หนีไปทำให้เด็กปลอดภัยแต่หลังจากที่ผู้ก่อเหตุขับรถแท็กซี่ออกไปเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 8 นัดหลังจากนั้นชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงก็พากันตะโกนว่ามีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสหลังจากพาส่งโรงพยาบาลก็เสียชีวิตในเวลาต่อมานั่นเอง

            สำหรับผู้เสียชีวิตนั้นเป็นแม่ยายของผู้ก่อเหตุซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเชื่อว่าทางผู้ก่อเหตุน่าจะต้องการมาง้อขอคืนดีกับทางอดีตภรรยาแต่ว่าทางภรรยาไม่ยอมคืนดีด้วยจึงทำให้เกิดความไม่พอใจหลังจากนั้นก็มาระบายใส่กับลูกเลี้ยงและแม่ยายของตนเองโดยในขณะนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีเนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่นั้นต่างก็พากันหวาดกลัวเป็นอย่างมาก 

    สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่โหดเห*้ยมมากเพราะคนร้ายนั้นลงมือได้แม้กระทั่งเด็กอายุ 12 ขวบเพียงเท่านั้นแต่โชคดีที่กระสุนปืนนั้นยิงไม่ออกจึงทำให้เด็กไม่เสียชีวิต  สำหรับเรื่องนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งดำเนินการจับกุมตัวคนร้ายให้เร็วที่สุดเพราะชาวบ้านในหมู่บ้านดังกล่าวนั้นทุกคนต่างก็พากันหวาดกลัวเกรงว่าผู้ก่อเหตุจะย้อนกลับมาก่อเหตุใหม่อีกรอบ

 

สนับสนุนโดย    UFABET เว็บตรง

พม่าโมโหชาวบ้านเผารถทหารพม่าและยึดอาวุธ

พม่าโมโหชาวบ้านเผารถทหารพม่าและยึดอาวุธ

เรื่องของสถวานการณ์ในเมียนมาถือว่าเป็นสถานการณ์ที่เหลือเชื่อเป็นสถานการณ์ที่จะบอกว่าเหมือนในหนังก็ว่าได้เพราะว่าเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนมือเปล่าได้รวมตัวกันทั่วประเทศแต่ถ้าเป็นประชาชนมือเปล่ารวมตัวกันสู้กับทหารมันก็เริ่มเกิดน้อยลงอีกยากมากขึ้นไปอีกแล้วมันก็จะยากมากขึ้นไปอีก

ถ้าเป็นสถานการณ์ที่ประชาชนมือเปล่ารวมตัวสู้กับทหารแล้วก็สามารถทำถึงขั้นยึดรถของทหารมาได้อีก6คันแล้วได้ทำการยึดอาวุธของทหารได้ก็จะมากขึ้นไปอีก

ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่เราไม่เคยเห็นแต่ว่ามีที่เมียนมาในตอนนี้มันได้มาถึงจุดแบบนี้แล้วประชาชนได้รวมตัวกันโดยมันได้มีการเชื่อมโยงไปถึงตัวแทนของเมียนมาที่ได้ไปประกวดมิสยูนิเวิร์สที่น้อยเขาได้ใส่เสื้อของเมียนมาแต่ว่าได้ชูป้ายPray for Myanmar น้องเขาได้เป็นคนรัฐฉินและเป็นรัฐฉินตั้งแต่หลังการรัฐประหารถือว่าเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประชาชนออกมาจัดหนักกับทหารไม่ยั้ง

โดยไม่ว่าจะเป็นการตั้งทัพประชาชนในปัจจุบันหรือว่าก่อนหน้านี้ก็เป็นการยิงกับทหารจู่โจมกับทหารจู่โจมแบบทหารกองโจรก็ว่าไปตอนนี้สถานการณ์รัฐฉินมันมาถึงจุดที่การต่อสู้กันระหว่างทหารกับกองทัพประชาชนมันมาถึงจุดที่แทบจะเรียกว่าเป็นการปิดเมืองดวนกันแล้ว

นอกจากนี้ที่อีกฝ่ายหนึ่งคือทัพของชาวบ้านกับทหารตึงกำลังกันเรื่องที่เกิดมันเกิดจากการที่ทหารไปจับเด็กรัฐฉินเป็นเด็กวัยรุ่นอาจจะยัดข้อหาว่าเป็นเด็กป่วนบ้านป่วนเมืองอาจจะยัดข้อหาว่าเป็นฝ่ายต่อต้านเผด็จการอะไรก็ตามแต่จับไปหลายคนและเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นสักระมาณสองเดือนก่อนรอบนั้นชาวบ้านล้อมสถานีตำรวจจนต้องคืนเด็กมา

เพราะฉะนั้นแล้วใมนรอบนี้ยังได้จับเด็กไปประมาณ15คนหลังจากจับไปก็เกิดการรวมตัวกันของชาวบ้านที่รัฐฉินกันได้เกิดการปะทะกับทหารอยู่หลายวันยิงกันนัดแรกตั้งแต่วันที่12แล้วได้ปะทะกันมาอย่างต่อเนื่องจนถึงวันที่14-15พอยิ่งปะทะกันมันยิ่งดุดเดือนมากขึ้นเรื่อยๆ

