ผู้เขียน: admin

ข่มขืนเด็กออทิสติก

ข่มขืนเด็กออทิสติก

เหตุเกิดที่จังหวัดราชบุรี อำเภอโพธาราม โดยที่ในเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นที่เป็นงานบวชโดยที่ตากับยายไปงานบวชซึ่งเป็นที่เกิดเหตุนั่นเอง ตากับยายได้เล่าให้ฟังว่าตนกับตาและหลานนั้นมางานบวชที่นี่และตนก็ได้เข้าไปในงานจากนั้นหลานก็อยู่ในงานกับตน

จากนั้นหลานสาวของตนเป็นเด็กออทิสติกได้ของไปเข้าห้องน้ำตนก็เลยปล่อยให้หลานไปแต่ว่าหลานไปเข้าห้องน้ำโดยที่ใช้เวลาเป็นเวลาที่นานตนกับตาก็เลยไปเดินตามหลานแต่ว่าปรากฏเห็นหลานสาวเดินออกมาจากทางด้านเล้าไก้บริเวณข้างบ้านงานบวช

โดยที่มีสภาพผมที่ยุ้ง  จากนั้นตนกับตาก็ถามหลานสาวว่าไปไหนมาหลานก็เลยบอกว่าตนถูกญาติในบ้านงานที่เป็นน้าเขยนั้นถูกการละเมิดทางเพศ  

และผู้ที่ถูกกล่าวหานั้นได้ทำการหลบหนีไปแล้วหลังจากนั้นหลานสาวก็ยังได้บอกกับตนอีกว่าได้ถูกนายคนนี้ทำการละเมิดทางเพศแบบนี้มาแล้วหลายครั้งโดยที่ทุกครั้งนั้นโดนจะถูกข่มขู่ว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับใครเพราะว่าไม่อย่างนั้นจะมาฆ่าให้ตายเลยถ้าหลานเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่น 

     จากนั้นยายกับตาก็ได้เดินเข้าไปแจ้งความที่ราชบุรีเพื่อที่จะไปแจ้งความและหลังจากนั้นผู้ที่ถูกกล่าวหาก็ได้เข้าไปให้คำปากคำ  จากนั้นผู้ที่ถูกกล่าวหาก็ให้การโดยการปฏิเสธ   ทุกข้อกล่าวหานั่นเอง  และก็บอกว่าตนไม่ได้ทำการสิ่งนั้น

จากนั้นกองปราบปรามได้บอกบอกยายและเตือนภัยเกี่ยวกับการเลี้ยงบุตรหลานว่าอย่างทิ้งหลานไว้อยู่คนเดียวเพราะว่าอาจจะเป็นการที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้เหมือนกัน  ทางที่ดีที่สุดคือการที่เรานั้นต้องคอยดูแลหลานของเราให้อยู่ในสายตา  เพราะว่าไม่อย่างนั้นอาจจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้นั่นเอง  

     แต่ไม่ว่าอย่างไรนั้นเราเป็นอ่านข่าวเราก็อยากที่จะไม่ได้ยินเกี่ยวกับเรื่องอย่างนี้เพราะว่าทุกครั้งที่เราอ่านข่าวเจอเหตุการณ์อย่างนี้เรารู้สึกว่าบ้านเมืองเราไม่สามารถที่จะไว้ใจใครได้นี่ขนาดว่าที่บ้านนั้นมีงานยังกล้าที่จะคิดทำการข่มขืนอีกเพราะว่าเด็กยังเป็นเด็กอีก 

อีกทั้งยังเป็นเด็กที่มีความบกพร่องเกี่ยวกับทางด้านสมองอีกด้วย  ที่เรานั้นมักจะเห็นได้ทุกครั้งที่เราเปิดข่าวเจอ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหนเราจะต้องเจอข่าวเกี่ยวกับเรื่องข่มขืน   ดังนั้นเราอยากที่จะให้บ้านเมืองของเราไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเราก็อยากที่จะให้กฎหมายในบ้านเรามีความรัดกุมมากกว่านี้เพราะว่าจะได้ไม่เหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นและก็ต้องกฎหมายให้แกร่งเพื่อที่จะได้ไม่มีคนทำตาม  

 

สนับสนุนโดย    จีคลับ ผ่านมือถือ

หลอกขายแมสทางออนไลน์

หลอกขายแมสทางออนไลน์

จับสาวประเภทสอง ประกาศขายหน้ากากอนามัยทั้งที่ไม่มีสินค้า พอคนโอนเงินให้ก็เชิดเงินหนี

    มีการแถลงข่าวออกมาจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิตอลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมถึงการจับกุมผู้ที่หลอกลวงขายหน้ากากอนามัยให้กับคนอื่น   ทั้งนี้นายพุฒิพงศ์เป็นผู้แถลงการณ์ด้วยตัวเองโดยมีการระบุว่าสามารถจับกุมสาวประเภทสองที่มีการโพสต์ขายหน้ากากอนามัยผ่านทาง facebook

ซึ่งมีคนหลงเชื่อเป็นจำนวนมากโดยมีการโอนค่ามัดจำไปให้สาวประเภทสองก่อนประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์และเมื่อมีการนัดไปรับของทางสาวประเภทสองก็ไม่ไปตามนัดและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลยซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบเงินหมุนเวียนในบัญชี

พบว่าประเภทสองคนนี้มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 3 ล้านบาทภายในระยะเวลาแค่เพียง 3 เดือนเท่านั้นและที่สำคัญเมื่อมีการไปตรวจค้นสถานที่พักอาศัยก็ไม่พบหน้ากากอนามัยการที่สาวประเภทสองคนดังกล่าวได้มีการโพสต์ผ่าน Facebook เอาไว้

ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาวประเภทสองคนดังกล่าวไม่ได้มีการกักตุนสินค้าเอาไว้จริงแต่มีการเอาเปรียบลูกค้าด้วยการหลอกลวงว่ามีสินค้าและเมื่อได้เงินมาก็ทำการเชิดเงินหนีไม่ส่งของให้ตามที่นัดหมายกันไว้ซึ่งเหตุการณ์นำมา

ซึ่งการจัดกลุ่มได้ในครั้งนี้เนื่องจากว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการสั่งซื้อสินค้าจากสาวประเภทสองคนนี้โดยมีการนัดหมายสั่งซื้อสินค้ากันทั้งสิ้นจำนวน สามหมื่นชิ้นด้วยกัน  ซึ่งก่อนที่จะมีการตกลงซื้อขายกันนั้นก็ได้มีการ Video Call เพื่อให้ทางลูกค้าสามารถเห็นสินค้าได้ว่าสินค้านั้นมีอยู่จริงเมื่อผู้เสียหายเห็นสินค้ามีอยู่จริงจึงได้ดำเนินการโอนเงินค่ามัดจำเป็นเงินทั้งสิ้น 45,000 บาท

ไปให้สาวประเภทสองหลังจากนั้นก็มีการนัดสถานที่รับสินค้าโดยมีการนัดกันแถวบริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์แต่เมื่อผู้เสียหายเดินทางไปรับสินค้าตามที่นัดหมายกันเอาไว้แล้วกับไม่พบสาวประเภทสองเคยส่งสินค้าให้รวมถึงไม่สามารถติดต่อกับคนดังกล่าวได้อีกเลย

จึงทำให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าตนเองถูกหลอกเอาเงินและสาวประเภทสองคนดังกล่าวคงจะหนีไปแล้วทำให้ผู้เสียหายเดินทางเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อตามตัวสาวประเภทสองมาลงโทษและเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและนายพุฒิพงศ์ได้มีการแถลงการณ์ว่าใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่า

จะตามตัวเจอเนื่องจากว่าผู้ต้องหามีความสำนานในการหลบหลีกการตรวจสอบโดยเขานำบัตรประชาชนของคนอื่นมาเปิดเพื่อหลอกให้ผู้เสียหายโอนเงินให้หลังจากนั้นถึงนำเงินดังกล่าวโอนเข้าบัญชีตนเองอีกครั้งหนึ่งทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองสืบหลายชั้นกว่าจะเจอกับผู้ต้องหาคนดังกล่าวในขั้นแรก

ทางสาวประเภทสองเองได้มีการปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนติดต่อค้าขายสินค้าเพียงแค่เป็นคนดูแลเพจเท่านั้นแต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐานอย่างอย่างชัดเจนและสามารถดำเนิน สาวประเภทสองได้

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  gclubฟรี500

เน็ตไอดอล หลอกหมั้นเอาเงินไปหลายแสน

เน็ตไอดอล หลอกหมั้นเอาเงินไปหลายแสน

      มีชายหนุ่มคนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลง Facebook ส่วนตัวเปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวและชีวิตรักของตนเองโดยชายคนนี้ได้มีการออกมาแฉถึงคู่หมั้นสาวซึ่งในปัจจุบันถือว่าเป็นอดีตกันไปแล้วเนื่องจากว่าปัจจุบันสาวคนดังกล่าวได้มีการคบหากับหนุ่มคนใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว

เดี๋ยวเขาได้ออกมาบอกข่าวเรื่องราวส่วนตัวของเขาในครั้งนี้ให้ฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้ชายหลายๆคนที่คิดจะเป็นสาวด้วยเงินให้ระวังให้ดีซึ่งเขาเล่าว่าเขาคบกับหญิงสาวคนนี้ซึ่งใช้นามสมมุติว่าบีมาตั้งแต่สมัยเรียนโดยเขาจะเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องของค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าเล่าเรียนเสื้อผ้าต่างๆ

รวมถึงเมื่อสินค้าที่พ่อแม่ของฝ่ายหญิงเดือดร้อนเงินก็มักจะมาขอเงินตนเองเพื่อไปช่วยเหลือพ่อกับแม่ซึ่งไปยังเคยเสนอให้มีการหมั้นหมายกันเกิดขึ้นเพราะต้องการนำเงินไปช่วยเหลือพ่อเป็นจำนวนหลายแสนบาทดังนั้นตนเองจึงได้มีการหมั้นกับผู้หญิงแต่น้ำจากหมั้นกันไปแล้ว

ฝ่ายหญิงก็ตีตัวออกห่างซึ่งภายหลังจากได้ว่าเธอไปคบกับผู้ชายคนใหม่ซึ่งเป็นนักการเมืองหลังจากนั้นเธอก็ข่มขู่ชายหนุ่มด้วยมาแถมยังไม่ยอมคืนเงินที่ยืมไปซึ่งเรื่องนี้เป็นข่าวโด่งดังไปทั่วฟ้าหญิงก็ได้ออกมาตอบโต้ว่ามีการช่วยเหลือกันจริงในฐานะที่เคยเป็นแฟนกันและมีการหมั้นกันจริงเขาต้องการเอาเงินมาช่วยเหลือพ่อแต่ฝ่ายชายเป็นคนเสนอให้มีการบ้านและที่สำคัญปัจจุบันฝ่ายหญิงได้มีการพบกับชายหนุ่มคนใหม่แล้ว

ต้องการที่จะคืนเงินที่เคยยืมไปให้กับฝ่ายชายแต่กลับเป็นฝ่ายชายเองที่ไม่ยอมรับเงินและพยายามตามตื๊อเธอมาโดยตลอดเธอจึงได้มีการเอาชื่อนักการเมืองมาข่มขู่เพื่อต้องการให้ฝ่ายชายเลิกมายุ่งกับเธอ

     เหตุการณ์ที่ผู้ชายเปย์ผู้หญิงแล้วถูกฝ่ายหญิงทิ้งเพราะเราหวังแต่เงินนั้นมีให้เห็นอย่างมากมายซึ่งก่อนหน้านี้ก็เพิ่งมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเมื่อสองสามวันก่อนโดยฝ่ายชายก็มีการเปย์ให้กับฝ่ายหญิงแบบเดียวกันนี้จ่ายแม้กระทั่งค่าซักเสื้อผ้าในราคา 2,500 บาท

ซึ่งเป็นข่าวเกรียวกราวกันเมื่อไม่นานมานี้ก็ยังมีซื้อก่อนหน้านี้ที่มีข่าวกับผู้ชายคนหนึ่งที่มักจะโอนเงินไวๆเพื่อไปช่วยเหลือสาวๆที่หน้าตาดีแต่ก็ถูกหลอกทุกครั้งไปจึงทำให้ขาเหล่านี้ควรจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับหนุ่มๆที่มักจะพบกับหญิงสาว

โดยที่ไม่ดูข้อมูลก่อนว่าพวกเธอเหล่านั้นมีนิสัยเป็นอย่างไรเพราะไม่เช่นนั้นก็จะถูกยิงสาวเรานั้นหลอกให้จ่ายเงินให้แล้วก็จะถูกทิ้งเหมือนกับที่ชายหนุ่มหลายๆคนกำลังใจกันอยู่ในตอนนี้ซึ่งสำหรับเคสของน้องบีคนนี้ได้มีผู้ชายหลายคนเข้ามาติดต่อผู้ชายที่เป็นเจ้าของ Facebook ที่มีการออกมาแฉน้องบีว่าน้องบีนั้นไม่มีการหลอกลวงผู้ชายหลายคนเพื่อนเอาเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายให้ตนเองจนเรียนจบแล้วก็มาบอกเลิก

 

สนับสนุนโดย  gclubฟรี500

ลูกเทพคนเดิมเตรียมทุบรถคนอื่นประชดแม่อีกรอบ

ลูกเทพคนเดิมเตรียมทุบรถคนอื่นประชดแม่อีกรอบ

        หากยังคงจำกันได้เกี่ยวกับกรณีลูกเทพซึ่งไม่เคยห่างหายไปจากวงการสื่อเลยเพราะมักจะออกมาแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวและทำลายข้าวของรถของคนอื่นหากว่าแม่ของตนเองไม่ยอมตามใจโดยก่อนหน้านี้มีคุณครูคนหนึ่งที่ทำงานอยู่ที่โรงเรียนศรีสะเกษวิทยาลัย

มักจะมีปัญหาทะเลาะกับลูกชายเนื่องจากลูกชายมักจะมาขอเงินเพื่อไปซื้อของอย่างที่อยากได้ตลอดเวลาซึ่งถ้าหากครั้งไหนแม่ปฏิเสธแต่คนดังกล่าวก็มักจะมาระบายอารมณ์กับรถของคนอื่นด้วยการนำก้อนหินมาทุบรถของคนอื่นให้ได้รับความเสียหายใด

ที่ถูกทำลายนั้นก็จะเป็นรถเพื่อนครูของแม่ที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันซึ่งเหตุการณ์ลูกเทพทุบรถนี้มีมาอย่างยาวนานหลายปีและถึงแม้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มีการนำตัวไปเข้าห้องขัง 

แต่เมื่อออกมาจากห้องขังแล้วแม่ไม่ตามใจก็ยังมีการทำพฤติกรรมอยู่เหมือนเดิมซึ่งหลายคนก็ได้ออกมาบ่นแม่ของชายคนดังกล่าวว่าเลี้ยงลูกจนเสียคนจะลูกไม่สามารถที่จะถูกขัดใจได้แล้วก็ถ้าหากแม่ขัดใจเมื่อไหร่ลูกก็จะมีพฤติกรรมก้าวแล้วไปทำลายข้าวของของคนอื่นเหมือนเดิมโดยเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้วลูกเทพก็เพิ่งตอบปัญหาการทุบรถของคนอื่นมา

ซึ่งเจ้าของรถก็ได้ยอมความให้เพราะสงสารแม่ โดยทางคนเป็นแม่เองก็รับปากว่าจะมีการอบรมสั่งสอนลูกไม่ให้กระทำการดังกล่าวอีกแต่นี่ผ่านไปยังไม่ถึง 1 เดือนก็มามีพฤติกรรมที่จะทำร้ายข้าวของของคนอื่นอีกแล้ว โดยครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับได้คาหนังคาเขายังมีสินค้าอยู่ในมือ

โดยลูกเทพคนดังกล่าวนี้มีชื่อว่านายเจตคติโดยล่าสุดมีการใช้ก้อนหินไปทุบรถของคนอื่นเมื่อวันที่ 17 เดือนมีนาคมปีพศ. 2563 ซึ่งทางผู้เป็นเจ้าของรถได้มีการแจ้งความเอาไว้แล้วครั้งแรกทางเจ้าของรถไม่ทราบว่าใครเป็นคนที่นำก้อนหินมาทุบรถของตนเองแต่มีพยานและหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นนาย เจตคติซึ่งก็คือลูกเทพในตำนานได้เป็นคนลงมือทำการทุบรถเหตุ

เพราะว่าไม่พอใจแม่ของตนเองที่ไม่ยอมให้เงินไปซื้อของจึงต้องการทำประชดแม่ซึ่งทุกครั้งที่นาย เจตคติอยากได้เงินแล้วแม่ไม่ให้เขาก็มักจะมาก่อเหตุแบบนี้อยู่เสมอและแม่เองก็จะต้องเป็นผู้เจรจาขอชดใช้ให้กับทางผู้เสียหายจึงไม่ค่อยมีใครเอาความแต่ในกรณีนี้ทางผู้เสียหาย

และตัวแม่ของนายเจตคติไม่ได้ทราบเรื่องราวมาก่อนว่าเป็นผลงานของนายเจตคติทางแม่ของนายเจตคติจึงไม่ได้มีการไปเจรจากับทางผู้เสียหายก่อนดังนั้นเมื่อผู้เสียหายเห็นว่ารถตัวเองถูกทำลายจึงได้ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจและนำมา

ซึ่งการจับกุมนายเจตคติในครั้งนี้ซึ่งมีการออกหมายจับและศาลได้อนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้วและที่สำคัญขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังจับกุมนายเจตคติพบว่าในกระเป๋าของนายเจตคติ มีก้อนหิน อยู่ในนั้นเป็นจำนวน 1 ก้อน

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็คิดว่านายเจตคติอาจจะกำลังเดินทางไปก่อเหตุกับรถคันอื่นอีกทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมนายเจตคติเป็นที่เรียบร้อยแล้วและตัวนาย เจตคติก็ให้การยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  บาคาร่าอันดับ

ตำรวจตั้งด่านลอยจับดีเจชื่อดังตรวจฉี่เรียกรับเงิน 25,000 บาท

ตำรวจตั้งด่านลอยจับดีเจชื่อดังตรวจฉี่เรียกรับเงิน 25,000 บาท

    มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งอ้างว่าเป็นดีเจชื่อดังเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตั้งด่านลอยพร้อมทั้งเรียกรับเงินสินบนโดยทางดีเจได้มีการระบุใน Facebook ส่วนตัวของตนเองว่าในวันดังกล่าวตนเองเดินทางผ่านด่านตรงจุดนั้นและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกตรวจสอบ

ซึ่งมีการนำไปตรวจฉี่หาสารเสพติดผลปรากฏว่า ในฉี่เป็นสีม่วงทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวดีเจดังคนดังกล่าวไปทำการตรวจหาสารเสพติดอีกครั้งที่โรงพยาบาลซึ่งผลปรากฏว่าเหตุผลที่ฉี่เป็นสีม่วงนั้นเนื่องจากว่าดีเจดังคนดังกล่าวกินยาเข้าไป

ซึ่งยานั้นมีสารเมทแอมเฟตามิน  ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พาตัวดีเจคนดังกล่าว มาพูดคุยที่ห้องของสายตรวจโดยมีการเสนอเงิน 15,000 บาทเพื่อให้ปล่อยตัวโดยทางเจ้าหน้าที่ได้มีการรับเงินไว้หลังจากที่ DJ คนดังกล่าวถูกปล่อยตัวออกไปแล้วก็ไปถูกตรวจด่านอีกครั้งหนึ่งตรงสนตลิ่งชันผลปรากฏว่าไม่พบสารสีม่วงจึงทำให้ดีเจคนดังกล่าวเข้าใจว่าด่านลอยที่ตั้งตรงท่าพระนั้นมีการยัดยาเสพติดให้กับตนเอง

หลังจากนั้นจึงได้มีการโทรกลับมาหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตั้งด่านลอยพร้อมทั้งให้เพื่อนที่เป็นทนายความมีการพูดจาข่มขู่ตำรวจว่าจะเอาผิดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีการตั้งด่านลอยและยาเสพติดพร้อมทั้งรับเงินของตนเองไปหลังจากนั้นก็ได้นำเรื่องราวมาโพสให้กับประชาชนได้อ่านกันซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นนักข่าวได้ไปสัมภาษณ์ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นหัวหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรงสนท่าพระพบว่าด้านดังกล่าวเป็นด่านลอยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแอบมาตั้งกันเองจริง

ซึ่งทั้งนี้ได้มีการส่งตรวจสอบวินัยแล้วและหากพบว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกรับเงินประชาชนจริงก็จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและถ้าเกิดทางดีเจเองเป็นผู้เสนอเงินให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงแม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะรับเงินก็ตามก็จะมีการดำเนินคดี

กับทางดีเจคนดังกล่าวโทรถามติดสินบนทางเจ้าหน้าที่ในขณะเดียวกันชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณน้ำต่างก็บอกกันว่าด่านนี้มีการตั้งขึ้นมาได้สักระยะแล้วและก็มีเสียงเล่าลือกันว่ามักจะมีการเรียกเก็บเงินกับทางประชาชนแต่ก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

   ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คงต้องรอผลจากการสืบสวนสอบสวนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งหนึ่งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามทั้ง 4 คนได้กระทำการผิดจริงหรือไม่และหากผิดจริงก็จะมีการลงโทษทางวินัยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงถ้าหากดีเจดังกล่าวมีการเสนอเงินให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงก็จะถูกดำเนินคดีด้วยเช่นเดียวกัน 

 

ขอบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  สมัครจีคลับ ไม่มีขั้นต่ำ

เมียหลวงประจานเมียน้อย สามีแย้งเพราะเมียหลวงมีชู้ก่อน

เมียหลวงประจานเมียน้อย สามีแย้งเพราะเมียหลวงมีชู้ก่อน

      กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในโลกโซเชียลเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นเมียหลวงได้มีการโพสต์คลิปวีดีโอและภาพลับของสามีที่กำลังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นโดยเธอใช้คำว่าเมียน้อยด้วยในข้อความของเธอนั้น

มีการระบุเอาไว้ว่า สามีของฉันมีผู้หญิงคนอื่นและผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังยอมรับออกมาโดยตรงพร้อมใช้ยังส่งรูปภาพการมีอะไรกันกับสามีของเธอมาให้เธอดูตามให้เธอต้องโพสต์ภาพนี้ให้กับคนในโซเชียลได้รู้  ซึ่งเมื่อ Facebook ได้มีการเผยแพร่ออกไปต่างก็มีคนพากันมาวิพากษ์วิจารณ์สามีของเธอรวม

ถึงเมียน้อยที่กระทำผิดไปหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเป็นข่าวดังใหญ่โตทางฝั่งของสามีของเมียหลวงก็ได้ออกมาขอชี้แจงกับทางนักข่าวโดยสามีคนดังกล่าวชื่อว่าคุณนนท์ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวไว้ว่าที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนเอง

และคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยได้รับความเสียหายทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงอย่างที่เมียหลวงมีการโพสต์เอาไว้เลยคุณยังเล่าข้อมูลให้ฟังว่าตอนที่คุณนนท์อยู่กับภรรยานั้นภรรยาของคุณนนท์ได้แอบมีชู้กับไปคบกับแฟนเก่าแต่ยังนำเงินของคุณนนท์ไปช่วยเหลือแฟนเก่าอยู่ตลอดเวลาทำให้คุณนนท์และภรรยาทะเลาะกัน และได้มีการเลิกกันไปแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน

ก่อนที่คุณนนท์จะมาคบกับผู้หญิงคนใหม่และมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่ดังนั้นคุณนนท์ยืนยันได้ว่าผู้หญิงคนใหม่ที่อยู่ในคลิปไม่ได้เป็นเมียน้อยอย่างแน่นอนแต่เป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นคบกันส่วนสาเหตุที่ภรรยาเก่านำคลิปของคุณนันมาเผยแพร่นั้น

เนื่องจากภรรยาเก่าไม่พอใจที่เดินทางมาขอเงินคุณนนท์ 5,000 บาทที่บ้านแล้วคุณมันไม่ให้โดยทางภรรยาเก่าน่าจะแอบเซฟรูปจากมือถือของเขาขณะที่เขาเผลอแล้วเอาไปลงโซเชียลซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณนั้นบอกว่าจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใดๆ

กับทางภรรยาเก่าแน่นอนเพราะว่าเริ่มได้ผ่านไปแล้วถึงแม้ว่าตนเองและทางแฟนใหม่ของตนจะเสียหายก็ตามแต่หลังจากนี้ก็ขอให้ทำภรรยาเก่าเลิกราไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคนอื่นและแฟนใหม่อีก 

     สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องราวของคนทั้งหมดเพราะแต่ละคนก็มีหลักฐานว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดเพิ่งทางด้านสามีเองก็มีคลิปเสียงว่าแฟนเก่าของภรรยามีการโทรมาด่าว่าโง่และยังบอกอีกว่าภรรยาเก่าของตนเองเอาเงินไปให้แฟนเก่าใช้ตลอดเวลาดังนั้นทางสามีจะบอกว่าตนเองไม่ผิดที่จะไปมีผู้หญิงคนอื่นเพราะภรรยาเองก็มีการกลับไปคบกับแฟนเก่าเช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1

หนุ่มเอาน้ำลายป้ายในลิฟต์ที่ BTS

หนุ่มเอาน้ำลายป้ายในลิฟต์ที่ BTS

หนุ่มเอาน้ำลายป้ายในลิฟต์ที่ BTS ชี้แจงเหตุผลที่ทำเช่นนั้นเพราะต้องการพิสูจน์รักแท้ 

   หากยังจำกันได้ถึงผู้ชายเสื้อสีดำกางเกงสีแดงคนหนึ่งที่เข้าไปในลิฟท์ของสถานีรถไฟฟ้า BTS สถานีสนามกีฬาและเมื่อชายคนดังกล่าวเข้าไปในเว็บก็ล้วงเอาน้ำลายไปต่างๆภายในลิฟท์วันถึงดวงเข้าไปในกางเกงชั้นในของตนเองด้วย

ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตามจับกุมตัวมาได้พร้อมกับส่งไปตรวจสอบหาการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าและอาการป่วยทางจิตเนื่องจากเริ่มมีข่าวเกิดขึ้นทางพี่สาวของชายคนดังกล่าวยืนยันว่าใน  ชายที่อยู่คลิปที่กำลังเป็นที่โด่งดังอยู่ในขณะนี้เป็นน้องชายของตนเอง

และมีอาการป่วยทางจิตต้องกินยาอยู่ตลอดเวลาซึ่งณวันที่เกิดเหตุคาดว่าน้องชายน่าจะลืมกินยาจึงทำให้ไปก่อเหตุดังกล่าว ซึ่งนักข่าวได้ไปทำการขอสัมภาษณ์ชายเสื้อดำคนดังในคลิปดังกล่าวก็ได้รับการปฏิเสธในตอนแรกโดยเขาขอเอกสารยืนยันการตรวจผลไวรัสโคโรน่าและตรวจผลทางจิตประสาทของเขาออกมาก่อนแล้วจะมีการให้สัมภาษณ์ในช่วงเวลา 8:00 น

นั้นล่าสุดทางนักข่าวได้ติดต่อเพื่อขอสัมภาษณ์เขาอีกรอบนึงซึ่งเขาตกลงในการจะให้ข้อมูลเบื้องต้นกับนักข่าว  โดยเขาขอใช้นามสมมุติว่าชื่อ กิจ ซึ่งคุณกฤษบอกกับนักข่าวว่า ตนเองไม่ได้เป็นคนโรคจิตหรือมีอาการทางประสาทเป็นอย่างไรแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นเนื่องจากว่าตนเองได้รู้จักกับชายคนนึงซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจและมีการพนันการเกิดขึ้นว่าถ้าหากตนเองสามารถทำอะไร

ก็ได้ให้ชายคนดังกล่าวหันมาสนใจได้ชายคนดังกล่าวจะตกลงเป็นแฟนกันกับตนเองทำให้คุณกฤษเดินมาถึงที่สถานีรถไฟฟ้า BTS แล้วเข้าไปในลิฟท์จึงได้ทำการป้ายน้ำลายลงไปในบริเวณที่ต่างๆซึ่งในตอนนั้นตนเองไม่ได้มองเห็นว่ามีกล้องวงจรปิดอยู่แต่เมื่อทำไปแล้วจึงรู้ว่ามีกล้องวงจรปิดจึงได้เดินออกมาแล้วก็ถูกทางเจ้าหน้าที่รปภและเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวมา

เพื่อดำเนินคดีซึ่งทางคุณกฤษเองยืนยันว่าตนเองไม่ได้ป่วยโรคจิตอย่างแน่นอนตามที่พี่สาวให้ข่าวและตอนนี้ก็มีการไปตรวจผลว่าตนเองเป็นโรคจิตหรือไม่รวมถึงผลของการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าออกมาเบื้องต้นแล้วว่าตนไม่ได้ป่วยมีอาการทางประสาทเป็นอย่างไร

รวมถึงไม่ได้ติดเชื้อแต่อย่างใดแต่ขอผลยืนยันอีกครั้งหนึ่งที่เป็นที่แน่นอนแล้วจะมีการนัดนักข่าวเพื่อให้ข้อมูลอีกครั้งหนึ่งโดยตนเองยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเพื่อเป็นการพิสูจน์รักแท้ระหว่างตนเองกับชายนักธุรกิจเท่านั้นไม่ได้ต้องการที่จะสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร

    ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กล่าวว่าหากผลปรากฏออกมาว่าคุณกฤษไม่ได้ป่วยเป็นโรคโคโรน่าและไม่ได้มีอาการทางประสาทแต่ก่อเหตุการกระทำเช่นนี้ก็จะมีการแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นและทำให้สถานที่ต่างๆสกปรกซึ่งจะมีผลทั้งติดคุกและปรับเป็นเงินจำนวนไม่เกิน 10000 บาท 

 

สนับสนุนโดย  ufabet บาคาร่า

วัยรุ่นกลุ่มตลาดสด ยกพวกไปทำร้ายคู่อริถึงที่บ้าน

วัยรุ่นกลุ่มตลาดสด ยกพวกไปทำร้ายคู่อริถึงที่บ้าน

        ที่จังหวัดสงขลา มีกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มใหญ่ที่ว่ากันว่าเป็นแก๊งตลาดสด ได้รวมตัวกันยกพวกไปที่หน้าบ้านคู่อริที่กำลังล้างผักอยู่ในบ้าน โดยวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวมีการเตรียมอาวุธมาพร้อมที่จะทำร้ายคู่อริให้ตายเลยเพราะมีการเตรียมทั้งปืนและมีด

จนคู่อริต้องวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านพักและกระโดดหนีตาย แต่โชคไม่ดีตกลงมาหัวกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ซึ่งตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมวัยรุ่นที่มาก่อเหตุได้แล้วหนึ่งคน

      เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นประมาณช่วงเวลา 21:00 นของคืนวันที่ 11 เดือนเมษายนปีพศ 2563 โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ. หาดใหญ่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีกลุ่มวัยรุ่นจากทางตลาดสดก่อเหตุ ยกพวกไปรุมทำร้ายอริจนได้รับบาดเจ็บ

ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังไปยังจุดที่เกิดเหตุก็พบร่องรอยการต่อสู้กันโดยสภาพสถานที่เกิดเหตุนั้นเป็นอาคาร 2 ชั้นมีร่องรอยกระจกแตกกระจัดกระจายเต็มไปหมด เส้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีปลอกกระสุนปืนตกรวมถึงมีมี่ตกอยู่บนถนนอีก 3 เล่มด้วยกัน

ซึ่งเป็นของกลุ่มคนร้ายทำตกเอาไว้ที่ตำรวจได้เก็บเอาไว้เป็นหลักฐานเรียบร้อยแล้ว ส่วนคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเป็นคนที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นเดินทางมาทำร้ายนั้นชื่อว่าในเจอายุประมาณ 20 ปีซึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะตอนนี้ทางกู้ภัยได้มีการนำตัวส่งโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว

ซึ่งมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ให้คุณว่ากลุ่มวัยรุ่นที่มาทำร้ายในใจนั้นมีประมาณ 10 กว่าคนโดยในตอนที่เกิดเหตุนั้นในเจกำลังล้างผักอยู่ที่บ้านของตนเองอยู่ดีๆก็มีกลุ่มวัยรุ่นเปลือย 10 คนเดินทางมาที่หน้าบ้านแล้วกรูกันเข้าไปในบ้านเพื่อจะทำการรวมทำร้ายในเจทำให้นายเจต้องวิ่งหนีมายังบ้านของเพื่อนบ้านและยังวิ่งขึ้นไปบนชั้น 2

ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 10 คนก็พากันวิ่งตามในเจไปแต่ยังมีการยิงปืนใส่ในเจทำให้นายเจต้องตัดสินใจกระโดดบ้านจากชั้น 2 ลงมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุมาได้ 1 คนแต่ทางผู้ก่อเหตุให้การปฏิเสธว่าตนเองไม่ได้รู้จักกับนายเจและไม่ได้เข้าไปร่วมทำร้ายแต่อย่างใดเพียงแค่ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์มายังจุดเกิดเหตุเท่านั้น

ส่วนคนที่ก่อเหตุจริงๆนั้นชื่อนายดำซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการหลบหนีอยู่ แต่มีพยานยืนยันว่าคนที่ถูกจับกุมได้นั้นคือหนึ่งในผู้ก่อเหตุเพราะมีคนเห็นว่าถือมีดไปยังจุดเกิดเหตุแล้วพยายามจะวิ่งเข้าแทงนายเจซึ่งโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการจะคลอดนานๆเข้าผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ร่วมมือกระทำด้วย โดยนายดำ เป็นคนที่มีเรื่องกับนายเจ และชวนเพื่อนคนอื่นๆมาทำร้ายนายเจ

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  ดาวน์โหลด Gclub

สาวป่วยซึมเศร้า จุดไฟเผาตัวเอง

สาวป่วยซึมเศร้า จุดไฟเผาตัวเอง

    มีชาวบ้านแจ้งเหตุกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดเพชรบุรีเมื่อวันที่ 10 เมษายนปี พ.ศ. 2563   ว่าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งมีหญิงสาวคนหนึ่งได้ฆ่าตัวตายด้วยการจุดไฟเผาตนเองและเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านที่เกิดเหตุพบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านชั้นเดียว

ซึ่งภายในบ้านพักญาติของผู้เสียชีวิตได้นำร่างของผู้เสียชีวิตมานานวางไว้บนที่นอนโดยร่างกายของผู้เสียชีวิตนั้นมีลักษณะของร่องรอยการถูกไฟเผาไหม้เป็นสีดำอีกทั้งผนังภายในบ้านพักก็มีร่องรอยการถูกไฟไหม้มีแต่ควันไฟคละคลุ้งไปทั่ว

และใกล้ๆที่จุดวางศพก็มีขวดใส่น้ำมันตกอยู่ซึ่งเป็นขวดแก้วซึ่งคาดว่าเป็นขวดน้ำมันที่ผู้ตายใช้ในการจุดไฟเผาร่างตนเองเหตุการณ์ในครั้งนี้สามีของผู้ตาย ได้เล่าให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าคนตายชื่อนางสาวเสาวลักษณ์โดยมีคนตายนั้นมีอาการทางประสาทและมีอาการของโรคซึมเศร้าเพิ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลชะอำแผนกคลินิกจิตเวช

ซึ่งนางสาวเสาวลักษณ์นั้นพยายามฆ่าตัวตายมาแล้วหลายครั้งแต่ก็สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงทีแต่มาครั้งนี้ที่ไม่สามารถช่วยเหลือทำได้เนื่องจากว่าก่อนเกิดเหตุสามีของนางสาวเฉลาลักษณ์ได้ทะเลาะกับภรรยาจึงได้มีการแยกกันอยู่และในช่วงเช้าของวันเกิดเหตุทางสามีก็ได้เดินทางไปทำงานตามปกติเสร็จแล้ว

ประมาณ 09:30 นถึงได้กลับเข้ามาบ้านเมื่อเดินทางมาถึงบ้านก็เห็นว่ามีควันไฟลอยออกมาจากในตัวบ้านแล้วพอสามีเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่านางสาวเฉลาลักษณ์ได้มีการจุดไฟเผาตนเองเพราะมีร่องรอยไฟไหม้ตามร่างกายเต็มไปหมดซึ่งเธอ

ซึ่งเขาไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือเธอได้ทันที่ทำให้เธอเสียชีวิต  หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสำรวจศพเรียบร้อยแล้วจึงได้มีการไปสำรวจพื้นที่บริเวณใกล้เคียงซึ่งมีกล้องวงจรปิดอยู่ที่ร้านได้กับบ้านของผู้เสียชีวิตโดยมีรายละเอียดในกล้องวงจรปิดจะเห็นว่าผู้เสียชีวิตเดินทางไปซื้อน้ำมันที่ร้านก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ได้ประมาณ 1 ชั่วโมงเส้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง

มีการสันนิษฐานเอาไว้ว่าผู้เสียชีวิตน่าจะมีอาการของโรคซึมเศร้ากำเริบจึงทำให้คิดสั้นตีกันจุดไฟเผาตนเองจนถึงแก่ความตายสำหรับทางญาติของผู้เสียชีวิตเองตอนนี้ยังไม่ค่อยเชื่อจากข้อสันนิษฐานที่ตำรวจมีให้มากนักว่านางสาวเฉลาลักษณ์จะฆ่าตัวตายเอง

ยืนยันจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนำศพไปผ่าพิสูจน์ก่อนก็อยากจะรู้ว่านางสาวเฉลาลักษณ์งั้นตายก่อนหรือหลังพี่จะถูกไฟคลอก  

       สำนักเหตุการณ์ฆ่าตัวตายในครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะพิสูจน์ได้ไม่ยากเพราะเมื่อนำศพไปให้ทางโรงพยาบาลผ่าพิสูจน์อยู่ก็จะพบว่าเสียชีวิตก่อนหรือหลังที่จะถูกไฟไหม้อีกทั้งยังมีพยานแวดล้อมจากกล้องวงจรปิดที่จะเห็นได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ไปซื้อน้ำมันมาด้วยตนเองซึ่งถ้าเกิดทางสามีของผู้เสียชีวิตมีพยานบุคคลที่สามารถยืนยันได้ว่าตนเองนอนอยู่อีกบ้านหลังหนึ่งก็ทำให้สามีคนผิดได้ทันที 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub casino online มือถือ

สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรม

สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรม

          สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรมประหลาดจนชาวบ้านร้องเรียน

            สำหรับประเทศไทยของเรานั้นมีสถานปฏิบัติธรรมหลายพื้นที่หลายแห่งมากแต่มีอยู่ที่หนึ่งที่จังหวัดสระแก้วที่มีความแตกต่างแตกแยกไปจากสถานปฏิบัติธรรมที่อื่นๆ นี่จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่จะเน้นให้ผู้คนที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่หัดปฏิบัติธรรมด้วย

การขับลมเพื่อเป็นการฟอกลมรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ฝึกสมาธิของที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็คือจะให้นักปฏิบัติธรรมได้ทำการนั่งฝึกสมาธิและหายใจเข้าออกด้วยจังหวะที่เร็วเพื่อเป็นการฟอกลม ซึ่งเรื่องนี้มีชาวบ้านได้มีการร้องเรียนเข้ามาให้ช่วยตรวจสอบให้หนอ่ย

เพราะชาวบ้านเห็นว่าสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้มีวิธีการสอนคนที่มาปฏิบัติธรรมจากแรกนั่นก็คือให้ยืมหายใจแรงๆเป็นลักษณะของการฟอกลม พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาให้คล้ายกับเสีัยงสัตว์ตามปีนักษัตร ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคนแต่ละคนเกิดปีอะไรก็จะต้องออกเสียงมาตามเสียงนักษัตรนั้น

ซึ่งพอชาวบ้านเห็นว่ามีการปฏิบัติธรรมแบบจึงอยากจะให้มาตรวจสอบว่าการที่ต้องหายใจแรงๆและมีการแต่งเสียงออกมานี้จะมีอันตรายต่อคนที่มีอาการป่วยอยู่แล้วหรือไม่อย่างเช่นกลุ่มคนที่เป็นพวกโรคหายใจอาจจะทำให้ช็อคได้หรือไม่

ซึ่งวิธีการปฏิบัติทำแบบนี้ถือว่าเป็นวิธีการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องหรือไม่ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ว่าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เปิดมาอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งหลังจากที่มีข่าวการร้องเรียนเข้ามาทางนครได้มีการลงพื้นที่เพื่อลงไปดูสถานการณ์ของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้

โดยมีการอยู่ที่ อำเภอเขาชะกันเป็นพื้นที่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งที่นี่ก็มีพระส่งฆ์คอยดูแล และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบก็ได้มีการนำเจ้าคณะจังหวัดลงมาด้วยซึ่งก็ได้มีการสั่งการว่าให้สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้หยุดการปฏิบัติธรรมชั่วคราวก่อนและได้มีการให้เจ้าอาวาสจากวัดอื่นมาช่วยดูแล

เนื่องจากว่าผู้ที่เป็นเจ้าของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดอื่นอยู่ ชื่อว่าหลวงพ่อดี ซึ่งตอนนี้หลวงพ่อไม่อยู่ไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเพชรบูรณ์และตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วว่าที่นี่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนและยังไม่ได้ขออนุญาติ

  ซึ่งในขณะที่มีการแจ้งปิดสถานีทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดก็ได้มีการควบคุมตัวของผู้คนที่มาปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้เอาไว้ก่อนโดย = ตัวไว้ประมาณ 14 วันตามเงื่อนไขของรัฐบาลก่อนที่จะมีการปล่อยตัวให้กลับบ้านได้ค่ะไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

ส่วนนักข่าวได้มีการสัมภาษณ์ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าเมื่อทำกิจกรรมอย่างที่หลวงพ่อได้สอนแล้วก็รู้สึกว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยดีขึ้นจึงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ไม่ได้เสียหายอะไรดีกว่าการนั่งสมาธิเฉยๆแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa