ผู้โดยสารแจ้งความจับแท็กซี่ หลังชวนเข้าบ้าน อ้างอยากดูแล
ผู้โดยสารแจ้งความจับแท็กซี่ ในโลกออนไลน์ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งได้มีการถ่ายทอดสถานการณ์ที่เธอได้เจอขนาดที่ใช้บริการรถแท็กซี่โดยระบุว่าเธอได้มีการเรียกรถแท็กซี่จากหน้าบริเวณสนามบินดอนเมืองโดยต้องการเดินทางไปที่คลินิกแห่งหนึ่งเนื่องจากว่าเธอได้
มีการนัดกับคุณหมอที่คลินิกจะผ่าตัดเสริมความงามบริเวณคานอย่างไรก็ตามในขณะที่ขึ้นรถแท็กซี่ไปนั้นก็ได้มีการพูดคุยกับแท็กซี่เนื่องจากว่าแท็กซี่สอบถามเกี่ยวกับเรื่องของสถานที่เธอจึงได้ให้ข้อมูลว่าเธอกำลังจะไปเสริมความงาม
ซึ่งหลังจากแท็กซี่ทราบเรื่องก็ได้มีการชักชวนให้ไปที่บ้านโดยบอกว่าจะดูแลเธอเป็นอย่างดีนอกจากนี้แท็กซี่ยังบอกว่าจะไม่มีการคิดเงินเธออีกด้วยซึ่งระหว่างที่แท็กซี่คุยกับหญิงสาวรายนี้นั้นเธอได้มีการแอบอัดคลิปเอาไว้หลังจากนั้นก็นำคลิปไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์นอกจากนี้ยังนำคลิปดังกล่าวไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่รับเรื่องใช้ระยะเวลาดำเนินการไม่นานก็จะเรียกตัวชายที่ขับรถแท็กซี่ในวันเกิดเหตุได้โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตัวมาสอบสวนที่สถานีตำรวจเมื่อวันที่ 14 เดือนมีนาคม ปี พ.ศ 2565 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดำเนินคดีในครั้งนี้คือ สน. ดอนเมืองนั่นเอง
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ใช้ขับรถแท็กซี่เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการคิดไม่ดีกับของผู้โดยสารแต่ว่าได้มีการชักชวนผู้โดยสารให้ไปที่บ้านจริงโดยมีความตั้งใจที่จะดูแลผู้โดยสารเนื่องจากทราบมาว่าผู้โดยสารนั้นจะไปเสริมความงามบริเวณคางซึ่งอาจจะไม่มีใครคอยดูแลในขณะที่เสริมความงามเสร็จเรียบร้อยแล้วโดยแท็กซี่ยืนยันว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะคิดอนาจารหรือลวนลามแต่อย่างใดเพียงแต่คิดว่าถ้าหากว่าผู้โดยสารมาพักอยู่ที่บ้านของตนก็อาจจะมีการจ่ายเงินเพิ่มให้ 100 หรือ 200 บาทเป็นค่าเช่าห้องพักเท่านั้นเองซึ่งแท็กซี่ยืนยันว่าเขามีเจตนาดีและต้องการแสดงน้ำใจช่วยเหลือผู้โดยสารสาวเพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าทางแท็กซี่นั้นจะไม่ยอมรับแต่ก็มีคลิปหลักฐานในการพูดคุยซึ่งทางเจ้าหน้าที่แนะสามารถดำเนินคดีได้เบื้องต้นทางด้านเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้มีการแจ้งว่ามีการแจ้งข้อหากับชายคนขับรถแท็กซี่ว่าอย่างไรบ้างซึ่งเชื่อว่าอาจจะถูกแจ้งข้อหาเกี่ยวกับเรื่องของการละเมิดสิทธิส่วนตัวและลามกอนาจารนั่นเอง
อย่างไรก็ตามปัญหาแท็กซี่ที่มักจะเกี่ยวพาราสีผู้โดยสารรวมถึงชักชวนผู้โดยสารเข้าโรงแรมพูดจาสองแง่สองง่ามพูดจาลักษณะคล้ายกับรวนรามผ่านทางวาจานั้นมีให้เห็นกันบ่อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากขึ้นแท็กซี่ในช่วงเวลาตอนกลางคืนๆดังนั้นควรระมัดระวังถ้าหากมีความจำเป็นที่จะต้องใช้บริการแท็กซี่ควรจะหาเพื่อนร่วมเดินทางไปด้วยเพื่อความปลอดภัย
สนับสนุนโดย ufabet บาคาร่า