เพราะชาวบ้านแถวนั้นเขาดุเพราะชาวบ้านระแวกนั้นเป็นภูเขาดังนั้นทหารพม่าลำบากไม่ชำนาญในพื้นที่ใช้กองทัพทางพื้นราบบุกเข้าไปยากวันที่14มันเกิดเรื่องใหญ่นั่นก็คือCDFหรือว่ากองกำลังป้องกันประชาชนของรัฐฉินเส้นทามันจะเรียบเขาไปเรื่อยๆมันจะผ่านภูเขาไปเรื่อยจากนั้นคนรัฐฉินก็เลยดักรถทหารจำนวน6คันที่จะขนทหารไปเสริมกำลังในรัฐจากนั้นยึดรถของทหารและอาวุธเป็นจำนวนมากทำให้ทางกองทัพไม่พอใจแถมยังถูกเผารถทหารทั้งหมด

 

สนับสนุนโดย  ufabet เว็บหลัก

ชาวบ้านไม่รู้จักเครื่องวัดแรงสั่น แจ้ง เจ้าหน้าที่ EOD มาทำลายเสียหายถึงสี่แสนบาท 

ชาวบ้านไม่รู้จักเครื่องวัดแรงสั่น แจ้ง เจ้าหน้าที่ EOD มาทำลายเสียหายถึงสี่แสนบาท 

        เมื่อวันที่ 8 เดือนพฤษภาคม ปีพ. ศ.2564   ที่จังหวัดราชบุรีชาวบ้านพบวัตถุประหลาดอยู่ใกล้กับบริเวณฐานขององค์เจดีย์หัก  ลักษณะของวัตถุต้องสงสัยมีสายระโยงระยางเต็มไปหมดและมีกล่องสี่เหลี่ยมขนาดเล็ก

ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวว่าวัตถุดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นระเบิดจึงได้มีการประสานงานแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีการพบเห็นวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดอยู่ตรงบริเวณโบราณสถานซึ่งเป็นบริเวณฐานขององค์เจดีย์หัก 

      เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงสถานที่เกิดเหตุพบอุปกรณ์เป็นกล่องสี่เหลี่ยมคล้ายกับเครื่องมือช่างมีการเชื่อมต่อสายไฟเอาไว้ห่อหุ้มด้วยพลาสติก  ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการประสานงานให้กับทางเจ้าหน้าที่ EOD ซึ่งเป็นฝ่ายกอบกู้ระเบิดให้มาช่วยทำการตรวจสอบโดยมีการนำกรวยยางสีแดงมากั้นล้อมรอบเอาไว้เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น

  เมื่อเจ้าหน้าที่ EOD เดินทางมาถึงก็มีการใช้ปืนยิงน้ำแรงดันสูงยิงไปที่กล่องดังกล่าวเพื่อเป็นการทำลายวัตถุประหลาดเบื้องต้นหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ EOD ก็เข้าทำการตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตัดสินใจที่จะทำลาย เพราะไม่รู้ว่าคืออะไร 

      อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีการทำลายวัตถุประหลาดดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยเจ้าหน้าที่ EOD พบว่าวัตถุดังกล่าวนั้นเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้วัดแรงสั่นสะเทือนซึ่งจากการประสานงานทำการตรวจสอบกับทางกรมทางหลวงจึงทราบว่าอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นกรมทางหลวงได้มีการติดต่อแจ้งเจ้าหน้าที่กรมศิลปากรขอติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวไว้เพื่อตรวจสอบแรงสั่นสะเทือน  ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นมีราคาสูงถึงเครื่องละ 400,000 บาท

        อย่างไรก็ตามหลังจากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมและพบว่าทางกรมทางหลวงมีการประสานงานแจ้งเพียงแค่กรมศิลปากรเท่านั้นแต่ไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รวมถึงไม่ได้แจ้งชาวบ้านและผู้นำหมู่บ้านทำให้ชาวบ้านไม่ทราบมาก่อนว่ามีการนำอุปกรณ์ตรวจจับแรงสั่นสะเทือนมาไว้ตรงบริเวณดังกล่าวเมื่อชาวบ้านเห็นอุปกรณ์ที่มีการเชื่อมต่อสายไฟจึงคิดว่าเป็นระเบิดและเกรงว่าจะเกิดความเสียหายและอันตรายจึงได้มีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาทำลาย

        อย่างไรก็ตามสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ถือว่าเป็นความผิดพลาดของทางกรมทางหลวงที่ไม่ได้มีการประชาสัมพันธ์หรือติดป้ายบอกให้กับประชาชนในพื้นที่ได้ทราบ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้จะเป็นอุทาหรณ์ให้กับทางเจ้าหน้าที่ได้ดีว่าควรจะมีการประสานงานทุกหน่วยงานหรือหากจะมีการติดตั้งอุปกรณ์อะไรควรจะมีการแกล้งคนในพื้นที่ให้ทราบ

เพื่อที่ชาวบ้านจะได้ไม่เกิดความหวาดกลัวกับอุปกรณ์ที่นำมาติดตั้งและสำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวงจะมีการเข้ามาติดตั้งอุปกรณ์ใหม่อีกครั้งหนึ่งเพื่อทำการเปิดจับวัดแรงสั่นสะเทือนเอาไว้และครั้งนี้จะมีการติดป้ายบอกกล่าวชาวบ้านให้ทราบ     

 

สนับสนุนโดย    gclub casinoทดลองเล่น 

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa