เดือน: ธันวาคม 2023

ดารารุ่นน้อง โดนตบหน้า ณ เกาหลี

ดารารุ่นน้อง โดนตบหน้า ณ เกาหลี

ทนายตั้มโพตส์ถึงกระแสแรงตอนนี้ดารารุ่นน้องโดนดารารุ่นใหญ่ ตบหน้ากลางห้าง ณ ประเทศเกาหลี  โดนตบเพราะโดนปฎิเสธไม่ไปกินปูด้วย  ทำไมต้องทำร้ายร่างกายขนาดนี้ 

จากที่ทนายตั้มออกมาโพสต์เรื่องราวนี้แล้วชาวเน็ตต่างเดากันไปต่างๆ  ก็ต่างพากันขุดหาเรื่องราว ซึ่งจะไปตรงกับดารารุ่นใหญ่ท่าหนึ่ฃที่ไปเกาหลี เที่ยวพักผ่อน และมีการโพสต์ภาพลงไอจี พร้อมภาพกินปู 

ส่วนทนายตั้มนั้นก็แนะนำให้นักแสดงชายดารารุ่นน้องคนนี้ไปแจ้งความณ ประเทศเกาหลีก่อน  ข้อหาทำร้ายร่างกาย และขอหลักฐาน ณ ห้างสรรพสินค้า เพื่อเป็นหลักฐาน ในการดำเนินคดี ต่อไป

และทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากดารารุ่นน้องคนนี้ ว่า ตนเองรู้สึกว่ากลัว และไม่อยากเจอหน้าแล้ว จึงได้ย้ายที่พัก และบล๊อคทุกช่องทางซึ่งก่อนหน้านี้ พักโรงแรมเดียวกันเพราะดารารุ่นใหญ่

ดารารุ่นน้อง โดนตบหน้า ณ เกาหลี เป็นนายหน้าพามาทำศัลยกรรม ณ ประเทศเกาหลี  แต่กลายมาเจอเหตุการณ์นี้ขึ้น จึงได้ย้ายออกทันที  และหลังจากที่ดารารุ่นน้องได้แจ้งความ ณ ประเทศเกาหลีแล้วนั้นก็ได้หลักฐานส่งมาให้ทนายตั้ม ด้านทนายตั้มก็ได้โพสต์วีดีโอหลักฐานนี้ลง 

หลังจากที่ได้ลงคลิปวีดีโอนี้แล้วนั้นชาวเน็ตก็ต่างพากัน คอมเม้นท์ด่า ดารารุ่นใหญ่คนนี้  ซึ่งส่วนมาก คอมเม้นท์กันแล้วนั้น คาดว่าเป็นคุณม้า อรนภา  ซึ่ง    ีดฟิำะ    เรื่องราวจะตรงกับที่ลงในไอจีส่วนตัว  ก็ได้มีสายตรงไปหาผู้จัดการส่วนตัวของดารารุ่นใหญ่คนนี้เพื่อสอบถามข้อมูลดังกล่าวว่าเหตุการณ์ที่เป็นกระแสตอนนี้ เรื่องจริงหรือไม่

ซึ่งทางผู้จัดการก็ยอมรับว่าเรื่องราวนั้นเป็นคุณม้า อรนภา จริง และตอบประมาณว่าไม่ได้ทำร้ายน่างกายเลย ซึ่งเป็นการหยอกล้อกันตามประสาคนสนิทกัน เหตุการณ์ ณ ห้าฃสรรพสินค้านั้น ไม่ได้ตบเต็มแรง แค่คุณม้า เองนั้นก็บอกว่าเป็นคนมือไว เลยไปโดนหน้าน้อง ิยากที่แยกย้ายกันแล้วนั้น ทางผู้จัดการส่วนเองนั้นก็พยายามติดต่อ ดารารุ่นน้องเพื่อจะขอโทษแล้ว

แต่ติดต่อไม่ได้   ทางคุณม้า อรนภา เอง จะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหลังจากเดินทางถึงประเทศไทย  ส่วนทนายตั้ม ก็รอให้ทางดารารุ่นน้องคนนี้กลับมาถึงประเทศไทยก่อนก็จะชี้แจงข้อมูล และทางด้านพ่อแม่น้องเองก็ไม่พอใจกับการกระทำของคุณม้า อรนภา  จึงให้ลูกชายไปแจ้งความกับสถานีตำรวจ ที่ประเทศไทยอีกครั้ง  

รับไม่ได้จริงๆกับการกระทำแบบนี้ของดารารุ่นใหญ่   ควรจะพูดคุยกันด้วยดี ไม่ใช่ใช้แรงแบบนี้   ในส่วนพ่อแม่ก็จะให้ลูกชายดำเนินคดีให้ถึงที่สุด  และก็รอให้ทั้งคู่ออกมาแถลงกับเรื่องราวเพิ่มเติมอีกครั้ง  แต่ต่างคนต่าแถลงข่าวแน่นอน ไม่มีการแถลงร่วมแต่อย่างใด   ชี้แจงในมุมมองของตนเอง 

สาวนอกวงการ แอบอ้างสนิทดีเจมะตูม  ไปหลอกคนดังในติ๊กต๊อก  เพื่อหลอกให้ลงทุน  แล้วหนีหาย 

สาวนอกวงการ แอบอ้างสนิทดีเจมะตูม  ไปหลอกคนดังในติ๊กต๊อก  เพื่อหลอกให้ลงทุน  แล้วหนีหาย 

