หมวดหมู่: ข่าวที่เป็นกระแส

หนุ่มเล่นเกมแพ้  หงุดหงิดควงไม้ฟาดหัวอริที่นั่งกินเหล้า เพราะมองหน้า 

หนุ่มเล่นเกมแพ้  หงุดหงิดควงไม้ฟาดหัวอริที่นั่งกินเหล้า เพราะมองหน้า 

             เมื่อวันที่ 22 เดือนพฤษภาคมปีพศ 2564   ที่จังหวัดสมุทรปราการหมู่บ้านเอื้ออาทรสุวรรณภูมิ 1  ได้มีเหตุการณ์ชายคนหนึ่งถูกทำร้ายขณะที่นั่งกินเหล้ากับเพื่อนสาวอยู่ตรงบริเวณข้างตึก 3 ในหมู่บ้านดังกล่าวและคนร้ายที่มาทำร้ายร่างกายนั้นก็เป็นคนในหมู่บ้านเอื้ออาทรเช่นเดียวกัน

แต่ว่าอยู่กันคนละตึก  หลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งเหตุแล้วจึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุพบชายอายุประมาณ 37 ปีได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะเนื่องจากว่าถูกไม้ตีจนหัวแตก  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้มีการปฐมพยาบาลขั้นพื้นฐานหลังจากนั้นก็มีการนำชายวัย 37 ปีส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการเย็บศีรษะอีกครั้งหนึ่ง

        จากการให้ข้อมูลของหญิงสาวที่นั่งกินเหล้าอยู่กับชายที่ถูกทำร้ายทราบว่าคนที่ทำร้ายร่างกายเพื่อนชายของเธอนั้นเป็นคนที่อยู่ในหมู่บ้านเดียวกันแต่คนละตึกซึ่งเธอสังเกตว่าเพื่อนชายของเธอ น่าจะไม่ถูกกันกับชายคนดังกล่าวมาก่อนอยู่แล้วเพราะเคยเจอเห็นมีปากเสียงกันมาโดยตลอดโดยเธอเล่าว่าระหว่างที่กำลังนั่งกินเหล้าอยู่นั้นอยู่ๆชายที่ก่อเหตุก็เดินมาหาเพื่อนชายของเธอ

   หลังจากนั้นก็สอบถามว่ามองหน้าทำไมซึ่งเพื่อนชายของเธอไม่ได้พูดอะไรโดยชายคนที่ก่อเหตุก็เดินกลับไปทันทีหลังจากนั้นไม่นานก็ไปถือไม้มาแล้วตีไปที่ศีรษะของเพื่อนชายของเธอทันทีซึ่งตัวเธอเองนั้นได้พยายามห้ามปรามแต่ก็ไม่สามารถสู้แรงผู้ก่อเหตุได้อย่างไรก็ตามหลังจากที่ผู้ก่อเหตุได้ตีศีรษะเพื่อนชายของเธอจนแตกแล้วเขาก็เดินขึ้นตึกไปทันที

         หลังจากที่ชายที่ถูกทำร้ายได้มีการรักษาอาการบาดเจ็บเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงได้เดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อให้ดำเนินคดีกับชายที่ก่อเหตุซึ่งทั้งแม่ของใช้ที่ก่อเหตุแจ้งว่าลูกชายของเธอนั้นเป็นคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบสมองเพราะก่อนหน้านี้เคยประสบอุบัติเหตุแต่โดยปกติแล้วลูกชายของเธอมักจะไม่ค่อยออกนอกห้องและเป็นคนสุภาพนิสัยดีไม่ก้าวร้าวแต่เมื่อใดก็ตามที่ลูกชายของเธอเล่นเกมแล้วแพ้เขาจะมีอาการอารมณ์ฉุนเฉียวและหงุดหงิดง่าย

            ซึ่งเธอคิดว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้ลูกชายของเธออาจจะเล่นเกมแล้วแพ้เมื่อเดินผ่านคู่อริแล้วเห็นจึงทำให้รู้สึกโมโหขึ้นมาจึงได้มีการนำไม้ไปฟาดหัวชายคนดังกล่าวนั้นเอง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวชายผู้ก่อเหตุเรียบร้อยแล้วและได้มีการส่งตัวเพื่อไปทำการตรวจสอบอาการทางประสาทอีกครั้งหนึ่ง   

 

สนับสนุนโดย  ufabet สมัครยังไง

พ่อก่อเหตุยิงลูกชายตาย เพราะถูกแจกกล้วย 

พ่อก่อเหตุยิงลูกชายตาย เพราะถูกแจกกล้วย 

           เมื่อวันที่ 1 เดือนมีนาคม  ปีพ.ศ 2564  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุว่ามีเหตุการณ์ยิงกันเกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่ง  ที่หมู่บ้านท่าไม้ไกลจังหวัดสุโขทัย  มีผู้เสียชีวิต 1 คน 

      ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงบ้านหลังดังกล่าวนั้นก็พบผู้เสียชีวิตนอนตายอยู่บริเวณท้ายรถกระบะ   โดยผู้เสียชีวิตชื่อว่านายพิชิต  ส่วนผู้ก่อเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่าคนที่ก่อเหตุยิงนายพิชิตนั้นก็คือพ่อของนายพิชิตเองชื่อว่านายสุธน  และหลังจากที่ยิงนายพิชิตเสียชีวิตแล้วนายสุชนก็ขี่รถมอเตอร์ไซค์หลบหนีไป

    อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขับรถตามไปจับตัวนายสุธนได้ที่บ้านเพื่อนของนายพิชิตซึ่งขนาดนั้นนายสุธนกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่  และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบถามถึงสาเหตุของการฆ่าลูกชายตนเองในครั้งนี้นายสุทนนั้นไม่สามารถให้ปากคำได้เนื่องจากว่าอยู่ในอาการเมาสุรา

       อย่างไรก็ตามทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ซึ่งเป็นลูกชายของนายสุธนและลูกสาวของนายสุธนซึ่งทั้งคู่นั้นยังอยู่ในอาการงงงวยเพราะไม่เข้าใจว่าพ่อนั้นมายิงในพิชิตเนื่องจากสาเหตุอะไรโดยผู้ให้ข้อมูลว่าในช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุนั้นทั้งเขาทั้งคู่และนายพิชิตผู้ตายนั้นได้อยู่ภายในบ้านซึ่งมีพี่ชายกำลังทำอาหารส่วนผู้ตายและน้องสาวนั้นกำลังนั่งคุยกันอยู่ตรงบริเวณท้ายรถกระบะ

       ระหว่างนั้นอยู่ดีๆผู้ก่อเหตุก็ได้เข้ามาภายในบ้านหลังจากนั้นก็ทะเลาะกับนายสุทนเกี่ยวกับเรื่องของอุปกรณ์จับปลาซึ่งโดยปกติแล้วทั้งนายสุทนและนายพิชิตนั้นมักจะทะเลาะกันเป็นประจำอยู่แล้วหลังจากที่ทะเลาะกันเสร็จแล้วอยู่ในสุธนก็เดินเข้าไปในห้องนอนหลังจากนั้นก็เดินออกมาแล้วใช้อาวุธปืนยิงไปที่นายพิชิตทันทีโดยมีการยิงไปทั้งหมด 3 นัดและมีกระสุน 1 นัดที่ฝังไว้ที่หัวใจจนทำให้นายพิชิตนั้นตาย 

          หลังจากที่นายสุธนหายจากอาการเมาแล้วก็ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าไม่พอใจนายพิชิตซึ่งเป็นลูกชายเนื่องจากว่ามีปัญหาทะเลาะกันเป็นประจำและในวันเกิดเหตุนั้นหลังจากทะเลาะกันเสร็จเรียบร้อยแล้วผู้ตายได้มีการตัดพ่อตัดลูกกับนายสุธนและยังมีการยกนิ้วกลางให้ทำให้นายทุนนั้นไม่พอใจมากจึงได้เข้าไปในห้องและหยิบปืนซึ่งแอบซื้อไว้มาหลายปีแล้วออกมายิงนายพิชิตนั่นเอง 

      สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ น่าจะมีผลมาจากการกินเหล้าเข้าไปทำให้ขาดสติ และพ่อลูกคู่นี้ก็ไม่ค่อยลงรอยกันอยู่แล้ว พอมามีสุรามาเป็นตัวเสริมจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงนี้ขึ้น

 

สนับสนุนโดย.    ufabet เว็บแม่

เพื่อนบ้านสุดแย่ ชอบอุ้มหมามาฉี่หน้าบ้านนานถึง 17 ปี 

เพื่อนบ้านสุดแย่ ชอบอุ้มหมามาฉี่หน้าบ้านนานถึง 17 ปี 

สาวโพสต์ ต่อไปนี้จะไม่ทน กับเพื่อนบ้านสุดแย่  ชอบอุ้มหมามาฉี่หน้าบ้านทำแบบนี้มานานถึง  17 ปี 

           เมื่อวันที่ 17  เดือนมกราคม  ปี พ.ศ. 2564 ได้มีหญิงสาวคนหนึ่งโพสต์ข้อความผ่านทาง facebook ระบายปัญหาที่เกิดขึ้นกับสังคมในหมู่บ้านของเธอเองที่เธอต้องผจญกับปัญหาเพื่อนบ้านมานานถึง 17 ปีด้วยกัน

  โดยปัญหาที่เธอพบนั้น  เป็นปัญหาที่เธอต้องเจอกับเพื่อนบ้านแย่ๆและมีทัศนคติที่ไม่ดีดูเธอเล่าว่า  เธออยู่ในหมู่บ้านดังกล่าวมานานถึง 17 ปีแล้วและตั้งแต่เธอรู้จักกับเพื่อนบ้านที่ทะเลาะกับเธอคนดังกล่าวนั้นก็มีปากเสียงกันอยู่บ่อยครั้งเกิดสาเหตุที่ทะเลาะกันก็เพราะว่าเพื่อนบ้านของเธอมักจะนำสุนัขซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเพื่อนบ้านออกมาฉีดบริเวณนอกบ้าน  

       ซึ่งบริเวณที่หญิงสาวคนดังกล่าวปล่อยให้สุนัขฉี่นั้นกลับเป็นบริเวณหน้าบ้านของเธอเอง  และหลายครั้งที่เธอได้มีการสอบถามถึงเหตุผลของการที่ปล่อยให้สุนัขมาฉี่หน้าบ้านของคนอื่นแต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับไม่กล่าวว่าอะไรบางครั้งก็ด่าเธอหาว่าเธอเป็นคนเรื่องเยอะและหากว่าเธอเป็นคนพูดมากอีกทั้งยังเคยขู่จะเอาไม้มาตีปากเธอ  ทั้งนี้หญิงสาวที่โพสต์ข้อความลงใน Facebook ได้มีการระบุด้วยว่าเธอต้องทนพฤติกรรมของผู้หญิงคนนี้มานานถึง 17 ปีด้วยกัน

         ซึ่ง จากเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเธอมีหลักฐานเป็นกล้องวงจรปิดที่ติดไว้และถ่ายออกไปบริเวณหน้าบ้านจะเห็นได้ว่าจะมีผู้หญิงคนนึงมักนำสุนัขออกมาฉี่ที่แม่บ้านของเธอเป็นประจำซึ่งนี่คือหลักฐานที่สามารถแจ้งความดำเนินเอาผิดได้และหญิงสาวเจ้าของบ้านเองก็ยืนยันแล้วว่าเธอจะไม่ขอทนกับพฤติกรรมของเพื่อนบ้านที่มีนิสัยแบบนี้อีกแล้ว  

      ซึ่งเธอบอกว่าถ้าหากหญิงสาวคนดังกล่าวชอบการเลี้ยงสุนัขเลี้ยงสัตว์ก็ควรจะต้องดูแลไม่ให้มาก่อความวุ่นวายกับคนอื่นซึ่งหญิงสาวคนดังกล่าวนั้นสามารถที่จะให้สุนัขของตนเองฉี่ภายในบ้านได้โดยอาจจะ เตรียมถาดไว้ให้สุนัขของตนเองนั้นฉี่ใส่ถ่านแล้วนำไปล้างให้เรียบร้อยเพียงเท่านี้ก็ไม่เกิดความวุ่นวายกับเพื่อนบ้านแล้วแต่หญิงสาวคนดังกล่าวนั้นไม่ทำกลับพาสุนัขมาฉี่หน้าบ้านของคนอื่นทำให้บ้านของคนอื่นนั้นได้รับความเดือดร้อนเพราะมีกลิ่นเหม็นของฉี่สุนัขนั้นเอง

       สำหรับปัญหาเพื่อนบ้านมักมีเรื่องทะเลาะกันเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงนั้น   อาจจะกล่าวได้ว่าเกิดขึ้นแทบทุกหมู่บ้านเลยก็ได้ ซึ่งการที่เราต้องเจอกับเพื่อนบ้านที่มีพฤติกรรมอย่างนี้จะส่งผลทำให้สุขภาพจิตของเราแย่ดังนั้นการซื้อบ้านของแต่ละหมู่บ้านจึงมีความเสี่ยงมากที่เราจะต้องเจอกับเพื่อนบ้านที่มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแต่ถ้าหากใครไปเพื่อนบ้านที่ดีก็ถือว่าเป็นโชคลาภอันประเสริฐมากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนโดย.    เล่นคาสิโนออนไลน์ ที่ไหนดี

เพิ่งอยู่ด้วยกันแค่ 4 เดือนจับหัวเมียกระแทกผนังปูน จนทำให้เสียชีวิต

เพิ่งอยู่ด้วยกันแค่ 4 เดือนจับหัวเมียกระแทกผนังปูน จนทำให้เสียชีวิต

                      เจ้าหน้าที่ตำรวจของจังหวัดกระบี่ได้รับแจ้งเหตุว่ามีคนถูกทำร้ายร่างกายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลกระบี่เมื่อคืนวันที่ 18 เดือนตุลาคมปีพ. ศ. 2563  ในช่วงเวลา 1:00 น.  แต่เนื่องอาการบาดเจ็บสาหัสแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตเอาไว้ได้ต่อมาจึงเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในช่วงเวลาประมาณ 3:00 น ผู้เสียชีวิตนั้นอายุ 49 ปีชื่อว่านางหนูพันธ์

         และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึงโรงพยาบาลได้ของผู้เสียชีวิตให้การกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าคนที่ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางหนูพันธ์จนถึงแก่ความตายนั้นเป็นสามีใหม่ของนางหนูพันธ์ซึ่งเขาเพิ่งจะย้ายมาอยู่บ้านของนางหนูพันธ์เพียงแค่ 4 เดือนเท่านั้นเอง  

โดยทางญาติของนางหนูพันธ์ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าช่วงเวลาประมาณตี 1 คนร้ายที่ทำร้ายนางหนูพันได้รับบาดเจ็บได้เดินไปเรียกเพื่อนบ้านให้ช่วยเรียกกู้ภัยมานำร่างนางหนูพันธ์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

             เนื่องจากว่ามีการทะเลาะวิวาทกันและนางหนูพันธ์ยังเกิดหกล้มในห้องน้ำจนสลบ  ซึ่งคนร้ายไม่ได้เดินทางพานาหนูผ่านมาส่งที่โรงพยาบาลด้วยแต่ยังคงกินเหล้าและนอนอยู่ในบ้านพัก  ดังนั้นหลังจากที่ส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลแล้วนางหนูพันธ์เสียชีวิตเพื่อนบ้านจึงได้มีการโทรแจ้งญาติของนางหนูพันธ์ให้ทราบและมีการแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับมีคนเสียชีวิต

       ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้มีการเดินทางไปยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นบ้านของนางหนูพันธ์และล้อมบ้านเอาไว้หลังจากนั้นก็บุกเข้าไปจับกุมผู้ก่อเหตุซึ่งขณะที่ตำรวจบุกเข้าไปนั้นผู้ก่อเหตุยังอยู่ในอาการเมาไม่ได้สติหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกผู้ก่อเหตุเพื่อมาพูดคุยกันโดยใช้ที่ก่อเหตุนั้นชื่อว่านายอนันต์  ซึ่งเขาได้เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่าเมื่อช่วงคืนของวันที่ 18 เดือนตุลาคมนั้น

เขาได้งานทอดกฐินหลังจากนั้นก็กินเหล้าเมากลับมาและเกิดมาทะเลาะกับนางหนูพันธ์ที่บ้านเนื่องจากว่านางหนูพันธ์นั้นมีอาการหึงหวงตนเองว่าตนเองนั้นจะกลับไปคืนดีกับเมียเก่าเราว่าทั้งตัวเขาเพิ่งเลิกกับเมียเก่ามาสวนนางหนูพันธ์ก็เพิ่งเลิกกับสามีมาและมาใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 

                 แต่หลังจากย้ายมาอยู่ด้วยกันก็ทะเลาะเรื่องการหึงหวงกันมาโดยตลอดซึ่งเมื่อคืนก็เกิดอาการหึงหวงกันอีกด้วยความเมาในอันนั้นจึงได้จับหัวของนางหนูพันธ์โขกตรงที่บริเวณประตูจนมีเลือดออกทางปากและจมูกหลังจากนั้นนางหนูพันธ์

ก็เข้าไปล้างเลือดในห้องน้ำแล้วเกิดหกล้มลื่นในห้องน้ำ ซึ่งนายอนันต์ได้เดินออกไปบอกเพื่อนบ้านให้ช่วยตามกู้ภัยมาพานางหนูพันธ์ไปรักษาที่โรงพยาบาลหลังจากนั้นตนเองก็นอนหลับอยู่ภายในบ้านโดยไม่คิดว่าภรรยาจะเสียชีวิต  

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ufabet บาคาร่าออนไลน์

จบแล้วคดี หวย 30 ล้าน

จบแล้วคดี หวย 30 ล้าน

จบแล้วคดี หวย 30 ล้าน ศาลอุทธรณ์ ยกฟ้อง หวยเป็นของคุณลุงจรุญจริง

          สำหรับเรื่องของหวย 30 ล้านนั้น  นับได้ว่าเป็นเรื่องราวมหากาพย์เลยทีเดียวเพราะตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมามีการต่อสู้แย่งชิงหวย 30 ล้านนี้จนเป็นข่าวโด่งดังใหญ่โต  เชื่อว่าหลายคนคงจำได้ดีกับคดีหวย 30 ล้านที่มีอดีตนายตำรวจที่ชื่อว่าคุณลุงจรูญกับคุณครูที่โด่งดังประจำจังหวัดที่ชื่อว่าครูปรีชาได้แย่งหวยกัน  โดยมีพยานเป็นคนในพื้นที่โดยเฉพาะคนขายลอตเตอรี่ได้มีการยืนยันขายลอตเตอรี่ให้กับคุณครูปรีชา

        ซึ่งในตอนนั้นได้มีคลิปเสียงออกมาเป็นจำนวนมากมีตัวละครหลายตัวที่ไม่เกี่ยวกับลอตเตอรี่ก็ออกมาพูดถึงเรื่องเงิน 30 ล้านพร้อมร่วมกันเป็นพยานและยังมีหลักฐานต่างๆนานาออกมาสู้กัน  อย่างไรก็ตามในท้ายที่สุดแล้วศาลก็ได้สั่งตัดสินว่าลอตเตอรี่ 30 ล้านนั้นเป็นของคุณลุงจรูญเนื่องจากพยานหลักฐานต่างๆที่ต้องครูปรีชาออกมาต่อสู้นั้นเป็นหลักฐานที่อ่อนมากเรียกได้ว่าถ้าไม่มีคำให้การของคนขายลอตเตอรี่ที่อยู่เคียงข้างครูปรีชาก็ไม่สามารถบอกได้เลยว่าลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้นเป็นของครูปรีชาจริงๆ

      แต่ถึงแม้ว่าศาลจะมีการตัดสินว่าลอตเตอรี่เป็นของ คุณลุงจรูญแต่ปรากฏว่าคุณครูปรีชาก็ยังไม่ยอมท้อถอยได้มีการส่งศาลขออุทธรณ์ให้มีการสืบสวนสอบสวนใหม่ และยังมีการแจ้งคดีความกันอีกหลายคดีจนเรื่องราวลุกลามใหญ่โตเป็นคดีที่โด่งดังมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์เกี่ยวกับคดีลอตเตอรี่หวย 30 ล้าน  อย่างไรก็ตามแต่หลังจากที่มีการสู้คดีกันมาอย่างยาวนานเป็นระยะเวลา 3 ปีในท้ายที่สุดดีแล้วศาลอุทธรณ์ก็ได้สั่งยกฟ้องโดยมีการพิพากษาออกมาว่าลอตเตอรี่ 30 ล้านนั้นเป็นของคุณลุงจรูญจริงๆไม่ใช่ของครูปรีชา

           อย่างไรก็ตามแต่การถูกหวย 30 ล้านในครั้งนี้ของคุณลุงจรูญนั้นทำให้คุณจรูญกว่าจะได้ใช้เงิน 30 ล้านก็ต้องขึ้นโรงพักขึ้นศาลอยู่หลายครั้งซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นทุกขลาภเลยก็ว่าได้แต่ถึงแม้จะเป็นทุกขลาภในที่สุดคุณลุงจรูญก็สามารถฟันฝ่าอุปสรรคได้ในตอนนี้คุณลุงจรูญสามารถนำเงิน 30 ล้านที่ถูกรางวัลมาใช้จ่ายได้แล้วหลังจากที่รอคอยมาอย่างยาวนาน

            และเชื่อว่าคดีนี้น่าจะเป็นตัวอย่างให้กับใครอีกหลายคนที่คิดจะไปโกงลอตเตอรี่ของคนอื่น ให้คิดให้รอบคอบเพราะกฎหมายมีความเที่ยงธรรมอยู่เสมอและถ้าคุณไม่ใช่คนที่ถูกลอตเตอรี่จริงๆก็ไม่ควรโลภที่จะเอาลอตเตอรี่ของคนอื่นเราไม่ใช่เพียงแค่คุณจะกลายเป็นคนโลภในสายตาของคนทั้งประเทศอย่างเดียว แต่การโลภอยากได้ของคนอื่นจะทำคุณติดคุกได้

 

สนับบสนุนเรื่องราวโดย  เว็บคาสิโนเปิดใหม่

เมียหลวงประจานเมียน้อย สามีแย้งเพราะเมียหลวงมีชู้ก่อน

เมียหลวงประจานเมียน้อย สามีแย้งเพราะเมียหลวงมีชู้ก่อน

      กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงอยู่ในโลกโซเชียลเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งอ้างตัวเองว่าเป็นเมียหลวงได้มีการโพสต์คลิปวีดีโอและภาพลับของสามีที่กำลังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอื่นโดยเธอใช้คำว่าเมียน้อยด้วยในข้อความของเธอนั้น

มีการระบุเอาไว้ว่า สามีของฉันมีผู้หญิงคนอื่นและผู้หญิงคนดังกล่าวก็ยังยอมรับออกมาโดยตรงพร้อมใช้ยังส่งรูปภาพการมีอะไรกันกับสามีของเธอมาให้เธอดูตามให้เธอต้องโพสต์ภาพนี้ให้กับคนในโซเชียลได้รู้  ซึ่งเมื่อ Facebook ได้มีการเผยแพร่ออกไปต่างก็มีคนพากันมาวิพากษ์วิจารณ์สามีของเธอรวม

ถึงเมียน้อยที่กระทำผิดไปหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเป็นข่าวดังใหญ่โตทางฝั่งของสามีของเมียหลวงก็ได้ออกมาขอชี้แจงกับทางนักข่าวโดยสามีคนดังกล่าวชื่อว่าคุณนนท์ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวไว้ว่าที่จริงแล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ตนเอง

และคนที่ได้ชื่อว่าเป็นเมียน้อยได้รับความเสียหายทั้งที่เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริงอย่างที่เมียหลวงมีการโพสต์เอาไว้เลยคุณยังเล่าข้อมูลให้ฟังว่าตอนที่คุณนนท์อยู่กับภรรยานั้นภรรยาของคุณนนท์ได้แอบมีชู้กับไปคบกับแฟนเก่าแต่ยังนำเงินของคุณนนท์ไปช่วยเหลือแฟนเก่าอยู่ตลอดเวลาทำให้คุณนนท์และภรรยาทะเลาะกัน และได้มีการเลิกกันไปแล้วเมื่อ 3 เดือนก่อน

ก่อนที่คุณนนท์จะมาคบกับผู้หญิงคนใหม่และมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนใหม่ดังนั้นคุณนนท์ยืนยันได้ว่าผู้หญิงคนใหม่ที่อยู่ในคลิปไม่ได้เป็นเมียน้อยอย่างแน่นอนแต่เป็นแฟนใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นคบกันส่วนสาเหตุที่ภรรยาเก่านำคลิปของคุณนันมาเผยแพร่นั้น

เนื่องจากภรรยาเก่าไม่พอใจที่เดินทางมาขอเงินคุณนนท์ 5,000 บาทที่บ้านแล้วคุณมันไม่ให้โดยทางภรรยาเก่าน่าจะแอบเซฟรูปจากมือถือของเขาขณะที่เขาเผลอแล้วเอาไปลงโซเชียลซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้คุณนั้นบอกว่าจะไม่มีการแจ้งความดำเนินคดีใดๆ

กับทางภรรยาเก่าแน่นอนเพราะว่าเริ่มได้ผ่านไปแล้วถึงแม้ว่าตนเองและทางแฟนใหม่ของตนจะเสียหายก็ตามแต่หลังจากนี้ก็ขอให้ทำภรรยาเก่าเลิกราไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคนอื่นและแฟนใหม่อีก 

     สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้เรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างไรนั้นเป็นเรื่องราวของคนทั้งหมดเพราะแต่ละคนก็มีหลักฐานว่าอีกฝ่ายหนึ่งผิดเพิ่งทางด้านสามีเองก็มีคลิปเสียงว่าแฟนเก่าของภรรยามีการโทรมาด่าว่าโง่และยังบอกอีกว่าภรรยาเก่าของตนเองเอาเงินไปให้แฟนเก่าใช้ตลอดเวลาดังนั้นทางสามีจะบอกว่าตนเองไม่ผิดที่จะไปมีผู้หญิงคนอื่นเพราะภรรยาเองก็มีการกลับไปคบกับแฟนเก่าเช่นเดียวกัน 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1

สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรม

สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรม

          สำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนสอนวิธีปฏิบัติธรรมประหลาดจนชาวบ้านร้องเรียน

            สำหรับประเทศไทยของเรานั้นมีสถานปฏิบัติธรรมหลายพื้นที่หลายแห่งมากแต่มีอยู่ที่หนึ่งที่จังหวัดสระแก้วที่มีความแตกต่างแตกแยกไปจากสถานปฏิบัติธรรมที่อื่นๆ นี่จะเป็นสถานปฏิบัติธรรมที่จะเน้นให้ผู้คนที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่หัดปฏิบัติธรรมด้วย

การขับลมเพื่อเป็นการฟอกลมรักษาโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ ฝึกสมาธิของที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ก็คือจะให้นักปฏิบัติธรรมได้ทำการนั่งฝึกสมาธิและหายใจเข้าออกด้วยจังหวะที่เร็วเพื่อเป็นการฟอกลม ซึ่งเรื่องนี้มีชาวบ้านได้มีการร้องเรียนเข้ามาให้ช่วยตรวจสอบให้หนอ่ย

เพราะชาวบ้านเห็นว่าสถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้มีวิธีการสอนคนที่มาปฏิบัติธรรมจากแรกนั่นก็คือให้ยืมหายใจแรงๆเป็นลักษณะของการฟอกลม พร้อมกับเปล่งเสียงออกมาให้คล้ายกับเสีัยงสัตว์ตามปีนักษัตร ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าคนแต่ละคนเกิดปีอะไรก็จะต้องออกเสียงมาตามเสียงนักษัตรนั้น

ซึ่งพอชาวบ้านเห็นว่ามีการปฏิบัติธรรมแบบจึงอยากจะให้มาตรวจสอบว่าการที่ต้องหายใจแรงๆและมีการแต่งเสียงออกมานี้จะมีอันตรายต่อคนที่มีอาการป่วยอยู่แล้วหรือไม่อย่างเช่นกลุ่มคนที่เป็นพวกโรคหายใจอาจจะทำให้ช็อคได้หรือไม่

ซึ่งวิธีการปฏิบัติทำแบบนี้ถือว่าเป็นวิธีการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องหรือไม่ดังนั้นชาวบ้านจึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยลงเข้าไปตรวจสอบพื้นที่ว่าสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เปิดมาอย่างถูกต้องหรือไม่อย่างไร ซึ่งหลังจากที่มีข่าวการร้องเรียนเข้ามาทางนครได้มีการลงพื้นที่เพื่อลงไปดูสถานการณ์ของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้

โดยมีการอยู่ที่ อำเภอเขาชะกันเป็นพื้นที่ในจังหวัดสระแก้ว ซึ่งที่นี่ก็มีพระส่งฆ์คอยดูแล และเมื่อทางเจ้าหน้าที่ลงมาตรวจสอบก็ได้มีการนำเจ้าคณะจังหวัดลงมาด้วยซึ่งก็ได้มีการสั่งการว่าให้สำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้หยุดการปฏิบัติธรรมชั่วคราวก่อนและได้มีการให้เจ้าอาวาสจากวัดอื่นมาช่วยดูแล

เนื่องจากว่าผู้ที่เป็นเจ้าของสำนักปฏิบัติธรรมแห่งนี้เดินทางไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดอื่นอยู่ ชื่อว่าหลวงพ่อดี ซึ่งตอนนี้หลวงพ่อไม่อยู่ไปปฏิบัติธรรมที่จังหวัดเพชรบูรณ์และตรวจสอบเพิ่มเติมแล้วว่าที่นี่เป็นสำนักปฏิบัติธรรมเถื่อนและยังไม่ได้ขออนุญาติ

  ซึ่งในขณะที่มีการแจ้งปิดสถานีทางเจ้าหน้าที่ของจังหวัดก็ได้มีการควบคุมตัวของผู้คนที่มาปฏิบัติธรรมที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้เอาไว้ก่อนโดย = ตัวไว้ประมาณ 14 วันตามเงื่อนไขของรัฐบาลก่อนที่จะมีการปล่อยตัวให้กลับบ้านได้ค่ะไม่ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

ส่วนนักข่าวได้มีการสัมภาษณ์ผู้ที่มาปฏิบัติธรรมที่นี่ต่างก็ให้ข้อมูลตรงกันว่าเมื่อทำกิจกรรมอย่างที่หลวงพ่อได้สอนแล้วก็รู้สึกว่าอาการเจ็บไข้ได้ป่วยดีขึ้นจึงคิดว่าวิธีการนี้เป็นวิธีการที่ไม่ได้เสียหายอะไรดีกว่าการนั่งสมาธิเฉยๆแล้วไม่มีอะไรดีขึ้นมา

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  gclub

งบประมาณปี 63 ไทยเตรียมซื้ออาวุธ

งบประมาณปี 63 ไทยเตรียมซื้ออาวุธ

งบประมาณปี 63 ไทยเตรียมซื้ออาวุธและกระสุนด้วยงบประมาณ 247 ล้านบาท 

        ตอนนี้ประเทศไทยเองก็มีการจัดสรรงบประมาณของและหน่วยงานกระทรวงต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการบริหารประเทศแต่งบประมาณส่วนใหญ่นั้นทางรัฐบาลเองก็ได้มีการขอร้องกระทรวงต่างๆให้มีการแบ่งงบประมาณที่เคยขอไว้ว่าหากยังไม่มีการนำเงินไปใช้อะไรก็ให้นำเงินส่วนนั้น

ไปช่วยเหลือประชาชนในช่วงที่ทุกคนกำลังต้องการความช่วยเหลือเยียวยาเพราะผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าซึ่งอย่างที่เราเคยติดตามข่าวสารกันมาว่ากระทรวงต่างๆก็มักจะมีเหตุผลออกมาเรื่องของบประมาณว่าไม่สะดวกในเรื่องของการปันผลเงินงบประมาณออกมาให้กับประชาชน

เนื่องจากได้มีการวางแผนงานเอาไว้และมีการยื่นเอกสารการดำเนินการกันไปหมดแล้วซึ่งบางกระทรวงเมื่อมีการตรวจสอบเชิงลึกลงไปก็พบว่าเงินในกระทรวงต่างๆก็ยังคงเหลือเยอะและไม่มีการวางแผนที่จะใช้งานกับเงินจับเงินก้อนนั้นยังไง และวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้รับรู้เกี่ยวกับเรื่องของบประมาณการจัดจ้างจัดซื้อของกรมสรรพาวุธทหารบก

ซึ่งมีการได้รับงบประมาณไปในครั้งแรกที่จะนำเงินไปซื้อเรือดำน้ำโดยเมื่อมีข่าวหลุดรอดออกมาประชาชนส่วนใหญ่ต่างก็ไม่เห็นด้วยเพราะประเทศไทยเองไม่จำเป็นต้องใช้เรือดำน้ำในการทำสงครามอะไรซึ่งตอนนี้มีรายงานเกี่ยวกับเรื่องของบประมาณของกรมสรรพาวุธทหารบกออกมาอีกแล้วว่าจะมีการใช้งบประมาณ 247 ล้านบาท

ในการไปซื้อกระสุน  ไม่ว่าจะเป็นกระสุนปืน  กระสุนระเบิด กระสุนปืนใหญ่หรือแม้แต่จรวจ ซึ่งนี้มีการระบุว่าเป็นงบประมาณที่ต้องมีการจัดซื้อเข้ามาในประเทศสำหรับข้อมูลการจัดซื้อเหล่านี้แน่นอนว่าเป็นส่วนที่ทางการทหารควรจะต้องมีไว้เพื่อปกป้องประเทศแต่ถ้าหากพูดตามหลักความเป็นจริงแล้ว

ในตอนนี้ทั่วโลกไม่มีใครก่อสงครามไม่จำเป็นต้องรีบซื้ออาวุธปืนเหล่านี้ก็ได้สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ทางรัฐบาลเองต้องนำงบประมาณเหล่านี้มาช่วยเหลือประชาชนที่กำลังจะอดตายตอนนี้อยู่มากกว่าหรือไม่แต่ก็พยายามสรรงบประมาณเหล่านี้ออกไป

เพื่อไปซื้อสิ่งที่ไม่ควรซื้อเชื่อว่าถึงแม้จะซื้ออุปกรณ์เหล่านี้เข้ามาในประเทศไทยตอนนี้ก็ใช่ว่าประเทศไทยจะต้องไปสู้รบปรบมือกับใครหรือมีใครมาแย่งดินแดนของประเทศไทยในช่วงนี้ก็ไม่มีสักหน่อยทำไมต้องสิ้นเปลืองงบประมาณไปกับการซื้ออาวุธเหล่านี้แทนที่จะเห็นความลำบากของประชาชนเป็นหลัก

แต่กับเห็นการซื้ออาวุธปืนซึ่งแน่นอนว่าเราก็ต้องรู้กันดีอยู่แล้วว่างบประมาณเหล่านี้ใช้ในการซื้ออาวุธแค่เพียงครึ่งหนึ่งและอีกครึ่งนึงก็เข้ากระเป๋าของพวกมีสีแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย  gclubฟรี500

หนุ่มขับรถผ่านด่านเคอร์ฟิวมาได้เพราะนำบัตรตำรวจเก่าหมดอายุของพ่อมาเบ่ง

หนุ่มขับรถผ่านด่านเคอร์ฟิวมาได้เพราะนำบัตรตำรวจเก่าหมดอายุของพ่อมาเบ่ง

  เหตุการณ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นที่จังหวัดสิงห์บุรี เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งได้มีการโพสต์ข้อความลงเฟสบุ๊กบอกเล่าเรื่องราววีรกรรมที่ตัวเองเพิ่งไปสร้างมา เมื่อวันที่ 7 เดือนพฤษภาคม ปี พ.ศ. 2563 โดยเขาได้โพสต์ภาพของตัวเองถือบัตรข้าราชการตำรวจ

และมีการเขียนข้อความเชิงอวดให้กับเพื่อนในเฟสของเขาว่า เขาเพิ่งนำบัตรใบนี้ไปอวดเบ่งกับเจ้าหน้าที่คุมด่านเคอร์ฟิวมาซึ่งเขารอดมาได้ไม่ถูกจับเพราะบัตรข้าราชการตำรวจของพ่อ และที่กลายเป็นจุดที่น่าสนใจของโพสต์นี้ก็คือ บัตรของพ่อเขาหมดอายุหลายปีแล้ว  

เมื่อเรื่องราวนี้ได้มีการแชร์ต่อต่อกันมาหลายคนได้เข้าไปต่อว่าชายหนุ่มคนดังกล่าวที่มีการนำเอาบัตรพ่อมาเบ่งกับคนอื่น แต่หลายคนก็เข้ามาเม้นต์กับข้อความนี้ในแนวเป็นเรื่องที่ชวนหัวเราะ ซึ่งกระแสการวิพากษ์วิจารณ์ก็มีหลากหลายกันไป 

ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลายคนมองว่าสิ่งที่ชายหนุ่มคนนี้ทำนั้นไม่เป็นการสมควรเป็นอย่างยิ่ง เพราะไม่เคารพต่อกฏหมายและที่สำคัญตำรวจที่มีหน้าที่ตั้งด่านตรวจก็ไม่ควรจะกลัว

แค่บัตรที่ชายหนุ่มนำมาข่มขู่ เพราะจะเห็นได้ว่าเพียงแค่แสดงบัตรว่าเป็นลูกของใครก็กลัวกันจนลนลาน จนไม่ตรวจสอบให้ดีด้วยซ้ำว่าบัตรใบนี้หมดอายุไปหลายปีแล้ว

      สำหรับตัวของชายหนุ่มนั้นหากว่ามีการนำบัตรของพ่อมาขู่เจ้าหน้าที่ด่านจริงก็ไม่ควรที่จะนำเรื่องราวเหล่านี้มาโพสต์เพื่อบอกให้คนอื่นได้รู้วาตัวเองเพิ่งทำเรื่องที่ไม่ดีมา และยังมีการนำเอาชื่อเสียงของพ่อมาสร้างความเสียหาย เรียกว่าเป็นการโพสต์โชว์ความโง่เลยก็ว่าได้

เพราะหากทำความผิดแบบนี้แล้วไม่โพสต์ก็จะไม่มีใครรู้ว่าเราทำแบบนี้มา และคงไม่มีใครด่าเอาได้ แต่เมื่อมีการโพสต์ประจานกับการทำไม่ดีของตัวเองย่อมต้องมีคนเข้ามาด่าเป็นธรรมดา เรียกว่าโพสต์โชว์โง่กันเลยทีเดียวแถมยังจะทำให้พ่อของตัวเองเดือดร้อนตามไปด้วย

เพราะมีการแสดงชื่อพ่อในบัตรลงบนโพสต์หราเลย ส่วนคนที่จะเดือดร้อนอีกคนก็คือกลุ่มคนที่ตั้งด่านและยอมปล่อยตัวชายคนนี้เพียงแค่เพราะกลัวบัตรที่เขาเอามาข่มขู่แสดงว่ามีการเลือกปฎิบัติ เป็นการทำงานที่สองมาตรฐานทำให้เขาอาจจะเดือดร้อนในการงานได้

เพราะเรื่องราวที่เขายกเว้นการปฏิบัติหน้าที่มันกลายมาเป็นข่าวใหญ่โตและคนอื่นอื่นก็จะเดือดร้อนตามมาอีกด้วยว่าคนที่ฝ่าฝืนเคอร์ฟิวร์เพราะเดือดร้อนกลับบ้านไม่ทันจริงจริงตำรวจก็คงจะไม่ช่วยอีกแล้วเพราะกลัวตัวเองจะเดือดร้อนแน่นอน

 

ขอขบคุณผู้ให้การสนับสนุนโดย  พนันออนไลน์ ฝากขั้นต่ำ100

คุณหมอขอระบายเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหวที่ต้องสู้กับโควิด-19

คุณหมอขอระบายเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหวที่ต้องสู้กับโควิด-19

คุณหมอขอระบายเหนื่อยจนแทบทนไม่ไหวที่ต้องสู้กับโควิด-19แต่ก็ไม่อาจทิ้งจรรยาบรรณแพทย์ได้ 

          เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ของประเทศไทยนั้นมีปัญหาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19เป็นจำนวนมากและบุคคลที่ได้รับความเสี่ยงมากที่สุดในขณะนี้ก็คือบุคลากรทางการแพทย์โดยเฉพาะหมอและพยาบาลที่ต้องอยู่กับผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19แทบจะตลอดเวลา

พวกเขาเหล่านี้ต้องเสียสละชีวิตส่วนตัวและมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับพวกเขาถึงกับชีวิตได้เลยทีเดียวแต่ด้วยจรรยาบรรณทางการแพทย์ที่เขามีอยู่ทำให้เขายังคงต้องรักษาคนไข้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ถึงแม้เขาเองก็กลัวว่าตัวเองจะต้องติดเชื้อในสักวันหนึ่งก็ตามที่สำคัญเมื่อเขาจะต้องมารักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19แล้ว

เขาจำเป็นต้องจากครอบครัวไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่  พี่น้อง  สามีภรรยา  หรือแม้แต่ลูกๆของเขาซึ่งเขาไม่สามารถเข้าใกล้บุคคลเหล่านั้นได้เนื่องจากต้องห่วงความปลอดภัยของคนในครอบครัวของตนเองเพราะตนเองเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับคนที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19โดยตรงดังนั้นภาพที่เราเห็นส่วนใหญ่จึงเป็นได้แค่เพียงการที่พวกเขาต้องยืนมองคนที่พวกเขารักอยู่ห่างๆเท่านั้น

แต่ไม่สามารถกอดหรืออยู่ใกล้ชิดกันได้เหมือนกับครอบครัวอื่นๆซึ่งมี Facebook หนึ่งได้มีการระบุข้อความของนายแพทย์หนุ่มคนหนึ่งซึ่งเป็นนายแพทย์ประจำสถาบันจักรีนฤบดินทร์และยังเป็นนายแพทย์ที่ต้องไปดูแลโรงพยาบาลรามาธิบดี

โดยเขามีการระบุว่าเขาอยากให้ประชาชนรับรู้ว่าทุกวันนี้ที่เขาทำนั้นเขารู้สึกเหนื่อยและท้อแท้มากเพราะเขาคือบุคคลที่อยู่ติดกับเชื้อไวรัสโควิด-19มากกว่าคนอื่นเขาต้องทำงานตั้งแต่เช้ายันดึกและทำงานที่ต้องใกล้ชิดกับผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบนี้ในทุกๆวัน

ซึ่งเขาถือว่าชีวิตเขาเสียงดังมากที่สักวันหนึ่งอาจจะมีการติดเชื้อไวรัสโควิด-19ได้ไม่ใช่แค่เพียงตัวเขาเองเท่านั้นที่เหนื่อยบุคลากรทางการแพทย์คนอื่นๆเองก็เหนื่อยและท้อแท้เช่นเดียวกันในทุกๆวันจะมีผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19เดินทางมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก

ซึ่งพวกเขาไม่ได้พักผ่อนเลย ซึ่งอันที่จริงแล้วพวกเขาอยากจะกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวแต่ด้วยตัวของพวกเขาเองคือบุคคลที่ต้องดูแลผู้ป่วยเพราะถ้าหากว่าผู้ป่วยขาดพวกเขาแล้วแล้วก็ก็จะไม่มีใครรักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ไห้หายได้

ซึ่งนี่คือความในใจของคุณหมอที่เป็นผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสดังนั้นในฐานะที่เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ได้ฟังข้อความระบายจากทางคุณหมอแล้วก็ควรจะมีการช่วยเหลือคุณหมอและบุคลากรทางการแพทย์คนอื่นๆให้ทำงานเหนื่อยน้อยลงด้วยการลดความเสี่ยงในการที่จะปล่อยให้ตนเองติดเชื้อไวรัสพวกเขาเหล่านั้นจะได้มีเวลาพักผ่อนและสามารถกลับไปอยู่กับครอบครัวของตนเองได้เหมือนเดิม

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  เว็บพนันบอลฝากขั้นต่ำ 100

Theme: Overlay by Kaira Extra Text
Cape Town, South Africa