ประโยชน์ของน้ำลายของมนุษย์ 

น้ำลายของมนุษย์มีบทบาทสำคัญในระบบย่อยอาหารและสุขภาพช่องปาก น้ำลายถูกผลิตโดยต่อมน้ำลายซึ่งประกอบไปด้วยต่อมน้ำลายขนาดใหญ่สามคู่ (ต่อมน้ำลายใต้หู, ต่อมน้ำลายใต้ลิ้น, และต่อมน้ำลายใต้ขากรรไกร) และต่อมน้ำลายเล็กๆ จำนวนมากที่กระจายอยู่ในปาก

ส่วนประกอบของน้ำลาย

น้ำลายประกอบด้วยน้ำประมาณ 98% ที่เหลือเป็นสารประกอบอื่นๆ เช่น

– เอนไซม์ (เช่น อะไมเลสที่ช่วยย่อยแป้ง)

– เมือก (ช่วยในการหล่อลื่น)

– อิเล็กโทรไลต์ (เช่น โซเดียม, โพแทสเซียม, แคลเซียม)

– แอนติบอดี (ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรค)

– โปรตีน (เช่น เอนไซม์, โปรตีนโครงสร้าง)

 

ประโยชน์ของน้ำลาย

  1. ช่วยย่อยอาหาร: น้ำลายมีเอนไซม์อะไมเลสที่ช่วยในการย่อยแป้งให้เป็นน้ำตาลมอลโตสและน้ำตาลกลูโคส ซึ่งเป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการย่อยอาหาร
  2. ช่วยในการกลืนอาหาร: น้ำลายช่วยทำให้อาหารนุ่มและเป็นก้อน ซึ่งช่วยให้กลืนได้ง่ายขึ้น
  3. ป้องกันฟันผุ: น้ำลายช่วยล้างคราบแบคทีเรียและเศษอาหารออกจากฟัน และมีสารประกอบที่ช่วยในการลดกรดในช่องปากที่สามารถทำลายเคลือบฟัน
  4. ป้องกันการติดเชื้อ: น้ำลายมีแอนติบอดีและเอนไซม์ที่ช่วยในการต่อสู้กับเชื้อโรคและป้องกันการติดเชื้อในช่องปาก
  5. หล่อลื่นและป้องกันการบาดเจ็บ: เมือกในน้ำลายช่วยในการหล่อลื่นช่องปากและลิ้น ทำให้ลดการเสียดสีและการบาดเจ็บขณะเคี้ยวอาหารและพูด

 

มนุษย์ทั่วไปจะมีการหลั่งน้ำลายประมาณ 0.5 ถึง 1.5 ลิตรต่อวัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ สุขภาพส่วนบุคคล และปัจจัยทางสิ่งแวดล้อม การหลั่งน้ำลายจะมีความผันผวนในช่วงเวลาต่างๆ ของวัน ดังนี้

ปัจจัยที่มีผลต่อการหลั่งน้ำลาย

  1. เวลา: ปริมาณการหลั่งน้ำลายมักจะสูงสุดในช่วงกลางวันและลดลงในช่วงกลางคืน การหลั่งน้ำลายจะลดลงมากที่สุดในขณะที่นอนหลับ
  2. การกระตุ้น: การมองเห็นหรือได้กลิ่นอาหาร รวมถึงการเคี้ยวหรือการพูด จะช่วยกระตุ้นการหลั่งน้ำลาย
  3. สุขภาพช่องปาก: ภาวะสุขภาพช่องปากที่ดีจะช่วยรักษาการหลั่งน้ำลายในระดับปกติ
  4. ยาบางชนิด: ยาบางชนิดสามารถมีผลกระทบต่อการหลั่งน้ำลาย ทำให้เพิ่มหรือลดการผลิตน้ำลาย
  5. ภาวะสุขภาพ: โรคหรือภาวะบางอย่าง เช่น ภาวะเครียด โรคเบาหวาน โรคซิเกรน (Sjögren’s syndrome) และการติดเชื้อ สามารถมีผลกระทบต่อการหลั่งน้ำลาย

 ปริมาณการหลั่งน้ำลายในแต่ละวัน

– ช่วงปกติ: ประมาณ 0.5 – 1.5 ลิตรต่อวัน

– ระหว่างอาหาร: การหลั่งน้ำลายจะเพิ่มขึ้นมากในขณะที่กินอาหาร เนื่องจากการกระตุ้นจากการเคี้ยวและการรับรส

– ในช่วงกลางคืน: ปริมาณการหลั่งน้ำลายจะลดลงมาก ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุและการติดเชื้อในช่องปากมากขึ้นหากไม่ได้รักษาความสะอาดช่องปากอย่างเหมาะสม

 

น้ำลายมีบทบาทสำคัญในการย่อยอาหาร การป้องกันฟันผุ และการรักษาสุขภาพช่องปาก การที่น้ำลายหลั่งในปริมาณที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญต่อการรักษาสุขภาพโดยรวม

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย    huaylike เติมเงินไม่เข้า