สาวนอกวงการ แอบอ้างสนิทดีเจมะตูม โดยดีเจมะตูมวางแผนจับโจรโดยใช้พื้นที่ร้านของตนเอง เพื่อทำการแสดงตบตาเหยื่อให้ติดกับดัก   เพราะเหยื่อที่หลอกให้ลงทุนนั้นอยากเจอดีเจมะตูมที่สุด  

เป็นช่องว่างพอดีที่จะจับเหยื่อโจร คนนี้ได้   มีชื่อว่า วาววา   จากที่เจอตอนแรก  คุณ ว.  ชื่อย่อ นี้  เป็นสายเปย์ หลอกให้เชื่อใจ โดยจ่ายค่าหล้าให้ทั้งหมด     มีคนอื่นอีกหลายรายที่โดน คุณ ว. หลอกลงทุน เสียหาย หลายล้านบาทไม่ได้คืนสักบาท 

จากที่วางแผนจับโจรแล้วนั้น มาทราบภายหลังอีกว่า คุณ ว. นั้นมีคดี หลายคดีมาก  ข้อเท้าของเธอนั้นก็มีกำไร EM  ที่มีคดีอยู่แต่ออกมาใช้ชีวิตได้   ซึ่งคุณ ว. เองนั้น ทำทุกอย่างเป็นที่น่าเชื่อถือมาก   โดยคนที่โดนล่าสุด ชื่อคุณก้ง  คนดังในติ๊กต๊อก  คุณ ว. นั้นทำเป็นสั่งคอลลาเจน ที่คุณก้ง นั้นเป็นเจ้าของแบรนคอลลาเจนนี้  และทำทีสั่งซื้อเป็นจำนวนเยอะ

  และได้เงินมาจริง  ก็เริ่มพูดคุยกันมาเรื่อยๆ    สนิทสนม จากนั้นก็มีนำทองมาขาย ในราคาที่ถูก  บาทละ 2 หมื่นกว่าบาท 

และก็มีการพูดถึงดีเจมะตูมให้ฟัง  เล่าให้ฟังอีกว่าเป็นคนที่ซุปชีวิตดีเจมะตูมหลังจากที่โดนกระแสดราม่า ต่างๆนาๆ  gclub   น้องไม่มีที่พึ่งก็มีแต่ ตัววาววาเองที่ช่วยเหลือ และนาฬิกาก็เป็นคนซื้อให้ดีเจมะตูมอีกด้วย  ตนเองก็เชื่อใจ  มีการนำรถมาขายให้ในราคาถูกกว่าโชว์รูมทั่วไป 

  คุณก้ง เองนั้นก็บอกเพิ่มเติมอีกว่ายังไม่ได้มีการพูดคุยกับดีเจมะตูมตั้งแต่แรกแต่อย่างใด เพราะทางคุณ ว. เองนั้นจะขัดและอยู่ท่ามกลางตลอด

  จนล่าสุดโดนหลอก 8 ล้านบาท แต่ติดต่อไม่ได้  เงียบหายไป  จากนั้นก็มีเบอร์ติดต่อจากดีเจมะตูมมาแจ้งให้ทราบว่า คุณ ว นั้นเป็นมิจ แต่มิจฉาชีพ นะ  คุณดีเจมะตูมก็เล่าเรื่องราว  ว่า ทางดีเจมะตูมนั้น ก็โดนหลอกเพื่อให้มาเป็นพรีเซนเตอร์ และให้ลงทุน  หลายหลักล้าน  แต่มีเรื่องให้เอะใจก็คือ ทางคุณ ว นั้นได้นัดเจอเจ้าของที่เพื่อจะจ่ายค่าที่ ในการทำโรงงาน

  แต่พอถึงวันจริง ไม่ว่าง และอ้างว่าจะโอนเงินก่อน หนึ่งล้านบาท  โอนมาให้ทางเลขาดีเจมะตูมจริง แต่ก็ขอให้โอนคืนก่อน เพราะยังทำเรื่องไม่เรียบร้อย ทางเลขาและคุณมะตูมเองก็ได้นำชื่อไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต ก็พบว่าชื่อของวาววา คนนี้ โดนหลายคดี และหลอกลวงคนอื่นอีกมากมาย  ค่าเสียหายหลายล้านบาท

แต่ก็ยังลอยนวลอยู่ได้ และหลอกคนอื่นไปเรื่อยๆ   ที่ออกมาเตือนแบบนี้ก็อยากจะให้คนอื่นได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ว่าเป็นมิจฉาชีพ  และยังมีอีกหลายเรื่องที่นางก่อวีรกรรมไว้   หากใครที่โดนนางหลอกเงินไป ให้ไปแจ้งความไว้ที่ สถานนีตำรวจเพื่อดำเนินคดี ต่อไป

สาววัยรุ่น แม่เลี้ยงเดี่ยวออกมาร้องสื่อให้ช่วยตามหาพ่อของเด็กที่หนีไปมีแฟนใหม่ 

สาววัยรุ่น แม่เลี้ยงเดี่ยวออกมาร้องสื่อให้ช่วยตามหาพ่อของเด็กที่หนีไปมีแฟนใหม่ 

แม่ของสาววัยรุ่นแม่เลี้ยงเดี่ยว ออกมาร้องสื่อนั้น อยากให้ทางฝ่ายชายมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น  เพราะทางครอบครัวตนเองนั้นก็ไม่ได้มีฐานะร่ำรวย  ทุกวันนี้ยังทำงานหาเงินใช้หนีจากการสร้างบ้านอยู่  ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกสาวอายุ 16 ปี มีเพื่อนชายที่รู้จักกันผ่านเฟสบุ๊ค และได้นัดเจอกัน

  ทางแม่ของหญิงสาวรายนี้คิดว่าเป็นเพื่อนกันทั่วไปของวัยรุ่น  แต่เรื่องราวกับจบแค่นั้น  มาทราบภายหลังว่าลูกสาวของตนเองนั้นตั้งครรภ์ได้ 4 เดือนแล้ว 

แม่เลี้ยงเดี่ยวออกมาร้องสื่อ และหลังจากที่ทราบเรื่องจากลูกสาวก็พยายามติดต่อฝ่ายชาย แจ้งให้ทราบว่าได้ตั้งครรภ์ ทางฝ่ายชายทราบก็พยายามดีตัวออกห่าง และไม่ค่อยพูดคุยกัน กลับไปอยู่บ้านที่ภาคใต้ จ.สุราษฏรธานี   ชายคนนั้นชื่อก้อง อายุ 18 ปี  หากทราบเรื่องราวทั้งหมดนี้แล้วให้กลับมารับผิดชอบด้วย ทางด้านลูกสาว อายุ 16 ปี นั้น

ตอนนี้เลี้ยงลูกเอง   อายุได้  1 เดือนแล้ว  คลอดเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2565   มีค่าใช้จ่ายหลายบาทหาเงินมาไม่ทัน ต้องกู้หนี้ยืมสินมา แล้วไม่หมดไม่สิ้น   ทางด้านพ่อ ก็ไปรับจ้างอยู่ที่จังหวัดชลบุรี  ทำงานตลอดไม่มีวันหยุด  เพื่อหาเงินให้ครอบครัว วอนให้ ก้อง  ออกมาแสดงตัวและรับผิดชอบ 

ค่าใช้จ่ายและดูแลลูกสาว และบุตรของเขาด้วย ไม่เรียกร้องอะไรมากกว่านี้ แค่ รับผิดชอบและดูแลค่าใช้จ่าย  หากทางครอบครัวของตนนั้นต้องดูแลหลานที่พึ่งคลอดออกมาอีกนั้น   ครอบครัวต้องลำบากแบบทวีคูณสุดๆ สงสารหลานที่ไม่ได้รับรู้เรื่องราวอะไรเลย   เพราะก่อนหน้านี้ก็ไปหา เจอกันเป็นปกติอยู่แล้ว 

ถึงขั้นเกินเลยแอบมีสัมพันธ์กันจนตั้งครรภ์ขนาดนี้  อย่าหนีหาย   แต่ลูกสาวก็มาบอกตนเองว่า  ทางฝ่ายชายนั้นได้มีแฟนใหม่ไปแล้ว  ถึงมีแฟนใหม่แล้วก็ต้องมารับผิดชอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย   และอยากจะเตือนหญิงสาวรายอื่นๆอีกว่าให้ระมัดระวังตัวไว้ อย่าได้ไปเผลอรักผู้ชายแบบนี้ที่ไม่มีความรับผิดชอบ

  เพราะส่วนตัวก็พยายามทำงานหาเงินเพื่อเป็นค่านมให้ลูก   เป็นการขายโทรศัพท์ออนไลน์ กำไร เครื่องละ ร้อยหรือ สองร้อยกว่าบาท  อยากออกไปทำงานที่ได้เงินเยอะๆก็ไม่สามารถไปได้ เพราะไม่มีใครดูแลลูกของตนเอง ทุกคนในครอบครัวต้องทำงานหาเงินประทังชีวิต  ให้รอดไปในแต่ละวัน  

ก็อยากจะฝากถึงฝ่ายชาย ก้อง  หากเป็นลูกผู้ชายจริง ก็มารับผิดชอบด้วย   แค่ที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ก็ทำให้พ่อแม่ ทุกข์ใจอยู่แล้ว ไม่ได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่เลย เหมือนจะเป็นภาระให้เขาเพิ่มอีกด้วย  เป็นเพราะความคึกคะนองในวัยเด็กไม่คิดให้ไกล เลยออกมาเป็นแบบนี้  ฝากเตือนไปยังวัยรุ่นสมัยใหม่นี้ให้รู้จักป้องกันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด   

 

สนับสนุนโดย  gclub

นารา เครป กระเทย ถูกบุกจับคาบ้านที่อยุธยา

นารา เครป กระเทย ถูกบุกจับคาบ้านที่อยุธยา

นารา เครป กระเทย ถูกบุกจับคาบ้าน วันที่ 21 มีนาคม 2566 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. บุกจับ คุณนิวัฒน์ หรือที่ทุกคนรู้จักมีชื่อว่านาราเครปกระเทย วัย 24 ปี เธอถูกจับในข้อหา ฉ้อโกงประชาชนและผิด พรบ. คอมพิวเตอร์

เนื่องจากว่าคุณนารานั้นเธอได้ทำการไลฟ์สดขายของและมีการชักชวนให้ประชาชนที่ดูไลฟ์สดซื้อกล่องส่งมีราคาให้เลือกตามที่ร้านจัดโปรโมชั่นและมีการแจ้งรายละเอียดของกล่องส่งหากซื้อเท่านี้จะมีของแถมให้เท่าตัวจึงทำให้ประชาชนที่ดูอยู่ก็พากันสั่งกล่องส่งตามที่เธอจัดโปรโมชั่น นี้ขึ้นมาแต่กลับไม่ส่งของให้กลับลูกค้าที่สั่งของส่งของเธอลูกค้าก็ต่างพากันไปร้องเรียน

-แจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีลูกค้าหลายรายที่ไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับคุณนาราเครปกระเทย

-ตอนล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ ในตำแหน่ง ผกก. สั่งการให้ลูกน้องเจ้าหน้าที่ตำรวจท่านอื่นๆออกจากตามหมายศาลอาญาที่นาราเครปกระเทย

-โดนถูกหมายศาลเรียก ได้เข้าตรวจค้นทันที ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ข้อมูลว่าคุณนาราเครปกระเทยได้หลบตัวซ่อนอยู่ที่บ้านของแฟนหนุ่มที่จังหวัดอยุธยา

-โดยที่ไม่ได้อยู่บ้านของตนเอง จึงคิดว่าคุณนารานั้นตั้งใจมาหลบซ่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่นี่ หลังจากที่จับกุมาราได้แล้วนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยึดโทรศัพท์จำนวน 4 เครื่องและ iPad อีก 1 เครื่อง

ที่ใช้ในการหลอกลวงลูกค้าตอนไลฟ์สดและยังมีการพบสมุดบัญชีจำนวน 6 เล่ม 1 เรื่องของการทั้งหมด และแนะนำตัวคุณนาราไปยังโกดังที่ทำการเก็บของที่ไลฟ์สดคุณนาราจึงได้พาเจ้าหน้าที่ไปยังโกดังที่จังหวัดพระ นครศรีอยุธยา ก็พบของกลางทั้งหมดจึงทำการยึดสินค้าทั้งหมดไว้เพื่อทำการตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดก่อน

สินค้าทั้งหมดมีเป็นจำนวนมากซึ่งในนั้นก็มีทั้งโทรศัพท์และ ทองจำนวนมากคงจะเป็นสินค้าที่ใช้ไว้สำหรับการไลท์สดเพื่อให้ลูกค้ากด F สินค้าก่อนส่งของคุณนาราเครปกระเทย ซึ่งกองส่งที่คุณนาราไลฟ์สดนั้นเป็นการชักชวนให้ลูกค้า f กล่องส่งในจำนวนราคา 10,000 บาทจะได้ทอง 2 สลึงและเงินอีก 6,000 บาทให้ไปในกล่อง

ซึ่งก็มีหลายราคาตามที่แจ้งไปเบื้องต้นเป็นการชักชวนหลอกล่อผู้อื่นให้โอนเงิน หลังจากที่ได้เงินจากลูกค้าที่เย็บสินค้าก่อนส่งแต่คุณนาราเครปกระเทยกลับไม่ส่งของทั้งหมดให้กับลูกค้าซึ่งเป็นราคาค่อนข้างสูงไม่ทราบสาเหตุว่าเพราะอะไรทำไมถึงไม่ส่งสินค้าให้กับลูกค้าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัวไปสืบสวนที่สถานีตำรวจต่อไป ถือว่าร้ายแรง ลวงประชาชนผ่านพ.ร.บคอมพิวเตอร์และทำให้ผู้อื่นเสียหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวนาราเครปกระเทยไปสืบสวนและดำเนินคดีต่อไป

 

สนับสนุนเนื้อหาจาก    เว็บตรง ไม่ผ่านเอเย่นต์

พ่อ แท้ๆ ข่มขืนลูกตัวเอง ตั้งแต่ ป.6 จนถึงอายุ 17 ปี 

พ่อ แท้ๆ ข่มขืนลูกตัวเอง ตั้งแต่ ป.6 จนถึงอายุ 17 ปี 

     พ่อ แท้ๆ ข่มขืนลูกตัวเอง ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีที่เด็กน้อยช่วยเหลือพี่สาวด้วยการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่สายตรวจ ว่าพี่สาวของตนเองนั้นถูกพ่อแท้ๆข่มขืนและไม่รู้จะหาแนวทางไหนเขาช่วยเหลือพี่สาว ซึ่งเด็กก็เคยแจ้งกับป้าแล้วว่าพี่สาวถูกพ่อข่มขืนแต่ก็ไม่มีใครเชื่อเรื่องราวมันเกิดขึ้นตั้งแต่พ่อได้เลิกลากับแม่ไป

โดยหนูทั้งสองคนอยู่กับทางพ่อและพี่สาวถูกพ่อข่มขืนกักขังมาตลอดตั้งแต่อยู่ป. 6 จนปัจจุบันอายุ 17 ปีแล้ว เคยคิดจะหนีแต่ถูกจับได้ก็ถูกทำร้ายร่างกายทั้งสองคนติดทั้งสองจึงพยายามหาหนทางปรึกษากันโดยพี่สาวคนโตได้มีการเขียนลายเป็นลายลักษณ์อักษรให้ทาง พลเมืองดีให้เข้าช่วย

  • โดยมีน้องสาวช่วยอีกทาง ซึ่งไม่สามารถใช้โทรศัพท์บอกกับคนอื่นได้เนื่องจากว่าพ่อมีรหัสโทรศัพท์สามารถเข้าเช็คของทั้งสองได้
  • เด็กทั้งสองฉันคิดว่าแผนและให้น้องสาวเรื่องราวนี้ไปแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
  • ความโชคดีของเด็กก็เจอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ณเขตที่รับผิดชอบก็พบ แพรวอายุ 13 ปี

ซึ่งเป็นน้องสาวของน้องพลอยอายุ 17 ปีพี่สาวประมาณว่าให้ช่วยเหลือพี่สาวเนื่องจากถูกพ่อแท้ๆพาไปโรงแรมกักขัง ข่มขู่ และข่มขืนทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่สายตรวจทั้ง 2 ท่านที่พูดคุยกับน้องพลอยให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า ระหว่างที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นก็พบกับน้องแพรวที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างทาง ได้เข้าไปสอบถามว่ามีเรื่องอะไรให้ช่วยเหลือหรือไม่น้องแพรว

จึงได้ยื่นกระดาษที่พี่สาวขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทุกท่านคอยว่าไว้ใจกับทางเจ้าหน้าที่ทั้งสองท่านหรือไม่น้องก็มีแต่ทำท่าทางอย่างเดียว และให้น้องพลอยนำทางบอกเส้นทางไปยังห้องพักที่อาศัยอยู่กับพ่อทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพอไปถึงหอพักแห่งหนึ่งจึงขออนุญาตทางนิติบุคคลของหอพักก่อนที่จะปฏิบัติ

การเข้าล็อคตัวพ่อแท้ๆที่ข่มขืนลูกสาว โดยแจ้งเรื่องราวเบื้องต้นให้กับทางนิติบุคคลรับทราบหลังจากนั้นก็ได้ปลูกไปที่ห้องพักและเรียกให้เปิดประตูก็พบว่าพ่อของน้องทั้งสองก็อยู่ภายในห้อง ซึ่งตอนที่เจอก็พบกับพ่อและน้องพลอยพี่สาวของน้องแพรวคุณแจ้งเรื่องหลังจากที่เปิดประตูเข้าไปนั้น

น้องพลอยรีบวิ่งออกจากห้องทันทีและไปหาน้องสาวสวมกอดกันทั้งคู่ยืนร้องไห้น่าจะอยู่ในอาการดีใจที่มีคนช่วยเหลือได้

หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่สายตรวจไปถึงห้องแล้วนั้นสอบถามผู้เป็นพ่อมีชื่อว่านายพลอายุ 49 ปีก็ยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้มีการข่มขืนลูกแต่อย่างใดแต่มีหลักฐานในโทรศัพท์ของคุณเองมีการถ่ายวีดีโอระหว่างที่มีความสัมพันธ์กับลูกบันทึกไว้ในเครื่อง เจ้าหน้าที่ยืนยันเป็นหลักฐานและนำตัวไปยังสถานีตำรวจ เพื่อสืบสวนรายละเอียดที่ชัดเจนอีกครั้ง

 

สนับสนุนเนื้อหาจาก    สล็อต ufabet เว็บตรง

สาวอัดคลิป ยืมเงินผ่านโซเชียล อ้าง ธุรกิจสะดุด

สาวอัดคลิป ยืมเงินผ่านโซเชียล อ้าง ธุรกิจสะดุด

สาวอัดคลิป ยืมเงินผ่านโซเชียล เมื่อวันที่ 24 เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2565 ในโลกออนไลน์ได้มีคนนำคลิปจากแอพพลิเคชั่นติดต่อมาแชร์

  โดยคลิปดังกล่าวนั้นเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักอยู่ในตอนนี้    เนื่องจากว่าเป็นคลิปที่หญิงสาวคนหนึ่งได้โพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือชาวโซเชียลด้วยการยืมเงินจำนวนประมาณ 2 แสนบาท    โดยอ้างว่าเธอกำลังมีปัญหาด้านการเงินเนื่องจากว่าธุรกิจของเธอนั้นขาดสภาพคล่อง 

       สำหรับรายละเอียดภายในคลิปที่หญิงสาวคนดังกล่าวได้มีการโพสต์นั้นระบุว่าในขณะนี้ เธอไม่มีเงินติดตัวและเธอไม่สามารถที่จะขอยืมเงินจากคนรอบข้างเธอได้เนื่องจากว่าทุกคนพยายามช่วยเธอกันมามากแล้วและแต่ละคนก็ไม่มีกำลังทรัพย์มากพอที่จะช่วยเหลือเธอได้แล้วในตอนนี้   ที่สำคัญในขณะนี้เธอกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากว่าเธอไม่มีเงินจ่ายค่าห้องพักและค่าเช่าโกดังสินค้าและเจ้าของห้องพักต้องให้เธอย้ายออกภายในวันนี้   

           ดังนั้นเธออยากจะยืมเงินชาวโซเชียลเพื่อนำเงินไปหมุนในการดำเนินธุรกิจและสำหรับหาที่พักใหม่โดยการยืมเงินผ่านโซเชียลในครั้งนี้ขอคนที่ไม่กำหนดเวลาในการคืนหรือกำหนดช่วงเวลาในการคืนเงินช้าที่สุด 

          นอกจากนี้หญิงสาวในคลิปยังระบุด้วยว่าไม่ใช่เพียงเธอเท่านั้นที่ได้รับความเดือดร้อนแต่ยังมีลูกน้องของเธออีกหลายชีวิตที่ได้รับความเดือดร้อนเช่นเดียวกัน   ซึ่งถ้าหากใครต้องการช่วยเหลือเธอก็สามารถฝาก LINE ID ไว้ใต้คอมเม้นต์ของเธอได้แล้วเธอจะติดต่อกลับไป  

        อย่างไรก็ตามล่าสุดมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ได้มีการนำข้อมูลของหญิงสาวที่อยู่ในคลิปที่กำลังแชร์กันอยู่ในตอนนี้นำมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์

เมื่อวันที่ 25 เดือนสิงหาคม ปี พ.ศ. 2565  โดยระบุว่าหญิงสาวที่ขอยืมเงินผ่านโซเชียลนั้นไม่ได้ดำเนินธุรกิจ แต่หญิงสาวที่อยู่ในคลิปมีการเปิดออมเงินแชร์และชักจูงคนมากกว่า 200 คนร่วมเล่นแชร์เงินออมนี้โดยวิธีการชักจูงนั้นอ้างกับผู้ที่มาร่วมเงินแชร์ว่าเป็นการเล่นหุ้นปันผล 

         อย่างไรก็ตามปรากฏว่าแชร์เกิดล่ม มูลค่าความเสียหายในตอนนี้มากกว่า 80 ล้านบาท  ทำให้หญิงสาวรายนี้ไม่มีเงินที่  ufabet เว็บตรง  จะจ่ายให้กับผู้ที่ร่วมเล่นออมเงินแชร์ด้วย   ซึ่งชาวโซเชียลยังได้มีการเปิดข้อความที่หญิงสาวรายนี้ได้มีการโพสต์ชักชวนให้คนไปทำการลงทุนโดยอ้างว่าตนเองนั้นมีธุรกิจขายของและมีการเปิดเป็นหุ้นปันผล  ซึ่งจะให้ผลตอบแทนหุ้นละ 1,000 บาทและจะมีการคืนเงินให้ทุกเดือน

         อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีทางเพจออกมาแฉพฤติกรรมของหญิงสาวรายนี้ผ่านทาง Social ก็ทำให้หญิงสาวในคลิปถูกกระแสโจมตีจากทางเป็นอย่างมาก เบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลยังไม่พบว่ามีผู้เสียหายจากการร่วมทำธุรกิจปันผลหุ้นกับหญิงสาวรายนี้ไปทำความแจ้งความแต่อย่างใด 

ฝรั่งงง.. อยากรู้รถกระบะไทย ทำติดแท่งปริศนาที่ท้ายรถทำไม 

ฝรั่งงง.. อยากรู้รถกระบะไทย ทำติดแท่งปริศนาที่ท้ายรถทำไม 

       อยากรู้รถกระบะไทย ถ้าหากใครที่ติดตามYoutuber จากช่อง YouTube ของชาวต่างชาติที่มาทำรายการในเมืองไทยจะเห็นได้ว่ามี youtuber เกือบทุกคน

ที่มักจะมีการพูดถึงสิ่งที่ไม่เคยเห็นในประเทศของตนเองแต่กลับมาพบเจอในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นสายไฟแรงสูงรวมถึงเสาไฟฟ้าที่ปัจจุบันนับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์หรือสัญลักษณ์ของประเทศไทยเพราะทุกครั้งที่ชาวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวที่ประเทศไทยก็มักจะมาถ่ายรูปกับสายไฟฟ้าที่ห้อยระโยงระยางในประเทศไทย

นอกจากนี้ยังมีสัญลักษณ์แปลกๆหรือการกระทำแปลกๆอีกมากมายที่ชาวต่างชาติเห็นการกระทำของคนไทยแล้วเกิดความงงและสงสัยเป็นอย่างมากและหนึ่งในนั้นที่ชาวต่างชาติได้มีการมาตั้งกระทู้ถามในเว็บบอร์ดและกำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อยู่ในขณะนี้ก็คือรถกระบะของประเทศไทย

บางคันมักจะมีการติดตั้งแท่งปริศนาซึ่งแท่งดังกล่าวนั้นอยู่ที่บริเวณท้ายรถทำให้ชาวต่างชาติไม่เข้าใจว่าแท่งปริศนาดังกล่าวนั้นมีประโยชน์ไว้ใช้สำหรับทำอะไรหรือผู้คนที่เป็นเจ้าของรถกระบะนั้นนำแท่งปริศนานั้นมาติดที่ท้ายรถกระบะทำไม

อย่างไรก็ตามหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ในเว็บไซต์ออนไลน์ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังที่ชื่อว่าเว็บไซต์ เรดดิสนั้นปรากฏว่าก็มีผู้คน

ซึ่งเป็นคนไทยเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างมากมายโดยข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 เดือนมิถุนายน ปีพ.ศ 2566 ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มาตอบคอมเมนต์ของชาวต่างชาติถึงปริศนาแท่งเหล็กท้ายรถกระบะ 

สำหรับความคิดเห็นที่คนไทยได้มีการโพสต์ตอบชาวต่างชาตินั้นก็คือแท่งที่ชาวต่างชาติเห็นและมองว่าเป็นแท่งปริศนานั้น เจ้าของรถกระบะที่ติดแท่งปริศนานี้ต้องการที่จะนำแท่งดังกล่าวมาประดับตกแต่งรถให้เกิดความสวยงามเพียงเท่านั้นซึ่งโดยปกติแล้วรถกระบะที่ติดแท่งปริศนานี้จะเป็นคนที่ชอบแต่งรถแต่มีรายได้ไม่สูงมากนัก

จึงใช้แท่งไทเทเนียมมาทาสีแล้วนำมาติดไว้ท้ายรถเพื่อทำเป็นกันชนโดยถอดกันชนเดิมออกเพื่อให้เกิดความสวยงามนอกจากนี้คุณสมบัติของไทเทเนียมนั้นยังมีความเบาดังนั้นเมื่อถูกนำมาแทนที่กันชนของเดิมซึ่งมีน้ำหนักที่มากกว่าก็จะทำให้รถนั้นมีน้ำหนักเบากว่านั่นเอง 

อย่างไรก็ตาม สำหรับการแต่งรถด้วยการนำแท่งไทเทเนียมมาแทนที่กันชนนั้นถึงแม้ว่าจะเกิดความสวยงามแต่ก็ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่ถูกหลักตามกฎหมาย พรบ.ของรถยนต์และที่สำคัญ หากว่าเจ้าของรถที่มีการเปลี่ยนกันชนมาเป็นกันชนแบบไททาเนียมเกิดประสบอุบัติเหตุเกิดขึ้นก็จะมีผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องของการเรียกเงินประกันด้วยเช่นเดียวกัน

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    ufabet เว็บหลัก

สาวกรุ้มหนัก หลังจากไปร่วมโต๊ะอาหารในร้านหรูกับพ่อแม่แฟนครั้งแรก 

สาวกรุ้มหนัก หลังจากไปร่วมโต๊ะอาหารในร้านหรูกับพ่อแม่แฟนครั้งแรก 

สาวกรุ้มหนัก หลังจากไปร่วมโต๊ะอาหาร   มีหญิงสาวรายนึงเธอได้โพสต์เล่าเรื่องราวลงในโซเชียลมีเดียจนเว็บไซต์มิลเลอร์มีเดียได้มีการนำเรื่องราวของเธอนั้นมาเผยแพร่ในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 5 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ 2566 ซึ่งเรื่องราวของหญิงสาวรายนี้ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมากด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง

เธอได้มีการตั้งกระทู้ในเว็บบอร์ดชื่อดังของประเทศไต้หวันเล่าเรื่องราวที่เธอนั้นไปเจอกับพ่อแม่แฟนครั้งแรกและทั้งครอบครัวของแฟนนั้นก็พาเธอไปกินอาหารร้านหรู

แต่หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าครอบครัวของฝ่ายชายให้เธอจ่ายค่าอาหารเอง 

นักศึกษาสาวคนดังกล่าวเล่าให้ฟังว่าเธอกับแฟนหนุ่มคบกันมานานเป็นระยะเวลาปีกว่าแล้วและแฟนหนุ่มของเธอก็ได้มีการนัดให้เธอไปเจอกับครอบครัวของฝ่ายชายซึ่งเธอและแฟนมีฐานะที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ถึงแม้ว่าเธอรักแฟนจะเรียนที่มหาวิทยาลัยเดียวกันแต่แฟนของเธอนั้นมีฐานะค่อนข้างร่ำรวยอย่างไรก็ตามในครั้งแรกที่เธอต้องไปเจอกับครอบครัวของแฟนหนุ่มปรากฏว่าทางด้านครอบครัวของแฟนหนุ่มนัดพบกันที่ร้านอาหารสุดหรู 

อย่างไรก็ตามเมื่อเธอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วปรากฏว่าแม่ของฝ่ายชายได้ให้พ่อของฝ่ายชายไปจ่ายเงินค่าอาหารด้วยระบุว่าจ่ายให้

สำหรับคนในครอบครัวเท่านั้นส่วนอาหารที่แฟนสาวของลูกชายตัวเองกินเข้าไปนั้นให้หญิงสาวเป็นคนจ่ายเงินเองซึ่งทางด้านหญิงสาวเมื่อได้ยินก็รู้สึกช็อกเป็นอย่างมากแต่เธอก็ยินดีที่จะจ่ายเงินเองถึงแม้ว่าแฟนหนุ่มของเธอจะพยายามที่จะจ่ายเงินแทนเธอ

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ทั้งคู่ได้แยกจากครอบครัวของแฟนหนุ่มทางด้านฝ่ายชายเองก็  ทางเข้า ufabet ภาษาไทย   พยายามที่จะโอนเงินกลับมาคืนให้กับหญิงสาวแต่เธอก็ปฏิเสธซึ่งฝ่ายชายเองก็ได้ขอโทษและยืนยันว่าจะไปคุยเรื่องดังกล่าวกับแม่ของตนเองอีกครั้งหนึ่ง

ภายหลังจากที่หญิงสาวรายนี้ได้โพสต์เล่าเรื่องราวในโลกออนไลน์ก็มีผู้คนในโซเชียลมาแสดงความคิดเห็นเป็นอย่างมากซึ่งหลายคนมองว่าพฤติกรรมของพ่อแม่ฝ่ายชายนั้นเป็นการกระทำที่ไม่มีความเป็นผู้ใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ชอบแฟนของลูกชายก็ควรที่จะมีการคุยกับลูกชาย

โดยตรงและนี่เป็นเพียงแค่การพบกันครั้งแรกครอบครัวของฝ่ายชายยังไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงมีนิสัยอย่างไรดังนั้นควรที่จะแสดงความเป็นผู้ใหญ่และควรที่จะดีกับคนรักของลูกของตนเองและถ้าหากว่าฝ่ายหญิงแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็ค่อยคุยกับลูกชายของตนเองภายหลังไม่ควรที่จะแสดงการกระทำที่ถือว่าผิดปกตินี้ 

เพจท่องเที่ยวชื่อดังแฉ ไปออกทริปเที่ยวยุโรปถูกโจรย่องขโมยทรัพย์ รู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว 

เพจท่องเที่ยวชื่อดังแฉ ไปออกทริปเที่ยวยุโรปถูกโจรย่องขโมยทรัพย์ รู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว 

    ทริปเที่ยวยุโรปถูกโจรย่องขโมย สำหรับใครที่เคยติดตามเพจการท่องเที่ยวชื่อดังเพจหนึ่งที่ชื่อว่าไปกันนะ  จะเห็นได้ว่าเพจนี้นั้นจะเป็นเพจที่แนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการท่องเที่ยวทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศเป็นการนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆเป็นการท่องเที่ยวลักษณะแนะนำสำหรับคนที่ไม่เคยเดินทางไปเที่ยวและอยากจะไปเที่ยวก็สามารถทำตามเจ้าของเพจได้

ซึ่งเจ้าของเพจที่เปิดเพจไปกันนะเป็นคู่รักคู่หนึ่งที่ชื่อว่านัดปิยะนัสและออมปาณิตาซึ่งทั้งสองคนนี้สร้างเพจขึ้นมานานหลายปีแล้ว และปัจจุบันก็มีผู้ติดตามมากกว่า 9.6 แสนคนนับได้ว่าเป็นเพจที่แนะนำเกี่ยวกับเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของไทยเลยทีเดียว 

อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 10 เดือนมิถุนายนปีพ.ศ 2566 ปรากฏว่าเพจแนะนำการท่องเที่ยวไปกันนะได้มีการโพสต์เล่าเรื่องราวความไม่ประทับใจในการไปทริปเที่ยวต่างประเทศมาซึ่งทั้งคู่นั้นได้เดินทางไปกับครอบครัวเพื่อเดินทางไปเที่ยวประเทศยุโรปโดยรายละเอียดที่เจ้าของเพจไปกันนะได้เปิดเผยนั้นเป็นการเล่าว่าถูกขโมยย่องเข้าไปขโมยทรัพย์สินขณะที่ออกทริปในประเทศยุโรป

โดยขโมยเข้าไปขโมยทรัพย์สินในช่วงเวลากลางคืนหลังจากขโมยทรัพย์สินเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มีการเก็บกระเป๋าให้และรู้ซิปให้เรียบร้อยทำให้เจ้าของกระเป๋านั้นไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนมาขโมยทรัพย์สินภายในกระเป๋าดังนั้นกว่าจะรู้ว่าของในกระเป๋าหายไปก็ผ่านไปนานแล้วและไม่สามารถตามจับขโมยได้แล้ว 

สำหรับประเทศที่เจ้าของเพจถูกโจรเข้าไปขโมยทรัพย์สินในช่วงเวลากลางคืนนั้นเกิดขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งทางเจ้าของเพจและครอบครัวได้เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปในค่อนข้างมีราคาสูงและเป็นทรัพย์สินขนาดใหญ่ไม่ว่าจะเป็นโรมถ่ายภาพหรือแม้แต่กล้องถ่ายรูปรวมถึงไม้กันสั่นและยังมีอื่นๆอีกมากมาย

อย่างไรก็ตามเจ้าของเพจยังเล่าให้ฟังว่าคนลาเด้แอบเข้ามาภายในห้องยามค่ำคืนและขโมยทรัพย์สินออกไปซึ่งทุกคนภายในห้องนั้นพากันหลับสนิทและไม่มีใครได้ยินเสียงขณะที่คนร้ายเข้ามาขโมยทรัพย์สินเลยนอกจากนี้คนร้ายยังมีการเก็บของและรูดซิปกับไว้ที่เดิมเป็นอย่างดี

ทำให้ทุกคนนั้นไม่เกิดความสงสัยจนเมื่อทุกคนต้องย้ายออกจากโรงแรมก็ได้มีการเก็บของเข้ากระเป๋าและเมื่อถึงเวลาเช็คเอ้าท์ถึงทราบว่าทรัพย์สินของตนเองถูกขโมยไป 

สำหรับเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้กับคนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการเข้าพักตามโรงแรมต่างๆนั้นควรจะมัดระวังทรัพย์สินของตนเองควรเก็บทรัพย์สินของเองอยู่ใกล้ตัวให้มากที่สุดและไม่ควรที่จะพกทรัพย์สินที่มีค่าติดตัวเวลาที่เดินทางไปต่างประเทศเยอะมากนักเพราะถึงแม้ว่าทางโรงแรมจะมีระบบ Security ที่ดีแต่ก็อาจไม่ดีพอดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือนำทรัพย์สินพกติดตัวไปเพียงแค่พอประมาณเท่านั้นจะปลอดภัยที่สุด 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย  ทางเข้า ufabet มือ ถือ

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa