หมวดหมู่: ข่าวทั่วไป

คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถามกับชาวโซเชียลมีเพื่อนเอาผ้ามือสองมาให้ ดูถูกกัน หรือแสดงความมีน้ำใจ

คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถามกับชาวโซเชียลมีเพื่อนเอาผ้ามือสองมาให้ ดูถูกกัน หรือแสดงความมีน้ำใจ

   คุณแม่มือใหม่ตั้งคำถาม   มีหญิงสาวคนหนึ่งเธอไปตั้งกระทู้ในพันทิปเป็นกระทู้คำถามที่เธอนั้นเกิดความสงสัย ว่าสิ่งที่เธอคิดหรือสามีของเธอคิดนั้นเป็นการคิดมากไปเองหรือไม่โดยระบุว่าตัวเธอเองนั้นเป็นคุณแม่มือใหม่เพื่อนของเธอจึงมีการส่งเสื้อผ้ามาให้

ซึ่งเป็นเสื้อผ้าของเด็ก  โดยเธอมองว่าการที่เพื่อนของเธอเอาเสื้อผ้ามือสองซึ่งเป็นของลูกที่ไม่ได้ใส่ไม่ได้แล้วมาให้เป็นการดูถูกกันและสามีของเธอก็ไม่พอใจพร้อมทั้งไม่ยอมให้ใส่

            เนื่องจากสามีของเธอบอกว่าเขาจะซื้อเสื้อผ้าให้กับลูกของเขาเองถ้าจะให้จะต้องให้เสื้อผ้ามือหนึ่งเท่านั้นและเธอยังกล่าวอีกด้วยว่าเธอมีความคิดเช่นเดียวกันกับสามีของเธอที่สำคัญเวลาที่เพื่อนของเธอทุกคนคลอดลูกออกมาใหม่เธอก็จะซื้อเสื้อผ้าเด็กให้แต่เป็นเสื้อผ้ามือใหม่ไม่เคยให้เสื้อผ้ามือสองเลย  

       แน่นอนว่าหลังจากกระทู้นี้ถูกเผยแพร่ออกมาก็มีคนเข้าไปตอบแสดงความคิดเห็นกันเป็นอย่างมากซึ่งส่วนใหญ่หรืออาจจะกล่าวได้ว่าทุกคอมเม้นที่เข้าไปให้คำตอบนั้นต่างก็บอกว่าตัวเธอและสามีของเธอนั้นเป็นคนคิดมากเพราะทุกคนที่เคยมีลูกเล็กมาก่อนก็เคยได้รับการส่งต่อเสื้อผ้ามือสองมาให้ใช้ทั้งนั้นเนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่มีลูกแล้ว

จะมองว่าเด็กนั้นช่วงแรกๆจะโตเร็วมากดังนั้นถ้าหากว่าซื้อเสื้อผ้ามือหนึ่งให้ใส่เพียงไม่กี่ครั้งก็จะต้องทิ้งเพราะจะใส่ไม่ได้แล้วเป็นการสิ้นเปลืองจึงสมควรที่จะมีการประหยัดค่าเสื้อผ้าแล้วนำเงินไปใช้จ่ายให้ลูกด้านอื่นๆแทน. 

       ซึ่งคนส่วนใหญ่นั้นก็รับเสื้อผ้ามือสองมาจากญาติหรือเพื่อนฝูงด้วยกันทั้งนั้นเพราะส่วนใหญ่เสื้อผ้ามือสองที่ส่งมาให้นั้นก็จะเป็นเสื้อผ้าที่มีการคัดมาแล้วว่ายังสามารถใช้งานได้และคุณภาพดีบางคนยังระบุด้วยว่าตนเองยังเคยนำเสื้อผ้ามือสองไปให้เพื่อนคนอื่นอีกด้วยในขณะเดียวกันตัวเธอเองก็รับเสื้อผ้ามือสองจากเพื่อนคนอื่นๆที่มีลูกแล้วใส่เสื้อผ้าไม่ได้เอามาใส่เช่นเดียวกัน  

      มีผู้ตอบคอมเม้นรายหนึ่งมีการระบุว่าการจะดูว่าการให้เสื้อผ้ามือสองเป็นการแสดงความมีน้ำใจหรือการดูถูกกันนั้นก็ดูจากเจตนารมณ์ให้ซึ่งถ้าเกิดว่ามีเจตนาที่ดีคนที่ให้เขาจะมีการเลือกเสื้อผ้าที่ดีสะอาดมาให้นั่นคือเป็นการแสดงความมีน้ำใจ

แต่ถ้าหากว่าผู้ให้นั้นเอาเสื้อผ้าทั้งดีและไม่ดีปะปนมาแล้วบอกให้เรามาเลือกเองนั่นแสดงคือการดูถูกโดยพวกเขาต้องการที่จะทิ้งเสื้อผ้าถึงเอามาให้ดังนั้นผู้รับสามารถวิเคราะห์จากคำพูดและการกระทำได้

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่หญิงสาวได้ออกมาขอบคุณทุกคำตอบที่เข้ามาตอบเธอและเธอเข้าใจสิ่งที่ชาวโซเชียสื่อแล้ว



สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา ถูกเจ้าของร้านไล่ที่ 

อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา ถูกเจ้าของร้านไล่ที่ 

  อดีตนางเอกดัง แหม่ม  อลิษา  เชื่อว่าคนที่เกิดในยุค 80 กับยุค 90 ยังรู้จักกับอดีตนางเอกชื่อดังอย่าง  แหม่ม  อลิษา  กันเป็นอย่างดีเพราะหญิงสาวนั้นมีผลงานมากมายหลายอย่างในวงการบันเทิงโดยเฉพาะการเล่นละครซึ่งได้รับบทเด่นๆเช่นการเป็นนางเอกจนเมื่อมีอายุมากขึ้นก็ยังอยู่ในวงการบันเทิงโดยรับบทเป็นแม่    

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19   คนในวงการบันเทิงต่างได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากเนื่องจากรัฐบาลได้มีการประกาศห้ามมีการถ่ายโฆษณาและถ่ายละครทำให้นักแสดงหลายคนนั้นไม่มีรายได้

ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นอดีตนางเอกชื่อดังอย่าง   แหม่ม  อลิษา    เช่นเดียวกันดังนั้นเมื่อเธอไม่สามารถหารายได้จากการรับเล่นละครเธอจึงได้มีการหารายได้ด้วยการเปิดร้านขายอาหารตามสั่งซึ่งเป็นร้านเล็กๆร้านหนึ่งเพื่อหารายได้เลี้ยงชีพของตัวเอง

แบบเล็กๆน้อยๆ   โดย  แหม่ม  อลิษา   ได้มีการให้สัมภาษณ์กับนักข่าวช่องวันว่าหลังจากที่เปิดร้านขายของก็มีรายได้วันละประมาณ 700- 800 บาท

        ซึ่งก่อนหน้านี้มีการรับรีวิวสินค้าบ้างแต่ภายหลังนั้นไม่ค่อยมีใครจ้างรีวิวเนื่องจากว่าปัญหาด้านเศรษฐกิจที่มาจากการระบาดของไวรัสโควิช- นอกจากนี้ตัวเองยังมีโรคหลายโรครุมเร้ายกตัวอย่างเช่นโรคอ้วน  อย่างไรก็ตามถึงแม้จะต้องเจอกับอุปสรรคมากมายเธอก็ไม่ท้อถอย

และยังคงสู้ชีวิตหลังจากที่เธอเปิดร้านขายอาหารตามสั่งและเครื่องดื่มมาได้สักพักก็เริ่มมีลูกค้าที่ติดใจในรสมือของเธอมาซื้อสินค้าอย่างต่อเนื่องทำให้เธอพอมีเงินที่จะเอาไว้จ่ายในชีวิตประจำวันได้อย่างไรก็ตามเกิดสภาวะการล็อคดาวล่าสุดที่ในจังหวัดที่เธออาศัยอยู่ทำให้รายได้ของเธอเริ่มลดลงอีกครั้งหนึ่งแต่รายจ่ายของเธอนั้นยังคงมีเท่าเดิม

           อย่างไรก็ตามเมื่อประมาณ 2-3 วันที่ผ่านมานี้เองปรากฏว่าเจ้าของที่ดินที่เธอเช่าเปิดร้านขายอาหารตามสั่งนั้นได้มาบอกให้เธอย้ายออกจากร้านโดยมาบอกให้เธอย้ายออกจากร้านมีผลทันทีตอนสิ้นเดือนซึ่งในขณะนี้เหลือเพียงเวลาอีกไม่ถึงอาทิตย์เท่านั้นทำให้เธอรู้สึกชอบเป็นอย่างมาก

เพราะเธอไม่ได้มีการเตรียมตัวล่วงหน้าว่าจะต้องไปเช่าร้านที่ไหนในการเปิดร้านอาหารทำกินทำให้เธอรู้สึกกดดันมากในหน้าที่ที่เจ้าของร้านมาบอกให้เธอย้ายออกนั้นเธอรู้สึกช๊อกมากจนเกือบหมดสติ    เธอรู้สึกค่อนข้างเสียความรู้สึกที่เจ้าของร้านไม่บอกเธอล่วงหน้าให้นานกว่านี้ซึ่งมาบอกใกล้สิ้นเดือนทำให้เธอหาที่อยู่ใหม่ไม่ทัน    

         อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนใกล้ชิดกับอดีตนางเอกดังเข้ามาให้การช่วยเหลือซึ่งเธอนั้นก็ให้สัมภาษณ์ว่าเธอจะมีการเริ่มต้นชีวิตใหม่และหาลูกค้าร้านอาหารของเธอใหม่แต่ถ้าหากว่าในอนาคตไม่สามารถที่จะมีรายได้พอเลี้ยงชีพได้เธออาจจะต้องตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่บ้านเกิดที่ต่างจังหวัดของเธอ 

 

สนับสนุนโดย.    sa casino ฟรี300

รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ 2 หน้าติด จากบริษัทเอกชนว่าทำงานห่วย

รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ 2 หน้าติด จากบริษัทเอกชนว่าทำงานห่วย

         รัฐบาลญี่ปุ่น โดนด่าผ่านสื่อ   ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดของไวรัสโควิคไม่ได้มีการจัดการยากเฉพาะภายในประเทศไทยเท่านั้นแต่ในหลายประเทศรัฐบาลแต่ละประเทศก็กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหานี้อยู่ซึ่งส่วนใหญ่นั้นพอจะสามารถควบคุมได้ ไวรัสโควิด-19

ก็กลับมาระบาดใหม่อีกรอบหนึ่ง อย่างประเทศไทยก็มีการระบาดมาแล้วถึง 3 รอบด้วยกัน แน่นอนว่าการที่รัฐบาลไม่สามารถควบคุมการระบาดของไวรัสได้นั้น

ย่อมสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนและบรรดาเจ้าของธุรกิจทั้งหลาย  เพราะเมื่อโควิด-19 ยังมีการระบาดมันจะส่งผลต่อธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศนั้นๆนั่นเอง 

      อย่างประเทศญี่ปุ่นเอง ก็มีการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิด-19 มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งประเทศญี่ปุ่นนับได้ว่าเป็นประเทศที่มีการระบาดหลายรอบมากมาก และการระบาดของไวรัสโควิดในรอบล่าสุดนี้ สร้างความเสียหายให้กับประเทศญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นส่งผลทำให้ประชาชนของญี่ปุ่นเกิดความไม่พอใจกับวิธีการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุด

        อย่างไรก็ตามไม่ใช่เพียงแค่ประชาชนคนญี่ปุ่นเพียงอย่างเดียวเท่านั้นที่ไม่พอใจกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลเพราะบริษัทเอกชนใหญ่ๆของประเทศญี่ปุ่นนั้นก็ไม่พอใจอย่างมากเช่นเดียวกันซึ่งตามรายงานข่าวระบุว่าเมื่อวันที่ 21 เดือนพฤษภาคมพ.ศ 2554

  จะได้มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในประเทศญี่ปุ่นได้ลงทุนนำเงินที่มีอยู่ไปทำการซื้อโฆษณาจากสื่อหนังสือพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่งโดยมีการซื้อหน้าหนังสือพิมพ์สองหน้าติดต่อกัน

         และในหนังสือพิมพ์นั้นก็มีการเขียนวิจารณ์การทำงานของรัฐบาลชุดนี้ของประเทศญี่ปุ่นว่ามีการจัดการเกี่ยวกับเรื่องของการระบาดไวรัสโควิตได้แย่และห่วยมากนอกจากจะมีการออกสื่อทางหนังสือพิมพ์แล้วข้อความนี้ยังมีการเผยแพร่กันไปในโลกออนไลน์ทำให้ข้อความที่บริษัทเอกชนต่อว่าการทำงานของรัฐบาลนั้นมีการพูดถึงกันอย่างเป็นวงกว้างเลยทีเดียว 

         สำหรับข้อความที่มีการลงโฆษณาเอาไว้นั้นจะเป็นรูปภาพประกอบกับข้อความโดยลักษณะของข้อความที่เขียนออกมานั้นเป็นข้อความที่ประชาชนนั้นอดทนกับการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลชุดนี้มาปีกว่าแล้วแต่ก็ยังไม่สามารถที่จะควบคุมได้ซึ่งเขามองว่ารัฐบาลกำลังหลอกลวงประชาชนและยังถามหาความรับผิดชอบว่าที่ผ่านมาปีกว่านั้นรัฐบาลทำอะไรให้กับประชาชนบ้าง

           เพราะในตอนนี้พวกเขาไม่มียาหรือไม่มีวัคซีนที่จะป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เลยหรือว่าพวกเขาจะต้องต่อสู้กับเชื้อไวรัส covid ด้วยการใช้หอกไม้ไผ่ต่อสู้กับเชื้อไวรัสเหล่านี้ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากที่สื่อโฆษณานี้ออกไปก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  สมัคร Gclub

พักโรงแรมคืนละห้าหมื่นเพราะอยากถ่ายภาพถ่ายสวยๆ ลงทุนจ้างช่างมืออาชีพ แต่สุดท้ายถ่ายออกมาแย่กว่าถ่ายเอง

พักโรงแรมคืนละห้าหมื่นเพราะอยากถ่ายภาพถ่ายสวยๆ ลงทุนจ้างช่างมืออาชีพ แต่สุดท้ายถ่ายออกมาแย่กว่าถ่ายเอง

            อยากถ่ายภาพถ่ายสวยๆ เมื่อวันที่ 12 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2500  เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ 2564    มีครอบครัวชาวสิงคโปร์ครอบครัวหนึ่งได้ออกมาเปิดเผยเรื่องราวที่ทำให้พวกเขานั้นรู้สึกชอกช้ำใจเป็นอย่างมากโดยคุณพ่อที่เป็นผู้นำครอบครัวระบุว่าลูกสาวของเขานั้นเป็นคนที่ชื่นชอบอควาเรียมเป็นอย่างมาก

ดังนั้นเขาจึงอยากสร้างความประทับใจให้กับลูกสาวและอยากเก็บภาพความทรงจำที่น่าประทับใจนี้เอาไว้จึงได้มีการพาลูกสาวและภรรยาไปเข้าพักในโรงแรมที่บนเกาะ sentosa

          ซึ่งโรงแรมดังกล่าวนั้นจะมีห้องพักที่มองเห็นปลาได้เรียกได้ว่าเอาขอเรียกมาไว้ในห้องพักเลยทีเดียวซึ่งห้องพักนี้ราคาสูงถึงเกือบ 50,000 บาทต่อคืนโดยเขาต้องตัดสินใจนานถึง 6 เดือนกว่าจะตัดสินใจพาคนในครอบครัวมานอนที่โรงแรมแห่งนี้

อย่างไรก็ตามเขาต้องการเก็บภาพทับใจนี้เอาไว้อย่างสวยงามเขาได้มีการลงทุนจ้างช่างภาพมืออาชีพโดยเขาต้องเสียเงินให้กับช่างภาพอยู่ที่ประมาณ 8,400 บาทให้ช่างภาพมาถ่ายรูปความประทับใจในห้องนอนของพวกเขาเรียกได้ว่าเป็นการเก็บภาพส่วนตัว

            แต่แล้วความหวังของเขาที่จะได้ภาพสวยๆออกมานั้นก็พังทลายเพราะในความเป็นจริงแล้ว  ช่างถ่ายภาพที่เขาจ้างมานั้นไม่มีความเป็นมืออาชีพเลยเพราะมาถึงสายกว่าที่มีการนัดแนะกันไว้เกินกว่า 30 นาทีและเมื่อมาถึงก็ไม่มีการพูดคุยหรือแต่พยายามทำความรู้จักกับครอบครัวของลูกค้าเลยที่สำคัญไม่ค่อยใส่ใจที่จะถ่ายรูปให้กับลูกค้าสักเท่าไหร่

แต่ทั้งครอบครัวนั้นก็ไม่ได้ว่าอะไรจนเมื่อผลงานถ่ายรูปออกมาจึงได้เห็นว่าภาพถ่ายนั้นแย่มากซึ่งเขาถ่ายรูปเล่นกันเองในครอบครัวด้วยโทรศัพท์มือถือของพวกเขานั้นก็เอามาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ว่าภาพของเขานั้นยังสวยงามมากกว่าช่างถ่ายรูปมืออาชีพ

            ซึ่งหลังจากที่ถูกเขาต่อว่าไปช่างถ่ายภาพก็ระบุว่าในห้องนอนนั้นค่อนข้างมืดและเขาไม่ได้นำไปจากสตูดิโอถ่ายภาพมาด้วยทำให้เขายิ่งไม่พอใจเป็นอย่างมากเพราะว่าตอนที่เขาจ้างนั้นได้มีการตกลงกันไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะต้องเอาไฟจากสตูดิโอมาด้วย

แต่ช่างถ่ายภาพกับบอกว่าไม่มีการแจ้งล่วงหน้าและเมื่อเขาติดต่อไปที่ทางบริษัทของช่างภาพที่เขาจ้างมาปรากฏว่าไม่มีใครสนใจแก้ไขปัญหานี้ให้เขาเลยที่สำคัญยังบล็อกหมายเลขโทรศัพท์มือถือของเขาทำให้เขาไม่สามารถติดต่อบริษัทของช่างภาพคนนี้ได้แล้ว 

ทำให้เขารู้สึกเหมือนกับว่าเขานั้นถูกหลอกลวงจากบริษัทถ่ายรูป อย่างไรก็ตามเรื่องนี้สามารถสอนเราได้ว่า ควรจะเช็คข้อมูลของบริษัทที่เราจะจ้างให้ดี ก่อนที่จะมีการทำสัญญาว่าจ้างและจ่ายเงิน 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  ufabet บาคาร่าออนไลน์

น้องจีน่า หนูน้อยวัย 1 ขวบ 11 เดือนหายออกจากบ้านพัก

น้องจีน่า หนูน้อยวัย 1 ขวบ 11 เดือนหายออกจากบ้านพัก

       น้องจีน่าหายออกจากบ้านพัก เมื่อวันที่ 5 เดือนกันยายนปีพ.ศ. 2564   เจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัด เชียงใหม่  ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่บ้านห้วยฝักดาบว่ามีเด็กหญิงอายุ 1 ขวบ11 เดือน  ชื่อว่าน้องจีนา หายออกจากบ้านพักในช่วงเวลาประมาณ 19:00 น

ซึ่งเบื้องต้นชาวบ้านช่วยกันลงกำลังตามหาบริเวณรอบๆพื้นที่ในหมู่บ้านแล้วแต่ก็ไม่พบเด็กหญิงคนดังกล่าว  หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุจึงได้ประสานงานกับทีมกู้ภัยช่วยกันออกตามหาเพิ่มเติม

        สำหรับบ้านน้องจีน่านั้นพบว่าพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเขาหมู่บ้านที่น้องจีน่าอาศัยอยู่มีคนอาศัยอยู่เพียงแค่ประมาณ 500 คนเท่านั้น โดยหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านขนาดเล็กซึ่งคนในหมู่บ้านค่อนข้างที่จะรู้จักกันดีแต่บางส่วนใหญ่นั้นมักจะปลูกห่างกันอย่างไรก็ตามชาวบ้านและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมถึงกู้ภัยช่วยกันออกตามหาน้องจีน่าจนครบ 24 ชั่วโมงแล้วแต่ก็ยังไม่พบวี่แววของน้องจีน่า

       จากคำให้การของพ่อกับแม่ของน้องจีน่าระบุว่าในช่วงที่น้องจีน่าหายตัวไปนั้นน้องจีน่าอยู่กับแม่และพี่ชาย ซึ่งมีอายุเพียงแค่ 4 ขวบเท่านั้น ในขณะนั้นน้องจีน่าเล่นอยู่ตรงบริเวณหน้าบ้านโดยมีแม่ทำกับข้าวและพี่ชายนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านส่วนพ่อนั้นมีการเอาขยะไปทิ้งตรงบริเวณที่ทิ้งขยะของหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่พัก 

     น้องจีน่าหายออกจากบ้านพัก  หลังจากที่พ่อกับแม่ของน้องจีน่ารู้ว่าลูกของตนเองหายก็รีบแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยกันออกตามหาทันทีซึ่งมีชาวบ้านคนหนึ่งระบุว่าช่วงประมาณ 19:00 น นั้นตนเองได้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้าบ้านของน้องจีน่าเห็นเด็กหญิงวัยประมาณ 1 ขวบกว่าเดินอยู่ตรงบริเวณริมถนน

และได้มีการจอดรถทักว่าจะเดินไปไหนแต่หนูน้อยไม่ตอบและชาวบ้านคนดังกล่าวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังจากที่ขับรถผ่านจากจุดที่เจอเด็กแล้วก็ยังได้เล่าให้กับเพื่อนบ้านฟังว่าไปเจอเด็กแต่ไม่รู้ว่าลูกใครเดินเล่นอยู่ริมถนน

      อย่างไรก็ตามในขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยรวมถึงชาวบ้านกำลังช่วยกันค้นหาอย่างเร่งด่วนเนื่องจากว่าเกรงว่าน้องจะได้รับอันตรายซึ่งมีนักประดาน้ำได้พยายามงมหาร่างน้องตามบ่อบึงต่างๆบริเวณรอบๆบ้านเพราะเกรงว่าน้องอาจจะตกลงไปในบ่อน้ำ

หรือในแม่น้ำได้แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดข้อสงสัยด้านอื่นๆที่น้องอาจจะถูกลักพาตัวหรือเดินหลงไปในทิศทางอื่นเพราะหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่ในช่วงเวลากลางวันนั้นมักจะมีรถจากนอกหมู่บ้านมาขายของดังนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงมีการสันนิษฐานเพิ่มเติมว่าอาจจะมีคนนอกหมู่บ้านเข้ามาแล้วพาตัวน้องจีน่าออกไปได้เช่นเดียวกันซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบเพิ่มเติม 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  รวม ทางเข้าเล่น sboet

ถูกยิงตายข้างถนน เพราะทะเลาะกันเรื่องขับรถปาดหน้า

ถูกยิงตายข้างถนน เพราะทะเลาะกันเรื่องขับรถปาดหน้า

        ทะเลาะกันเรื่องขับรถปาดหน้า  เมื่อวันที่ 10 เดือนพฤษภาคม  ปีพศ 2564      ได้เกิดเหตุการณ์ ยิงกันเกิดขึ้นตรงบริเวณถนนบางนา-ตราด  ซอย 8 -10 ดูเหตุการณ์ยิงกันในครั้งนี้ได้มีผู้เสียชีวิต 1 คน   คนซึ่งผู้ที่เสียชีวิตนั้นเป็นคนขับรถแท็กซี่อายุ 53 ปี 

ตามรายงานข่าวระบุว่าผู้ที่เห็นเหตุการณ์ใดเล่าเรื่องราวให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหวังว่าในระหว่างที่มีการขับรถมาบนถนนตรงถนนเส้นบางนา-ตราดนั้นเอง    ได้มีรถกระบะและรถแท็กซี่ทะเลาะกันจากเหตุการณ์ขับรถปาดหน้ากัน

           ซึ่งทางด้านรถแท็กซี่นั้นได้มีการขับตามรถกระบะและจอดรถเพื่อที่จะเคลียร์กับรถกระบะเมื่อคนขับรถแท็กซี่ลงจากรถก็ได้คว้าท่อนแป๊บติดมือมาด้วยหลังจากนั้นก็ไปยืนทะเลาะกับคนขับรถกระบะและหลังจากที่ทะเลาะกันไม่นานคนขับรถกระบะก็ได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่คนขับรถแท็กซี่ประมาณ 3 ครั้งจนคนขับรถแท็กซี่นะล้มลงแต่คนละขับรถกระบะอย่างการไปยิงซ้ำอีก 1 นัดจนเป็นสาเหตุให้คนขับรถแท็กซี่นะเสียชีวิตคาที่ทันที

        หลังจากที่เห็นว่าคนขับรถแท็กซี่เสียชีวิตแล้วชายที่ขับรถกระบะจึงได้ขึ้นรถและขับรถหลบหนีไปซึ่งพลเมืองดีได้มีการขับรถตามและได้มีการถ่ายคลิปเป็น ทะเบียนรถของคนขับรถกระบะไว้ได้    หลังจากนั้นก็นำหลักฐานส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งท้ายที่สุดแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถจับกุมชายคนดังกล่าวได้ขณะที่รถวิ่งอยู่บนถนนหนามแดงจังหวัดสมุทรปราการนั่นเอง

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว ทะเลาะกันเรื่องขับรถปาดหน้า พร้อมกับของกลางที่เป็นอาวุธปืนก็ได้มีการนำตัวมาที่สถานีตำรวจเพื่อทำการสอบสวนซึ่งทางผู้ต้องหาเองก็ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือกระทำการยิงตายขับรถแท็กซี่จริง

เนื่องจากว่าเกิดการทะเลาะกันเกี่ยวกับเรื่องของการขับรถปาดหน้ากันแต่เป็นทางคนขับรถแท็กซี่นั่นได้เป็นคนละมือก่อนเพราะได้มีการนำท่อนเหล็กลงมาด้วยที่สำคัญระหว่างทะเลาะกันได้ใช้มือตกไปที่หูของผู้ก่อเหตุทำให้ผู้ก่อเหตุนั้นไม่พอใจจึงได้มีการผลักกันและใช้อาวุธปืนยิงในที่สุดนั่นเอง

           เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาทางผู้ก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งในขณะนี้ทางภรรยาของผู้เสียชีวิตก็เดินทางมาที่สถานีตำรวจเพื่อต้องการที่จะเห็นหน้าผู้ต้องหาที่ฆ่าสามีของตนเองเพราะการกระทำที่ผู้ต้องหาทำนั้นถือว่าเป็นการกระทำที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่เรื่องของการขับรถปาดหน้ากันเท่านั้นที่ทำให้ต้องถึงกับยิงกันจนอีกฝ่ายเสียชีวิต ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงอย่างมาก

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabetฝ่ายบริการ

ผู้ปกครอง น้ำตาจะไหลจ่ายค่าเทอมลูกหลักหมื่นหลักแสนแต่ได้เงินคืนกลับมาเพียงแค่ 2,000 บาท

ผู้ปกครอง น้ำตาจะไหลจ่ายค่าเทอมลูกหลักหมื่นหลักแสนแต่ได้เงินคืนกลับมาเพียงแค่ 2,000 บาท

         ได้เงินค่าเทอมคืน2,000 บาท ช่วงเวลานี้คงไม่มีผู้ปกครองบ้านไหนที่ไม่มีความรู้สึกเหมือนกันได้ก็คือความรู้สึกที่เขื่อนน้ำตาจะไหลที่จะต้องจ่ายเงินค่าเทอมให้กับลูกเพราะสิ่งที่ต้องจ่ายออกไปนั้นเป็นค่าเทอมทั้งเทอม โดยที่ไม่ได้รับส่วนลดใดๆ

จากทางโรงเรียนเลยสาเหตุที่ผู้ปกครองหลายคนอยากจะให้ทางโรงเรียนมีการลดค่าเทอมให้นั้นเพราะสถานการณ์ของการระบาดไวรัสโควิคนั้นส่งผลทำให้เด็กนักเรียนไม่ได้ไปโรงเรียนไม่ได้เจอกับเพื่อนและคุณครูที่โรงเรียนไม่ได้เรียนโดยตรงกับครูบาอาจารย์แต่เป็นการเรียนหนังสือผ่านทางออนไลน์

        อย่างที่เราทราบกันดีว่าการเรียนออนไลน์ในประเทศไทยนั้นยังไม่มีประสิทธิภาพมากเท่าที่ควรผู้ปกครองส่วนใหญ่ออกมาเรียกร้องปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากว่าเมื่อลูกเรียนออนไลน์ผลที่ตามมาคือตัวผู้กองเองต้องมานั่งเรียนกับลูกต้องมานั่งคุมให้ลูกเรียนหนังสือและยังต้องช่วยลูกทำการบ้านแต่กลับต้องจ่ายเงินค่าเทอม แบบเต็มจำนวนโดยมีผู้ปกครองหลายคนมีการร้องเรียนไปทางโรงเรียนให้ทางโรงเรียนช่วยลดค่าเทอม

        ในขณะเดียวกันก็มีการส่งเรื่องไปยังกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยประสานงานกับทางโรงเรียนให้มีการลดค่าเทอมให้ด้วยอย่างไรก็ตามปัญหานี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไขเนื่องจากว่าค่าเทอมยังคงมีการเรียกเก็บเต็มยอดปกติส่วนค่าเรียกเก็บอื่นๆ

ไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำค่าไฟค่าแอร์หรือค่าอาหารและค่ากิจกรรมอื่นๆนั้นทางโรงเรียนบางโรงเรียนมีนโยบายที่จะคืนเงินให้กับผู้ปกครองแต่ก็ยังไม่ได้มีการระบุว่าจะคืนนี้ช่วงไหนในขณะที่บางโรงเรียนนั้นมีการคืนเงินให้เพียงแค่บางส่วนเท่านั้นไม่ได้คืนเต็มจำนวนทั้งที่เด็กนักเรียนไม่ได้ไปใช้งานที่โรงเรียนเลยก็ตาม

         อย่างไรก็ตามรัฐบาลได้มีการประกาศออกมาช่วยเหลือผู้ปกครองเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายเรื่องของค่าเทอมโดยมีการให้ผู้ปกครองนั้นสามารถรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลได้คนละ 2,000 บาทโดยคิดจากรายชื่อของเด็กซึ่งเงินดังกล่าวนั้นจะถูกโอนไปให้กับทางโรงเรียนโดยให้ทางโรงเรียนนั้นประสานงานทางผู้ปกครองให้มารับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลดังกล่าว

         อย่างไรก็ตามมีผู้ปกครองหลายๆออกมาพูดถึงเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ว่าไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือเนื่องจากว่าค่าเทอมที่มีการจ่ายเงินออกไปนั้นเป็นหลักหมื่นหลักแสนแต่ในขณะที่ได้รับเงินกลับคืนมานั้นเพียงแค่ 2000 บาทเท่านั้น  ซึ่งเสียงนี้ไม่ใช่เพียงแค่ผู้ปกครองทั่วไปเท่านั้นแม้แต่เหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลายที่มีลูกหลานเรียนโรงเรียนเอกชนต่างก็ออกมาเรียกร้องขอส่วนลดค่าเทอมเช่นเดียวกัน 

    อย่างเช่นภรรยาของแทคภรัณยู  ซึ่งก็คือไฮโซ bell  โดยเธอมีการโพสต์ผ่านทาง Instagram เกี่ยวกับค่าเทอมที่เธอต้องจ่ายให้กับลูกถึง 6 หมื่นกว่าบาทแต่เธอกลับได้เงินคืนจากทางโรงเรียนแค่ 2,000 บาทจากการช่วยเหลือของรัฐบาลเท่านั้นโดยเงินที่ทางโรงเรียนควรจะลดทั้งค่าอาหารและค่าแอร์นั้นเธอยังไม่ได้รับคืนแม้แต่บาทเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  แจ้งฝาก-ถอน ufabet

สาวซื้อกล่องสุ่มหมูกระทะ เปิดเจอของไม่ตรงปก ผิดหวังอย่างแรง 

สาวซื้อกล่องสุ่มหมูกระทะ เปิดเจอของไม่ตรงปก ผิดหวังอย่างแรง 

        ช่วงนี้การขายของออนไลน์และมีการตลาดหลายรูปแบบและที่กำลังได้รับความนิยมมากก็คือการสุ่มกล่องขายซึ่งปัจจุบันนี้มีทั้งกล่องส่งที่เป็นอาหารทะเลหรือแม้แต่ กล่องสุ่มหมูกระทะ หรือบางทีก็เป็นสุ่มกล่องโทรศัพท์มือถือก็มีอย่างไรก็ตามมีเรื่องราวที่มีลูกค้าสาวรายนึงเธอได้มีการใช้การซื้อสินค้าออนไลน์แบบซื้อกล่องสุ่มแต่เธอก็ต้องเจอกับสินค้าที่ไม่ตรงบอกจนเธอนั้นต้องมีการมาโพสต์ลงในโซเชียล

    กล่องสุ่มหมูกระทะ    เมื่อวันที่ 29 เดือนสิงหาคมปีพศ 2554 ได้มีหญิงสาวอายุเธอได้ออกมาบอกเล่าถึงการซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์และเธอใช้วิธีการซื้อสินค้าแบบกล่องส่งซึ่งเป็นการซื้อกล่องสุ่มชุดหมูกระทะโดยเพจกำหนดราคาขายไว้ที่ 299 บาท

ซึ่งเธอบอกว่าราคาไม่สูงมากนักจึงได้มีการซื้อไป 1 ชุดและเมื่อเธอได้รับสินค้ามาส่ง ที่บ้านเมื่อเธอเปิดกล่องดูก็เห็นว่าสินค้าที่เธอได้มานั้นไม่ตรงกับที่มีการโฆษณาไว้ในหน้าเฟซของร้านค้าเธอจึงได้มีการสอบถามไปยังร้านค้าจนเธอนั้นทราบว่าร้านค้านั้นไม่ได้มีการถ่ายรูปสินค้าของตนเองแต่ได้ไปเอารูปสินค้าของร้านอื่นมาลงแทนทำให้สินค้าในหน้าเพจกับที่ได้รับไปนั้นไม่ตรงกัน

        อย่างไรก็ตามเธอบอกว่าทางด้านเจ้าของร้านได้มีการรับที่จะเปลี่ยนสินค้าคืนให้กับเธอโดยทางร้านยินดีคืนเงินให้กับเธอแต่เธอนั้นจะต้องมีการส่งสินค้ากลับไปให้กับทางเจ้าของร้านซึ่งเธอมองว่ามันค่อนข้างยุ่งยากดังนั้นเธอจึงยอมเสียเงิน 299 บาท

หลังจากนั้นเธอก็ติดต่อไปยังเพจของร้านค้า ซึ่งเป็นร้านที่เป็นเจ้าของภาพและเธอก็ได้เล่าเรื่องราวให้ทางเพจดังกล่าวทราบว่ามีคนแอบอ้างเอาภาพของร้านเขาไปทำการโปรโมทให้กับร้านตัวเอง

          อย่างไรก็ตามเรื่องราวดังกล่าวไม่ได้จบลงเพียงแค่นั้นเพราะคนในโซเชียลมีการเข้ามาอ่านที่เธอมีการโพสต์เอาไว้และไม่ได้มีการจับใจความที่ถูกต้องดังนั้นจึงได้ตามเข้าไปต่อว่าร้านค้าซึ่งเป็นร้านที่ถูกเอาภาพไปแอบอ้างจนร้านได้รับความเสียหายมากซึ่งทางร้านเองก็ได้ออกมาชี้แจงว่าตัวเขานั้นไม่ได้มีการส่งกล่องส่งไปให้ลูกค้าแต่เขาคือผู้ถูกกระทำเนื่องจากว่าภาพที่ถูกนำไปโพสต์นั้นเป็นภาพของร้านเขาและเวลาที่ร้านเขาขายของให้กับลูกค้าก็จะตรงกับที่มีการโพสต์เอาไว้ 

       สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์ ย่อมมีความเสี่ยงสูงที่สินค้าจะได้ไม่ตรงปก ดังนั้นก่อนซื้อสินค้ากับร้านไหน ควรตรวจรีวิว และดูจำนวนลูกค้าว่ามีมากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญดูด้วยว่าร้านนี้เปิดมานานแค่ไหนแล้วค่อยซื้อ          

 

สนับสนุนโดย.  Ufabet เข้าสู่ระบบ

ลูกสาวอาม่าฮวยถูกศาลสั่งจำคุก 12  ปีแบบไม่รอลงอาญาคดีแอบถอนเงินแม่ 253ล้านบาท 

ลูกสาวอาม่าฮวยถูกศาลสั่งจำคุก 12  ปีแบบไม่รอลงอาญาคดีแอบถอนเงินแม่ 253ล้านบาท 

       ลูกสาวอาม่าฮวยถูกศาลสั่งจำคุก 12  ปี ในช่วงประมาณปีพ.ศ 2557 ได้มีอาม่าคนหนึ่งที่ชื่อว่าอาม่าฮวยได้เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจเอาไว้โดยแจ้งความจับกุมลูกสาวของตนเองในข้อหายักยอกเงินโดยอาม่าฮวยได้มีการนำหลักฐานที่มีอยู่ทั้งหมดไปให้ท่านเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อทำการจับกุมลูกสาวของตนเองที่ชื่อว่านางมาวดี

  โดยลูกสาวของอาม่าฮวยนั้นอาศัยช่วงจังหวะที่อาม่าฮวยไม่สบายเข้ามาดูแลทรัพย์สินและได้มีการยักยอกเงินออกจากธนาคารไปทั้งสิ้นจำนวน 250 ล้านบาทโดยมีทางเจ้าหน้าที่ธนาคารคอยให้ความช่วยเหลือในการยักยอกเงินออกไปในครั้งนี้

อย่างไรก็ตามในช่วงที่มีการฟ้องร้องกันอยู่ในปีดังกล่าวนั้นลูกสาวของอาม่าฮวยก็ได้มีการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาพร้อมกันนี้ยังระบุด้วยว่าเงินในบัญชีของอาม่าฮวยนั้นมีไม่ถึง 253 ล้านบาทซึ่งเธอยืนยันว่ามีเพียงแค่ประมาณ 120 ล้านบาทเท่านั้นเอง

        อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะผ่านมานานหลายปีแล้วแต่ล่าสุดศาลได้มีคำสั่งออกพิพากษามาเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยคำสั่งศาลเปิดเผยออกมาเมื่อวันที่ 17 เดือนสิงหาคมปีพ.ศ. 2564 ระบุว่าศาลอาญาพระโขนงได้มีการพิพากษาคดีของอาม่าหวยที่ฟ้องลูกสาวจะเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยยืนยันว่าลูกสาวของอาม่าฮวยนั้นได้มีการยักยอกและถอนเงินของอาม่าหวยออกมาจากบัญชีธนาคารจริงมีหลักฐานการยักยอกเงินการถอนเงินออกมาอย่างชัดเจน

       ซึ่งจำนวนเงินที่ลูกสาวอาม่าฮวยมีการยักยอกออกมานั้นมียอดมากกว่า 253 ล้านบาทนอกจากจะมีการโอนเงินออกมาใช้จ่ายแล้วยังมีการโอนทรัพย์สินส่วนอื่นมาอีกด้วยซึ่งในขณะที่ลูกสาวของอาม่าฮวยทำการโอนทรัพย์สินของอาม่าฮวยออกมานั้น

เป็นช่วงที่อาม่าฮวยไม่สบายกำลังป่วยเป็นโรคเส้นหลอดเลือดหัวใจตีบทั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ลูกสาวของ อาม่าฮวยเท่านั้นที่ถูกดำเนินคดีฟ้องร้องเพราะเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่คอยให้ความช่วยเหลือลูกสาวของ อาม่าฮวยในการถอนเงินออกมานั้นก็ถูกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีการลักทรัพย์ในครั้งนี้ด้วยนอกจากนี้ยังทำเรื่องปลอมแปลงเอกสารต่างๆอีกมากมาย

         อย่างไรก็ตามจากการประกาศของศาลอาญาระบุว่าความผิดของลูกสาวอาม่าฮวยนั้นทางศาลสั่งให้มีการจำคุกทั้งหมด 12 ปีด้วยกันโดยที่ไม่ให้รอลงอาญาถือว่าเป็นความผิดที่ทางลูกสาวอาม่าฮวยนั้นตั้งใจกระทำความผิดเป็นความผิดที่ร้ายแรงที่ลูกสาวแท้ๆกระทำต่อแม่ของตนเอง ทั้งที่แม่ก็แก่ชรา และกำลังป่วยหนักอีกด้วย

 

สนับสนุนโดย.  gclub ทดลองเล่นฟรี

กระแสดราม่าขนมเปี๊ยะ เทพโพธิ์งาม  

กระแสดราม่าขนมเปี๊ยะ เทพโพธิ์งาม  

        กระแสดราม่าขนมเปี๊ยะ หลังจากที่อดีตตลกชื่อดังอย่างเทพโพธิ์งามได้ออกมาพูดถึงกลุ่มคนที่ออกมาประท้วงเพราะไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลโดยการที่มีการไลฟ์สดออกมาต่อว่าด้วยถ้อยคำที่ค่อนข้างหยาบคายตามสไตล์ของเทพโพธิ์งามเองทำให้มีบรรดากลุ่มคนที่อยู่ข้างฝ่ายกลุ่มผู้ประท้วงนั้นเกิดความไม่พอใจจนมีกระแสดราม่าต่อต้านขนมเปี๊ยะของเทพโพธิ์งาม

     อย่างไรก็ตามเพียงแค่ชั่วข้ามคืนหลังจากที่เทพโพธิ์งามมีการไลฟ์สดด่าผู้ประท้วงนั้นปรากฏว่าวันรุ่งขึ้นเขาก็ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทาง facebook ว่าหลังจากที่เขามีการไลฟ์สดออกไปมีหลายคนที่ไม่พอใจแต่ในขณะเดียวกัน

กระแสดราม่าขนมเปี๊ยะ คนที่เข้าใจแนวความคิดของเขาต่างก็สนับสนุนจากที่เขานั้นเคยขายขนมเปี๊ยะได้เพียงแค่วันละประมาณ 200 บาทปัจจุบันมีรายได้เป็นหลักแสนบาทต่อวันเลยทีเดียว

      ล่าสุดกระแสดราม่าขนมเปี๊ยะของเทพโพธิ์งามนั้นยังไม่จบลงเมื่อเทพโพธิ์งามนั้นยังคงมีการออกมาพูดถึงขนมเปี๊ยะของตนเองโดยมีการระบุว่าขนมเปี๊ยะของเขานั้นเป็นขนมเปี๊ยะที่ทำแบบบ้านๆไม่ได้ถูกสุขลักษณะมากนักทั้งนี้เทพโพธิ์งามยังมีการถ่ายคลิปแชร์ให้เห็นถึงวิธีการผลิตขนมเปี๊ยะของเขาว่าลักษณะของการทำขนมเปี๊ยะของร้านของเขานั้นทำอย่างไร

         โดยมีชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงมาเป็นลูกจ้างทำขนมเปี๊ยะให้กับเทพโพธิ์งามขายซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่ามีพนักงานอยู่หลายคนเช่นเดียวกันแต่พนักงานทุกคนนั้นไม่มีใครใส่หน้ากากอนามัยนอกจากนี้ยังไม่มีการใส่ถุงมือขนาดปั้นขนมเปี๊ยะและในขณะเดียวกันเทพโพธิ์งามเองในขณะที่มีการไลฟ์สดก็ได้มีการโชว์สกิลการทำขนมเปี๊ยะเป็นการปั้นแป้งขนมเปี๊ยะให้กับบรรดาคนในไลฟ์สดได้เห็นถึงวิธีการทำขนมเปี๊ยะ

      โดยเทพ  โพธิ์งามเองก็ไม่ได้มีการใส่ถุงมือไม่ได้มีใส่ที่ครอบผมรวมถึงในขณะที่มีการปั้นแป้งไปนั้นก็มีการพูดคุยอยู่ตลอดเวลาและที่สำคัญเมื่อมีแมลงบินผ่านมาเทพโพธิ์งามก็ใช้มือตบแมลงหลังจากนั้นก็มีการปั้นขนมเปี๊ยะต่อโดยที่ไม่มีการเข้าไปล้างมือเลยทำให้เกิดกระแสดราม่าวิพากษ์วิจารณ์ถึงความสกปรกที่ทางเทพโพธิ์งามได้มีการทำโชว์สกิลการทำขนมให้ดู 

ซึ่งหลายคนมองว่าการที่เทพโพธิ์งามมาทำขนมแล้วไม่เน้นในเรื่องของความสะอาดนั้น ควรจะเป็นการทำกินเองที่บ้านไม่ควรนำออกมาขายให้กับคนอื่นเพราะระหว่างที่คุยไปนั้นแล้วปั้นแป้งไปนั้นน้ำลายอาจจะตกใส่แป้งซึ่งหลายคนที่เห็นไลฟ์สดของเทพโพธิ์งามนั้นก็รับไม่ได้และยืนยันว่าจะไม่มีการอุดหนุนขนมเปี๊ยะของเทพโพธิ์งามอย่างแน่นอน 

 

สนับสนุนโดย.  ติดต่อ ufabet

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa