เจ้าหน้าที่ตำรวจจับอดีตผู้ช่วยผู้จัดการโกงเงินค่าคอม ฯ

เจ้าหน้าที่ตำรวจจับอดีตผู้ช่วยผู้จัดการโกงเงินค่าคอม ฯ

      เจ้าหน้าที่ตำรวจจับอดีตผู้ช่วย  เมื่อวันที่ 26 เดือนมกราคม ปีพ.ศ. 2565 เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้กระทำความผิดชื่อว่า นางสาว ดวงนภาได้แถวบริเวณถนนซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 6 

ซึ่งผู้ต้องหากำลังเดินเล่นอยู่บริเวณริมถนน  สำหรับความผิดของผู้ต้องหารายนี้นั้นถูกแจ้งข้อหาลักทรัพย์   ซึ่งเรื่องราวเกิดขึ้นเมื่อมีบริษัทอาหารและเครื่องสำอางยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินการจับกุมตัว นางสาว ดวงนภาซึ่งเป็นอดีตพนักงานของทางบริษัท  โดยนางสาว ดวงนภามีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้จัดการแล้วได้ก่อเหตุยักยอกคนโกงเงินค่าคอมของพนักงานคนอื่นอื่น

       ผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่าเมื่อช่วงประมาณวันที่ 25 เดือนเมษายนปีพศ 2564 ทางบริษัทได้รับแจ้งจากพนักงานว่าเงินค่าคอมมิชชั่นที่ควรจะเข้าบัญชีของพนักงานนั้น

กลับไม่เข้าจึงได้มีการทำการตรวจสอบว่าสาเหตุของการที่เงินค่าคอมมิชชั่นไม่เข้าบัญชีของพนักงานนั้นเกิดจากอะไรจนมาพบสาเหตุว่ามีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลการโอนเงินโดยมีการเปลี่ยนแปลงเลขที่บัญชีปลายทางซึ่งเมื่อสืบสาวราวเรื่องไปเรื่อยๆก็พบว่าผู้ที่เข้ามาทำการเปลี่ยนแปลงข้อมูลและเอาเงินไปใช้นั้นก็คือนางสาวดลนภานั่นเองเนื่องจากว่านางสาวดวงนภานั้นสามารถเข้าไปทำการตรวจสอบระบบหรือแก้ไขข้อมูลต่างๆได้รวมถึงค่าคอมมิชชั่นของพนักงานด้วย 

        ยังงั้นก็ตามเจ้าหน้าที่ของบริษัทได้มีการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังไปซึ่งทางฝ่ายบัญชีได้พบว่าในช่วงประมาณปีพศ2563 ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นและเมื่อตรวจสอบไปก็พบว่าเป็นลักษณะของการโอนเงินไปยังบัญชีอื่นเช่นเดิมและผู้ที่ก่อเหตุนั้นก็ยังคงเป็นนางสาวดวงนภาเช่นเดิมนั่นเองซึ่งมูลค่าความเสียหายนั้นเป็นเงินหลายแสนบาทในขณะเดียวกันยังมีอีกเงินจำนวนหลายแสนบาทที่กำลังอยู่ระหว่างกันโอนออกจากบัญชีของพนักงานไปเข้าบัญชีของนางสาวดวงนภาอีกด้วย

        อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทางบริษัทรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้วจึงได้มีการพูดคุยกับนางสาวดวงนภาซึ่งทางผู้กระทำความผิดเองก็ยอมรับว่าเป็นผู้ยักยอกเงินออกจากค่าคอมมิชชั่นของพนักงานคนอื่นๆจริงและยินยอมที่จะชดใช้หนี้ให้ทั้งหมดโดยมีการตกลงกันว่าจะมีการชดใช้หนี้ให้วันที่เท่าไหร่แต่เมื่อถึงกำหนดการปรากฏว่านางสาวดวงนภาไม่มีเงินมาใช้หนี้และไม่สามารถติดต่อได้ทำให้บริษัทจำเป็นที่จะต้องมีการรวบรวมหลักฐานแล้วส่งเรื่องดำเนินคดีกับนางสาวดวงนภาเนื่องจากบริษัทได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก 

      อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการรวบตัวนางสาวดวงนภาและพาไปที่สนห้วยขวางเป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งจะมีการเชิญตัวตัวแทนของบริษัทที่ได้รับความเสียหายเข้ามาพูดคุยเพื่อเจรจาตกลงกันว่าจะมีการดำเนินคดีในข้อหาใดบ้างหรือว่าจะมีการร้องเรียนข้อหาเพิ่มเติมอื่นๆอีกไม่ 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

โดนพนักงานขายหลอกใส่ป้ายแดงปลอม แล้วไม่รับผิดชอบ 

โดนพนักงานขายหลอกใส่ป้ายแดงปลอม แล้วไม่รับผิดชอบ 

โดนพนักงานขายหลอกใส่ป้ายแดงปลอม มีชายหนุ่มคนหนึ่ง  ได้แชร์ประสบการณ์เจอตำรวจด่านตั้งด่านจับที่ สภ.สิงห์บุรี  โดนข้อหาใช้ป้ายทะเบียนปลอมและสมุดเล่มปลอม  โดนให้เรียกจ่ายค่าปรับ 1,400 บาท   ทางเจ้าของรถเองก็ได้ติดต่อไปยังพนักงานขายว่าตนเองนั้นโดนตำรวจจับให้มาเสียค่าเสียหายที่เกิดขึ้น  แต่ต้องมาอึ้งกับคำตอบของพนักงานขาย  ทำให้ตนเองนั่นไม่พอใจมาก และเสียความรู้สึกกับเรื่องที่เกิดขึ้น 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2565 เจ้าของเรื่องได้โพสต์ข้อความแชร์ประสบการณ์ ให้ชาวเน็ตได้ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น จนเป็นเรื่องใหญ่โต 

ตั้งแต่ไปทำสัญญาซื้อขายรถกับพนักงานขาย จนถึงรับรถนั้น ตนเองได้แจ้งกับพนักงานขายแล้วว่าไม่เอาป้ายแดงปลอมนะ   ไม่อยากมีปัญหา   คิดว่าในเมื่อบอกทางพนักงานขายไปแล้ว คงติดป้ายแดงที่ถูกต้องตามกฎหมายให้  เพราะไว้ใจพนักงานขาย  ก็ใช้รถปกติมาเรื่อยๆ  จนมาถึงวันที่เดินทางผ่านเส้นทางผ่านเส้นสิงห์บุรี  ตนเองโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด่านตรวจเรียกตรวจ 

พอเจ้าหน้าที่ตรวจแล้วนั้น พบว่าป้านทะเบียนที่พนักงานขายติดให้ตนเองนั้นเป็นป้ายแดงปลอม  ทั้งป้ายและสมุดเล่มแดง  ตำรวจเรียกให้จ่ายค่าปรับ 1,400 บาท  ตนเองจึงเกิดความโมโห ว่าทำไมพนักงานขายถึงได้ทำแบบนี้ และโทรติดต่อไปหาพนักงานขายบอกว่าตนเองโดนจับเพราะใส่ป้ายปลอมมาให้   โดนเรียกเก็บค่าปรับ 1,400 บาท  

ทางพนักงานขายไม่รับผิดชอบทั้งหมด บอกช่วยแค่ 400  เพราะไม่ยอมจดทะเบียน ให้ตนเองจ่ายอีก 1000 บาทเอง  ทำให้เกิดความโมโห ไปอีก   ไม่มีความรับผิดชอบอะไรเลยในครั้งนี้  จึงได้ติดต่อไปยังบริษัทใหญ่ของรถยี่ห้อ นี้ แจ้งเรื่องให้ทราบ  ว่าตนเองนั้นโดนพนักงายขายใส่ป้ายปลอมให้และพอโดนเจ้าหน้าที่ตำรวจจับ ให้เสียค่าปรับ พนักงานขายก็ไม่รับผิดชอบทั้งหมด  

ทางบริษัท ก็รับเรื่องที่แจ้ง  และได้ติดต่อกลับมาเพื่อแสดงความรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้นำป้ายทะเบียนจริง ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ให้เรียบร้อยและค่าเสียหายค่าปรับ ทางบริษัทแจ้งว่าได้เรียกเก็บจากพนักงานขายให้แล้วเรียบร้อย จบลงด้วยดี  ก็ยังดีที่ทางบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้  ก็อยากจะฝากไปยังหลายๆคนที่กำลังจะออกรถใหม่ป้ายแดง ให้ตรวจสอบป้ายทะเบียนและเล่มให้ละเอียด ให้ปรึกษากับทางฝ่ายทะเบียนของบริษัทนั้นๆ ที่จะออกรถ

เพื่อความมั่นใจในการใช้รถของเราหลังจากที่รับรถไป เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนตนเองเจอ  ตรวจสอบกับทางบริษัทตั้งแต่ที่รับรถอาจจะวุ่นวายหน่อย แต่ก็ผลระยะยาวที่ไม่ต้องมาเสียเวลาเข้าสถานนี้ตำรวจและเสียค่าปรับแบบตนเองเจอ   ฝากให้ทุกคนรอบคอบในการออกรถใหม่ป้ายแดงให้ละเอียดครับ

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ทางเข้า ufabet ภาษาไทย

ห้างดังโพสต์ขอโทษ หลังจดกิจกรรมชวนให้เด็ก แต่งกายตาม คังคุไบ

ห้างดังโพสต์ขอโทษ หลังจดกิจกรรมชวนให้เด็ก แต่งกายตาม คังคุไบ

       เชื่อว่าหากเอ่ยขื่อ คังคุไบ นาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก  เนื่องจากว่ากำลังโด่งดังมากอยู่ในขณะนี้  โดยในขณะนี้ในโลกออนไลน์ส่วนใหญ่ได้มีการเลียนแบบการแต่งกายของครูใบแล้ว

ห้างดังโพสต์ขอโทษ นำไปโพสต์ลงโซเชียลกันเป็นจำนวนมาก  ซึ่งต้นแบบของการแต่งกายแนวคังคุไบงั้นมาจากภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่กำลัง ฉายอยู่ใน App Netflix อยู่ในตอนนี้ โดยภาพยนต์เรื่องนี้เป็นภาพยนต์ของประเทศอินเดีย ที่นางเอกของเรื่องนั้นชื่อว่า คังคุไบ  ซึ่งเธอเป็นหญิงสาวที่สู้ชีวิต จากผู้หญิงขายตัวจนสามารถทำให้ตัวเองได้ดีได้ 

        อย่างไรก็ตามในขณะที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจกับ คังคุไบตัวละครเอกของเรื่อง  ก็ได้มีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งและมีการตามกระแสชาวโซเชียลโดยได้มีการประกาศออกมาว่าจะมีการจัดกิจกรรมเชิญให้เด็กๆนั้นมีการแต่งกายให้เหมือนกับคังคุไบ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นมาเพื่อให้เด็กนั้นร่วมสนุกและเป็นการชิงทุนการศึกษาด้วยทุนการศึกษาที่มอบให้นางจะมีมูลค่าสูงถึง 15000 บาทเลยทีเดียว 

         สำหรับกิจกรรมดังกล่าวนั้นทางห้างสรรพสินค้าได้มีการประกาศลงโซเชียลโดยมีการตั้งชื่อกิจกรรมว่า Gangubai Cover Challenge ซึ่งเด็กที่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมนี้ได้จะต้องมีอายุระหว่าง 4-12 ปีเท่านั้น    ภายหลังจากที่มีการโพสต์เชิญชวนเกี่ยวกับเรื่องของกิจกรรมนี้ของทางห้างออกไปผู้คนก็แชร์กันไปออกเป็นวงกว้างซึ่งส่วนใหญ่แล้วเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมเกี่ยวกับเรื่องของกิจกรรมที่ทางห้างได้มีการจัดขึ้น 

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่ทาห้างสรรพสินค้าดังกล่าวนั้นเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสังคมไม่ไหว  ทางเข้า ufabet     จึงได้มีการโพสต์ผ่านทาง Facebook ของห้างสรรพสินค้าได้มีการออกมาขอโทษต่อสังคมซึ่งกิจกรรมที่ทางห้างได้มีการจัดขึ้นโดยทางห้างนั้นยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะสนับสนุนหรือสร้างความเข้าใจผิดให้กับผู้คนแล้วทางให้ยืนยันว่าจะไม่มีการสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องของการค้าประเวณีอย่างเด็ดขาดแต่กิจกรรมที่กำลังจัดขึ้นนั้นต้องการที่จะให้เด็กๆเข้าร่วมเพื่อประกวดเรื่องของการแต่งกายเท่านั้นโดยแต่งกายคล้ายกับคังคุไบ 

         อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้สังคมเข้าใจผิดเกี่ยวกับเจตนาการจัดกิจกรรมของทางห้าง ดังนั้นจึงจะมีการเปลี่ยนชื่อกิจกรรมขึ้นมาใหม่โดยกิจกรรมที่มีการเปลี่ยนมาใหม่นั้นจะใช้ชื่อว่า  Bollywood Cover Challenge  โดยจะเน้นให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมนั้นแต่งกายคล้ายกับหญิงสาวของประเทศอินเดียซึ่งเป็นการแต่งกายตามวัฒนธรรมของอินเดียนั่นเอง  โดยทางห้างสรรพสินค้ายืนยันว่ากิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมที่อยากจะส่งเสริมให้เยาวชนได้แสดงความสามารถและแสดงออกและไม่ได้มีเจตนาที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในเชิงลบ 

คุณยายตกใจเงินหายออกจากบัญชี 600,000สุดท้ายจับได้เป็นฝีมือของหลานยายเอง

คุณยายตกใจเงินหายออกจากบัญชี 600,000สุดท้ายจับได้เป็นฝีมือของหลานยายเอง

        เมื่อวันที่ 29 เดือนพฤศจิกายนพ.ศ 2553 โดยใช้ชื่อดังของต่างประเทศได้มีการเปิดเผยเรื่องราวของพี่น้องวัยรุ่นชาวสิงคโปร์ 2 คนที่มีพฤติกรรมสืบสุดแสบโดยพี่น้องคู่นี้ผู้เป็นพี่นั้นเป็นพี่สาวอายุ 19 ปีในขณะผู้เป็นน้องนั้นเป็นผู้ชายอายุ 18 ปีโดยวีรกรรมของพี่น้องแสบคู่นี้ก็คือเมื่อประมาณเดือนมีนาคมปีพศ2563

ทางด้านน้องชายวัย 18 ปีบังเอิญไปเจอบัตร ATM ของยายของตนเองตกอยู่บนที่นอนจึงได้นำบัตร ATM นั้นมาปรึกษากับพี่สาววัย 19 ปีว่าจะทำอย่างไรกับบัตร ATM มีได้ถึงจะสามารถเอาเงินมาใช้จ่ายได้

           ซึ่งหลังจากปรึกษากันแล้วปรากฏว่าตัวพี่สาวนั้นรู้รหัสบัตร ATM ของคุณยายจึงได้มีการวางแผนเอาบัตร ATM ไปใช้จ่ายโดยมีการนำไปซื้อของนำไปช้อปปิ้งซึ่งสินค้าแต่ละอย่างที่พากันซื้อนั้นจะเป็นสินค้าแบรนด์หรูทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอางหรือแม้แต่เสื้อผ้ารองเท้ากระเป๋ารวมถึงชุดชั้นในนอกจากนี้ยังได้มีการซื้อ I want และ iPhone อีกด้วยอย่างไรก็ตามเงินบางส่วนนั้นทางด้านที่

         อันนี้เงินบางส่วนถูกโอนถ่ายไปในบัญชีธนาคารของพี่สาววัย 19 ปีและยังมีการโอนเงินไปให้กับแม่ของเธอได้ใช้อีกด้วยซึ่งทุกคนไม่ครอบครัวไม่รู้ว่าเด็กทั้งสองคนนี้นำเงินจากไหนมาใช้จ่ายฟุ่มเฟือยแต่ก็ไม่มีใครเคยถามถึงที่มาที่ไปของเงินเช่นเดียวกันอย่างไรก็ตามเมื่อเวลาเวลาผ่านไปนานถึง 6 เดือนปรากฏว่าเด็กทั้งสองคนนั้นมีการถอนเงินออกบัญชีของคุณยายของตนเองสูงถึง 6 แสนบาทเลยทีเดียว 

        อย่างไรก็ตามเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อคุณยายเจ้าของบัญชีนั้นได้มีการตรวจสอบเงินในบัญชีพบว่าเงินในบัญชีของตนเองนั้นสูญหายออกไปและเมื่อค้นหาบัตร ATM ก็เพราะว่าบัตร ATM หายไปด้วยเช่นเดียวกันจึงได้เข้าติดต่อแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อช่วยทำการตรวจสอบว่าเงินหายออกจากบัญชีได้อย่างไรซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบใช้ระยะเวลาเพียงไม่นานเท่านั้นปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถรู้ตัวผู้กระทำผิดและครอบคลุมตัวผู้กระทำผิดโดยมีการควบคุมตัวพี่ชายและน้องชายวัยรุ่นทั้งสองคน 

       อย่างไรก็ตามหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนไม่นานวัยรุ่นชายหญิงทั้งสองคนก็รับสารภาพว่าเป็นผู้นำเงินออกมาใช้จ่ายจริงนอกจากนี้เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจสอบประวัติของทั้งสองคนพบว่าน้องชายนั้นมีประวัติการทำร้ายร่างกายคนอื่นและอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดีอีกด้วยซึ่งผลสรุปแล้วทางด้านพี่สาววัย 19 ปีก็ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาในคดีลักทรัพย์ของยายตัวเองในขณะที่น้องชายนั้นถูกแจ้งข้อหาถึง 2 คดีด้วยกันโดยถูกคดีลักทรัพย์ยายตัวเองคดีหนึ่งส่วนอีกคดีหนึ่งก็เป็นคดีทำร้ายร่างกาย 

 

สนับสนุนโดย    สล็อต ufabet เว็บตรง

สามีสุดฉุนเช่าบ้านเดือนละ 40,000 นาน 8 ปี เพิ่งมารู้บ้านหลังดังกล่าวเป็นของภรรยาตัวเอง 

สามีสุดฉุนเช่าบ้านเดือนละ 40,000 นาน 8 ปี เพิ่งมารู้บ้านหลังดังกล่าวเป็นของภรรยาตัวเอง 

       สามีสุดฉุนเช่าบ้านเดือนละ 40,000 นาน 8 ปี  วันที่ 7 เดือนกุมภาพันธ์ปีพศ. 2565  เว็บไซต์ชื่อดังของประเทศจีนที่ชื่อ 163 ได้มีการเผยแพร่เรื่องราวของสามีภรรยาคู่หนึ่งซึ่งเป็นสามีภรรยาชาวจีนที่อาศัยอยู่ในเมืองไห่โขว  

มณฑลไห่หนาน   ได้เกิดการทะเลาะวิวาทกันอย่างหนักและฝ่ายชายได้มีการถ่ายคลิปวีดีโอเอาไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ โดย คลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างแล้วก็มี comment ต่างๆเข้ามามากมายเรียกได้ว่าโด่งดังมากในโลกสังคมออนไลน์อยู่ในตอนนี้ 

      จากเหตุการณ์ในคลิปจะเห็นได้ว่าในขณะที่มีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนที่นอนและเธอกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่นั้นปรากฏว่าผู้ที่ถ่ายคลิปวีดีโอซึ่งเป็นสามีของเธอก็ได้เดินเข้ามาภายในบ้านโดยในคลิปได้มีการถ่ายทิ้งใบหน้าของฝ่ายชายด้วยว่ามีใบหน้าที่โกรธจัดและแดงก่ำเลยทีเดียว

       เมื่อฝ่ายชายมาเห็นภรรยาของตนเองกำลังนอนเล่นโทรศัพท์มือถือไฟฉายก็ได้มีการถามภรรยาของเขาว่าบ้านที่พวกเขากำลังอาศัยอยู่กันอยู่ในตอนนี้นั้นพวกเขายังเสียค่าเช่าอยู่หรือเปล่าและค่าเช่าที่พวกเขาเสียนั้นใช่ราคา 800 หรือไม่ซึ่งภรรยาก็ตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงปกติว่าใช่นอกจากนี้ยังถามกับสามีด้วยว่าทำไมสามีถึงต้องการรู้เรื่องนี้

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่สามีได้ยินคำตอบของภรรยาของตนเองนั้นเขาก็ตะโกนออกมาและพรั่งพรูสิ่งที่เขาได้รับรู้มาและทำให้เขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากโดยเขาบอกว่าวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้าไปพบเขาเพื่อทำการตรวจใบอนุญาตเกี่ยวกับถิ่นที่อยู่อาศัยซึ่งได้มีการนำเอกสารทรัพย์สินต่างๆมาให้เขาทำการตรวจสอบและบังเอิญว่าสามีของหญิงสาวคนดังกล่าวได้ไปเห็นว่าหนึ่งในทรัพย์สินของภรรยาของเขาก็คือบ้านหลังนี้นั่นเอง

       ทำให้เขาเพิ่งเข้าใจว่าตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมาที่เขาต้องเสียเงินเดือนละ 8000 หยวนให้ภรรยาของเขาไปจ่ายค่าเช่าบ้านนั้นก็คือเป็นการเอาเงิน 8000 หยวนให้ภรรยาของใช้นั้นเองซึ่งเขารู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากเพราะในแต่ละเดือนนั้นเขาก็ได้มีการให้เงินภรรยาของเขาใช้อย่างสม่ำเสมอโดยเขาให้ภรรยาเขาใช้เดือนละประมาณ 4000 หยวนแต่เขาไม่คิดว่าภรรยาของเขาจะโกหกหลอกเอาเงินของเขาเพิ่มไปอีกเดือนละ 8000 หยวนซึ่งถือว่าเยอะมากๆ

           อย่างไรก็ตามฝ่ายชายมองว่าฝ่ายหญิงนั้นโกงเขาทั้งที่เขาทำงานอย่างหนักและเลี้ยงดูภรรยาและลูกเป็นอย่างดีแต่ภรรยาของเขากับทำเขาแบบนี้ได้ทำให้เขารู้สึกนั้นเสียใจมากอย่างไรก็ตามภรรยาของเขานั้นก็รู้สึกผิดหลังจากที่ได้ยินคำพูดของสามีตนเองซึ่งในคลิปนั้นก็ได้มีการตัดไปหลังจากที่คลิปนี้เผยแพร่เอาไปเป็นข่าวดังก็ยังไม่มีใครออกมาพูดถึงว่าสถานการณ์ต่อจากนี้ของสามีภรรยาคู่นี้เป็นอย่างไรมีแต่ชาวโซเชียลที่เข้ามาตำหนิการกระทำของภรรยาสาวรายนี้ที่ไม่ซื่อสัตย์กับสามีของตนเอง

 

สนับสนุนโดย    ufabet เว็บแม่

เจ้าของตึกใบหยกมาเคลียร์เองสรุปแล้วไลค์ขายของหน้าร้านได้หรือไม่

เจ้าของตึกใบหยกมาเคลียร์เองสรุปแล้วไลค์ขายของหน้าร้านได้หรือไม่

       เชื่อว่าหลายคนคงได้ติดตามข่าวเกี่ยวกับกรณีที่มีคนออกมาเปิดเผยเรื่องของการขายสินค้าแบบออนไลน์แล้วมี แม่ค้ากลุ่มหนึ่งได้มีการไลฟ์สดขายสินค้าผ่านทางหน้าร้านโดยมีการคิดค่าสินค้าเพิ่มมาเพียงแค่ตัวละ 10 บาทซึ่งส่งผลต่อแม่ค้าที่มีการขายสินค้าออนไลน์แบบมีการกักตุนสินค้าเป็นอย่างมาก

       อย่างไรก็ตามเรื่องราวดราม่านี้เกิดขึ้นมีการถกเถียงกันเป็นอย่างมากโดยแม้แต่แม่ค้าที่ขายสินค้าแบบขายส่งที่ร้านประตูน้ำต่างก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ว่าแม่ค้าหลายคนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกชอบใจนะที่มีคนมาไลค์ขายสินค้าที่หน้าร้านของตนเองเพราะการขายสินค้าแบบไร้ขายนั้นจะทำให้ขายสินค้าได้น้อยแต่ในขณะเดียวกันหลายร้านก็มองว่าการขายแบบนี้ก็ดีกว่าการที่ร้านของตนเองจะขายสินค้าไม่ออก

   สำหรับกรณีนี้แม่ค้าที่เปิดขายเสื้อผ้าแถวประตูน้ำได้ออกมาพูดถึงกรณีไลฟ์สดหน้าร้านของตนเองว่าปัจจุบันหลังจากที่มีการระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นการขายเสื้อผ้านั้นขายค่อนข้างยากเป็นอย่างมากเพราะผู้คนมักจะมาระวังเกี่ยวกับเรื่องของการใช้เงิน

        ดังนั้นการที่จะมาซื้อสินค้าที่ประตูน้ำโดยซื้อในราคาขายส่งนั้นจะขายได้ในปริมาณที่น้อยมากบางวันแทบจะขายไม่ได้เลยก็มีแต่หลังจากที่มีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าหัวหมอมีการไลฟ์สดขายที่หน้าร้านให้ลูกค้าเลือกเลยว่าจะเอาเสื้อผ้าลายไหนชุดไหนก็ทำให้สามารถขายได้มากขึ้นซึ่งเจ้าของร้านขายเสื้อผ้าส่งในประตูน้ำบางร้านก็ยินยอมให้มีการขายแบบไลฟ์สดได้แต่บางร้านก็ยังไม่อยากที่จะให้มีการไลฟ์สดขายโดยในเรื่องนี้เกิดกลายเป็นกระแสดราม่าเกิดขึ้นทะเลาะกันระหว่างแม่ค้าทั้งสองฝั่ง

       ในที่สุดเจ้าของตึกใบหยกซึ่งก็คือคุณบุ้งใบหยกก็เลยออกมาพูดถึงประเด็นนี้ว่าทางคุณบุ้งนั้นไม่ได้มีการกิจการเกี่ยวกับเรื่องของการค้าขายและค่อนข้างที่จะสนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องของช่องทางในการค้าขายดังนั้นถ้าใครจะมาไลฟ์สดขายของก็สามารถทำได้โดยคุณบุ้งจะไม่มีการห้ามปรามแต่ต้องขึ้นอยู่กับเงื่อนไขว่าร้านที่จะมาไลฟ์สดขายนั้นทางเจ้าของร้านไม่มีการอนุญาตหรือไม่

           ซึ่งในขณะนี้คุณบุ้งได้ไปปสำรวจมาแล้วพบว่ามีประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของร้านค้าภายในตึกใบหยกที่แม่ค้าไม่อนุญาตให้มีการไลค์ขายสินค้าหน้าร้านของตนเองดังนั้นถ้าหากร้านไหนมีการติดป้ายเอาไว้ก็ห้ามไปทำการไลฟ์ขายเสื้อผ้าแต่ถ้าหากร้านไหนไม่ได้มีการติดป้ายก็สามารถไลฟ์ขายเสื้อผ้าได้ตามปกตินั่นเอง 

 

สนับสนุนโดย    Ufabet เข้าสู่ระบบ

ทนายตั้ม แฉตำรวจคดีแตงโม

ทนายตั้ม แฉตำรวจคดีแตงโม

            จากกรณีที่มีข่าวออกมาว่าคดีของแตงโมนั้นมีกุนซือคอยให้คำปรึกษากับคนที่อยู่บนเรือหรือแกงสปีดโบ๊ท 5 คนว่าไม่ให้ข้อมูลอันเป็นความจริงกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นอกจากนี้ยังมีการวางแผนว่าให้ทุกคนให้ปากคำตรงกันว่าแตงโมเดินไปที่ท้ายเรือเพื่อไปทำธุระส่วนตัวหลังจากนั้นก็ตกเรือเนื่องจากว่าในขนาดนั้นโรเบิร์ตซึ่งขับเรือสปีดโบ๊ทไม่เป็นพยายามที่จะหัดขับแล้วทำให้เรือกระตุกจึงทำให้เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้เกิดขึ้น

          อย่างไรก็ตามหลายคนให้ข้อมูลไม่ว่าจะเป็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเองหรือแม้แต่ทนายเดชาก็ออกมาพูดถึงทนายที่ถูกระบุว่าเป็นกุนซือนั้นเป็นคนที่มีชื่อเสียงและเคยออกรายการโทรทัศน์ช่องดังมาแล้วทำให้คนในสังคมและคนในโซเชียลต่างก็พากันวิเคราะห์ว่าทนายกุนซือนั้นน่าจะเป็นทนายตั้มซึ่งเรื่องนี้ส่งผลทำให้ทนายตั้มนั้นเดือดดาลเป็นอย่างมาก โดยทนายตั้มได้มีการไลฟ์สดผ่านทาง Facebook ของตนเองว่าจะออกมาแฉว่าใครกันแน่ที่เป็นกุนซือของคดีแตงโมผ่านรายการโหนกระแสในวันรุ่งขึ้นทำให้เมื่อวันที่ 4 เดือนเมษายนปีพศ. 2565 ผู้คนต่างก็เฝ้ารอชมรายการโหนกระแส

          ซึ่งทนายตั้มก็มาตามที่ตนเองได้มีการประกาศออกไว้ผ่านทาง Social  ทนายตั้ม แฉตำรวจคดีแตงโม  โดยได้ออกมาเปิดเผยว่าทนายตั้มเคยไปให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อช่วงแรกๆของคดีแตงโม โดยยืนยันว่าในวันที่เดินทางไปนั้นได้ไปพบกับผู้การจังหวัดนนทบุรีและผู้กำกับจังหวัดนนทบุรีซึ่งในห้องนั้นยังมีเจ้าหน้าที่อีกหลายคนโดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการบอกให้ทนายตั้มนั้นได้พูดในลักษณะที่บอกว่าหลังจากที่พูดคุยกับปอและ Robert ในวันที่มีการนัดเจอกันวันแรกนั้นทั้งคู่ไม่ได้มีการแสดงท่าทีหรือมีพิรุธแต่อย่างใด

           สำหรับคำพูดนี้ทำให้ทนายตั้มนั้นเกิดความสงสัยว่าทำไมเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นให้ตนเองต้องพูดแบบนั้นแต่ทางทนายตั้มยืนยันว่าตนเองไม่ได้มีการให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำเพราะทนายตั้มเชื่อว่าถ้าหากตนเองให้ข้อมูลแบบนั้นไปเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำข้อมูลที่พูดออกมาจากปากของทนายตั้มลงไปในเอกสารสำนวนคดีทันทีและจะกลายเป็นว่าทนายตั้มนั้นได้ให้การสนับสนุนบุคคลทั้ง 5 บนแก๊งสปีดโบ๊ทว่าไม่มีพิรุธแต่อย่างใด

      โดยทนายตั้มระบุว่าตนเองไม่ใช่สุนัขรับใช้ของใครดังนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจบอกให้ตนเองพูดแบบไหนตนเองจึงไม่ได้พูดตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแนะนำนอกจากนี้ยังได้มีการถามออกมาผ่านทางรายการโหนกระแสว่าจากการที่แนะของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้บอกให้ทนายตั้มพูดแบบนี้ใครกันแน่ที่เป็นกุนซือในคดีของแตงโม

          ทนายตั้มยืนยันว่าการที่ตำรวจหรือแม้แต่ทนายเดชาออกมาพูดจากำกวมว่าทนายตั้มเป็นกุนซือนั้นแท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงแค่ต้องการให้สังคมเข้าใจผิดและเปลี่ยนประเด็นไม่ให้เข้ามามุ่งเน้นให้ความสนใจกับคดีของแตงโมเพื่อหวังจะรีบปิดคดีจึงได้มีการพยายามเอากุนซือมาเป็นประเด็นสำคัญเพื่อให้คนในสังคมนั้นเข้าใจคลาดเคลื่อนนั้นเอง

 

สนับสนุนโดย    gclub เว็บตรง

รุ่นพี่ปี 1 หลอกรุ่นน้องไปค่ายอาสา แท้จริงแล้วพาไปรับน้องเถื่อน

รุ่นพี่ปี 1 หลอกรุ่นน้องไปค่ายอาสา แท้จริงแล้วพาไปรับน้องเถื่อน

       พาไปรับน้องเถื่อน เมื่อวันที่ 19 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 ในโลกออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปพฤติกรรมของเด็กมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง  โดยในคลิปจะเห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากกำลังทำกิจกรรมบางอย่างอยู่ ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าเหตุการณ์ที่เกิดในคลิปนั้นเป็นเหตุการณ์ที่รุ่นพี่กลุ่มหนึ่งได้มีการหลอกรุ่นน้องปี 1 ว่าจะพาไปออกค่ายอาสา

แต่เมื่อเดินทางไปถึงยังสถานที่เกิดเหตุกลับพบว่ารุ่นพี่หลอกมารับน้องเถื่อนซึ่งในคลิปจะเห็นได้ว่ารุ่นพี่มีการปิดบังใบหน้าและมีการสั่งลงโทษรุ่นน้อยหลายรูปแบบนอกจากนี้ยังมีจานพูดจากดดันและมีการว๊ากอีกด้วย 

       อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า เด็กนักเรียนชั้นปี 1 ถูกรุ่นพี่หลอกว่ามีโครงการน้องใหม่จิตอาสาซึ่งเป็นโครงการที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องโดยรุ่นน้องที่จะเข้าโครงการนี้สามารถเดินทางไปร่วมกิจกรรมได้

ซึ่งกิจกรรมจะมีจัดตั้งแต่วันที่ 15-17 เดือนกรกฎาคม ปีพ.ศ. 2565 โดยการเดินทางในครั้งนี้จะไปทำกิจกรรมกันที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบุรี 

         จากการให้ข้อมูลของรุ่นน้องที่ถูกหลอกมาทำกิจกรรมนั้นระบุว่าในเอกสารได้มีการระบุว่ากิจกรรมนั้นจะมีการฟังบรรยายมีการเข้าฐานในการออกกำลังกายและสันทนาการแต่ไม่มีการบอกว่าจะเป็นการรับน้องซึ่งเมื่อเดินทางมาถึงรีสอร์ทดังกล่าวปรากฏว่ามีรุ่นพี่ผู้ชายหลายคนคอยอยู่แล้ว

หลังจากนั้นก็สั่งการให้น้องหมอคว่ำไปกับพื้น  เบอร์รุ่นพี่คอยยืนคุมเชิงในมือถือไม้เอาไว้  แล้วถ้าหากว่ารุ่นน้องคนไหนปฏิบัติตามล่าช้าหรือไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกรุ่นพี่เอาไม้ตีพร้อมกับตะโกนต่อว่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย 

         ยังไงก็ตามสิ่งที่สร้างความฮือฮามากในคลิปดังกล่าวก็คือภาพที่รุ่นพี่ผู้ชายได้มีการเรียกรุ่นน้องปีหนึ่งซึ่งเป็นผู้หญิง  ออกมาทำโทษด้วยการกระโดดเตะขาคู่ทำให้เด็กผู้หญิงคนดังกล่าวล้มลงนอกจากนี้ยังมีการใช้ไม้ตีไปยังผู้หญิงอีกด้วย 

        หลังจากที่คลิปดังกล่าวถูกแชร์ออกไปก็มีการพูดถึงกันเป็นอย่างมากบางข้อพิพาทวิจารณ์ให้กับการกระทำของรุ่นพี่ในครั้งนี้พร้อมทั้งเรียกร้องให้มหาวิทยาลัยดังกล่าวออกมาทำการตรวจสอบพฤติกรรมของรุ่นพี่ ที่มีการแจ้งกับทางมหาลัยไว้อีกอย่างหนึ่งแต่กลับทำกิจกรรมอีกอย่างหนึ่งและเป็นการหลอกลูกน้องไปทำร้ายนอกจากนี้ยังให้มีการตรวจสอบด้วยว่าพื้นที่ได้มีการทุจริตงบประมาณในการของบของมหาวิทยาลัยเปทำกิจกรรมในครั้งนี้หรือไม่ 

          สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้คงต้องรอดูว่าทางมหาวิทยาลัยจะออกมาชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไรบ้าง

 

สนับสนุนโดย.  ufabet auto

ชีวิตพลิกผัน จากเศรษฐีถูกหวย 18 ล้าน ผ่านไป 5 ปีไม่เหลืออะไรเลย 

ชีวิตพลิกผัน จากเศรษฐีถูกหวย 18 ล้าน ผ่านไป 5 ปีไม่เหลืออะไรเลย 

         ชีวิตพลิกผัน จากเศรษฐี เมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมาช่วงวันที่ 1 กันยายน  ปี พ.ศ. 2560   วันนั้นเป็นมีการประกาศผลสลากกินแบ่งรัฐบาลออกมาและมีคนที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 เป็นจำนวนมากหนึ่งในนั้นมีนายไพบูลย์ เป้าชุมแสง ซึ่งประกอบอาชีพเป็นคนขับรถสิบล้อได้ถูกหวยรางวัลที่ 1

โดยซื้อไปทั้งหมด 3 ใบด้วยกันคิดเป็นเงินการถูกหวยในครั้งนั้นสูงถึง 18 ล้านบาทเลยทีเดียวเรียกได้ว่านายไพบูลย์กลายเป็นเศรษฐีเพียงแค่ช่วงข้ามคืนเท่านั้น 

        ก่อนที่นายไพบูลย์จะมีการถูกหวยรางวัลที่ 1 นั้นเขาเป็นพนักงานขับรถสิบล้อให้กับบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นบริษัทที่ขนส่งสินค้าระหว่างจังหวัดโดยบริษัทที่นายไพบูลย์ทำงานอยู่นั้นชื่อบริษัทส่งสินค้าพรของแม่โดยบริษัทตั้งอยู่ในเขตจังหวัดอุดรธานีซึ่งนายไพบูลย์จะต้องมีการขับรถจากอุดรธานีไปส่งของในกรุงเทพฯด้วยเขาทำแบบนี้เป็นประจำมานานกว่า 25 ปี

          หลังจากที่นายไพบูลย์ถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ได้เงินมานายไพบูลย์ก็นำเงินจำนวน 18 ล้านบาทไปทำการลงทุนต่างๆนานาซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนายไพบูลย์ใช้เงินไปทั้งหมด 3 ล้านบาทในการสร้างบ้านโดยมีการสร้างทั้งหมด 5 หลังแล้วก็ใช้เงินอีก 4 ล้านบาทในการซื้อที่ดินมาสะสมเพิ่มโดยซื้อมาทั้งหมด 20 รายได้กันเสร็จแล้ว

ก็นำเงินที่เหลือมาลงทุนเปิดกิจการเป็นของตนเองโดยนายไพบูลย์นั้นได้มีการเปิดร้านขายวัสดุก่อสร้างนอกจากนี้ยังมีการเปิดร้านขายส่งสินค้าโชห่วย

ซึ่งมีการเปิดทั้งหมด 2 ร้านด้วยกันและยังมีการลงทุนทำโกดังขนาดใหญ่ไว้เก็บสินค้าเป็นการกระตุ้นอีกด้วยพร้อมกันนี้ก็ยังมีการออกรถกระบะอีก 5 คันเพื่อเอาไว้ใช้ในการรับส่งสินค้ามีการลงทุนซื้อรถไถรถสิบล้อ 

               การลงทุนในครั้งนั้นของนายไพบูลย์นั้นลงทุนไปทั้งหมดถึง 16 ล้านกว่าบาทเลยทีเดียว   อย่างไรก็ตามตลอดระยะ 5 ปีที่ผ่านมานั้นปรากฏว่าบริษัทที่นายไพบูลย์ได้มีการลงทุนใบนั้นไม่ประสบความสำเร็จขาดทุนมาโดยตลอดนอกจากนี้เงินเก็บก็รอไปเรื่อยๆร้านชามที่เปิดเป็นร้านขนาดใหญ่ก็ต้องปิดตัวลงเงินหมุนเวียนภายในร้านก็หมดลง

          ปัจจุบันนี้เงิน 18 ล้านบาทของนายไพบูลย์นั้นหมดเกลี้ยงไปแล้วปัจจุบันไม่มีเงินสดติดตัวเลยมีแต่ทรัพย์สินที่มีการซื้อเอาไว้ก่อนหน้านี้เท่านั้น  ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าในตอนนี้ชีวิตของนายไพบูลย์พลิกผันเป็นอย่างมากจากพนักงานกินเงินเดือนกลายเป็นเศรษฐีช่วงค่ำคืนและจะเศรษฐีช่วงค่ำคืนก็กลับมาเป็นคนไม่มีเงินติดตัวเหมือนเดิม

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บตรง

เปิดแฟ้มเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด ซีโนแวค-แอสตร้าเซเนก้า

เปิดแฟ้มเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด ซีโนแวค-แอสตร้าเซเนก้า

เปิดแฟ้มเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน  จากการสืบสวนโลกผลจากการเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน covid-19 จำนวนทั้งสิ้น 103 รายการเสียชีวิตทั้งหมดผู้ที่ได้รับวัคซีนมาแล้วเสียชีวิตแพทย์ยืนยันไม่มีการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับวัคซีนสร้างความสับสนให้กับประชาชนคนไทยเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนแล้ว

เสียชีวิตหรือเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวกันแน่เพราะทุกรายที่เสียชีวิตมันเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับวัคซีนประเทศไทยขณะนี้เร่งเดือนหน้าฉีดวัคซีน covid 19 ตั้งเป้าหมายได้ 70% ของประชากรจากลาว 50 ล้านคนรัฐบาลต้องการให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้ง

การระบาดลดการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด 19 หรือลดความรุนแรงของโรคเพื่อนำไปสู่การเปิดประเทศให้ได้ตามเป้าหมายในเดือนตุลาคม 2560 4

อย่างที่ทราบกันดีว่ามีช่วงนึงหมอพร้อมให้ลงทะเบียนเพื่อรับวัคซีนทั่วประเทศไทยมีแต่ความตลกตกใจมีแต่ความตื่นกลัวกันว่าการฉีดวัคซีนแล้วจะทำให้เสียชีวิตฉะนั้นแล้วแทบไม่มีประชาชนให้ความสนใจเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนเลยแต่มาวันนี้วันที่โรค covid-19 กลับมาระบาดและลอกสามอีกครั้งหนึ่งทำให้หลายๆคนเปลี่ยนกลับมา

อยากรับวัคซีนอยากฉีดวัคซีนกันมีคนลงทะเบียนกันอย่างต่อเนื่องโดยปัจจุบันประเทศไทยมีวัคซีนที่อยู่ในระบบของรัฐบาลที่บริการประชาชนอยู่ 2 ยี่ห้อดังที่เรียนมาแล้วคือซิโนแวคและแอสตร้าเซเนก้า โดยข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน  2564 พบว่ามีการฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 8 ล้าน 4 แสนบาทแบ่งเป็นเข็มที่ 16 ล้านโด๊สเข็มที่ 2 ล้านกว่า

โดสยิ่งประชาชนรับวัคซีนมากเท่าไหร่ข่าวการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นทำให้แพทย์ต้องวินิจฉัยต้องตรวจสอบโรคกันอย่างเคร่งเครียดเพื่อให้แน่ใจว่ามันเกิดจากการฉีดวัคซีนหรือเกิดจากโรคประจำตัวกันแน่จากการเปิดเผยของนายแพทย์เศวตสัน นามวาทผู้อำนวยการกองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉินกรมควบคุมโรคยังยืนยันไม่ได้ว่าเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน 19 หรือเพียงเหตุการณ์ร่วมที่เกิดขึ้น

โดยบังเอิญกันแน่คืออาการไม่พึงประสงค์ที่เกี่ยวกับวัคซีน covid19 ที่ประชาชนได้ฉีดไปมีอาการไม่พึงประสงค์ก็คือ 1 บางรายมีอาการช็อคแต่ก็คืนกลับมาภายใน 1-2 ชั่วโมงบางคนเกิดปฏิกิริยาแพ้บางคนเกิดผลข้างเคียงบางคนเกิดอาการทางเส้นประสาทซึ่งอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดจากการฉีดวัคซีน covid-19 ยังไงกันดีล่ะครับสรุปแล้ว

การฉีดวัคซีนมาทำให้เสียชีวิตจริงหรือไม่หรือมันเป็นเหตุการณ์ร่วมปัจจุบันก็ยังไม่มีข้อสรุปมาจากนายแพทย์หรือทีมแพทย์ผู้เกี่ยวข้องกับ covid 19 เหตุการณ์ร่วมที่ไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือการฉีดวัคซีน มันก็มีโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจและหลอดเลือดหัวใจเลือดออกในสมองภาวะหัวใจล้มเหลวลิ่มเลือดอุดตันในปอดเลือดออกในช่องท้องและกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

ซึ่งผู้ป่วยพวกนี้ก็เสียชีวิตหลังจากที่รับวัคซีนมาทั้งหมด  gclub ฟรี 100    แต่ก็นั่นยังยืนยันไม่ได้ว่ามันเกิดจากโรคประจำตัวหรือเกิดจากการรับวัคซีนกันแน่ สุดท้ายแล้วประชาชนคนไทยคงต้องเลือกฉีดวัคซีนเพื่อเป็นภูมิคุ้มกันหมู่มิฉะนั้นแล้วโรคไวรัส covid-19 จะระบาดไปทั่วทุกหัวระแหงทุกชุมชนเพราะฉะนั้นแล้วอย่ากังวลกับการเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีน

แต่เราต้องมีภูมิคุ้มกันหมู่ฉีดวัคซีนกันเถอะครับอย่ากังวลกันมากเพราะว่าการฉีดวัคซีนจะทำให้เราติดเชื้อไวรัส covid ยากไม่ใช่ว่าไม่ติดเลยนะครับแต่มันจะติดยากแล้วอาการมันจะไม่หนักฉะนั้นมั่นใจนะครับร่วมใจกันไปฉีดวัคซีนเพื่อความปลอดภัยและเป็นภูมิคุ้มกันหมู่ของพวกเราคนไทยทุกคนข้อมูลณวันที่ 24 มิถุนายน 

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa